วอเนอร์ เสนอเรื่องย่อภาพยนตร์ MISS CONGENIALITY 2: ARMED AND FABULOUS WB-OWNED STORY

ข่าวทั่วไป Friday March 4, 2005 13:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--วอเนอร์ บราเธอร์ส
ผู้อำนวยการสร้างมือเก่า ไม่ได้เป็นตำแหน่งแรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อเอ่ยชื่อแซนดร้า บุลล็อค แต่จากภาพยนตร์จำนวนแปดเรื่องที่เธอเป็นผู้อำนวยการสร้าง นับได้ว่าเป็นความเหมาะสมที่จะบรรยายถึงความเป็นเธอมากกว่าอย่างอื่น และอย่างที่เธอเปิดเผยในกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เธอทั้งแสดงและอำนวยการสร้างฯ เรื่อง Miss Congeniality 2: Armed and Fabulous ภาคสองของภาพยนตร์คอมเมดี้ยอดฮิตระดับโลกของปี 2000 เรื่อง Miss Congeniality บุลล็อครู้สึกคลั่งไคล้การทำงานหลังกล้องเช่นเดียวกันกับที่เธอรู้สึกยามอยู่หน้ากล้อง เธอพูดถึงหนังเรื่องนี้ของเธอว่าเป็น “ลูกน้อย”
และแม้แต่หลังจากที่ได้แสดงและอำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างเรื่อง Miss Congeniality และ Two Weeks Notice บุลล็อคยอมรับว่าการทำหลายหน้าที่ในเวลาเดียวกันของเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
“เหมือนเป็นโรคจิตผสมกับคนที่บุคลิกภาพแตกแยก” บุลล็อคเล่า “เป็นเรื่องที่เครียดพอดูเลย”
ในระหว่างช่วงพักจาการถ่ายทำภาพยนตร์คอมเมดี้ของวอร์เนอร์ บราเดอร์ พิกเจอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล บุลล็อคก้าวออกมาจากหนึ่งในหลายๆ ฉากของสตูดิโอ The Lot สู่แสงแดดอันอบอุ่นของเมืองลอสแอนเจลิสเพื่อคุยกับกลุ่มนักข่าว นักแสดงสาวซึ่งอยู่ในเครื่องแต่งกายครบชุด คุยให้ฟังถึงการรับมือกับงานประจำวันของเธอ
“ฉันพบว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวเองพยายามดิ้นรนและอยากจะควบคุมทุกอย่าง ทุกๆ ครั้ง จะต้องมีบางอย่างผิดเพี้ยน” บุลล็อคกล่าว เธอยอมรับว่าก่อนหน้านี้เธอ “ได้รับผลกระทบด้านร้าย” จากเรื่องชีวิตที่เกิดขึ้นนอกกล้อง แต่จากประสบการณ์บุลล็อคกล่าวว่า “ฉันได้เรียนรู้ที่จะทำตัวให้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ”
สำหรับฉากนี้ บุลล็อคถูกจับให้แต่งเป็นเจ้าหน้าที่เอฟปีไอนอกเครื่องแบบ เกรซี่ ฮาร์ท เวอร์ชั่นผู้สูงอายุ ที่เธอรับบทในหนังเรื่องนี้ เสื้อสเวตเตอร์สีเขียวสดและยีนส์ตัดขาที่เธอสวมอยู่ทำให้นึกไปถึงผู้หญิงที่ไม่ยอมแก่ ส่วนถุงเท้ากางเกงขายาวหนังกลับและหน้าอกปลอมที่เหี่ยวยานทำให้ตัวละครของเธอดูน่าขัน และช่างตรงกันข้ามกับการใช้เวลาหลายอาทิตย์ในการถ่ายทำ ซึ่งในบางครั้งต้องใช้ถึงห้าทีมซึ่งประกอบด้วยคน 100 ทำงานอย่างต่อเนื่อง บุลล็อคดูผ่อนคลายมาก
เมื่อถูกถามถึงเหตุผลในการกลับมาอำนวยการสร้างและแสดงภาพยนตร์อีกครั้ง บุลล็อคพูดอย่างติดตลกว่า “ฉันคงจะชอบการแสดง ถ้าไม่งั้นก็คงไม่ทำหรอก ฉันทำให้ตัวเองยอมรับอยู่ตลอดแหละ!”
นักแสดงสาวอธิบายว่า เธอตกลงใจที่จะร่วมงานอีกครั้งกับมาร์ค ลอวเรนส์ เพราะเธอมีความรู้สึกถึงพลังในเรื่องราวของเจ้าหน้าที่สาวเอฟบีไอผู้มุ่งมั่น ที่ใช้รูปร่างหน้าตาของเธอในแบบไม่ธรรมดาเพื่อจับกุมอาชญากร จนกระทั่งเกิดสถานการณ์ตลกขบขันตามมา
“มาร์คกับฉันทำหนังเรื่องนี้เพราะฉันเบื่อเรื่องที่นักแสดงตลกชายได้รับบทในหนังคอมเมดี้” บุลล็อคกล่าว ตั้งข้อสังเกตุว่าหนังโรแมนติคคอมเมดี้มักเป็นพาหนะของพวกนักแสดงหญิง
อย่างที่บุลล็อคอธิบาย ไม่มีเรื่องโรแมนติคมากนักในเรื่อง Miss Congeniality 2: Armed and Fabulous “มันเป็นเรื่องของพวกถูกสังคมทอดทิ้ง — เหมือนอย่างเราๆ ฉันว่านะ ในชีวิตเรา — พยายามทำให้สิ่งที่สัญชาติญาณบอกว่าถูก” บุลล็อคกล่าว “ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอะไรที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่สังคมคาดหวังจากเธอ”
ลอว์เรนส์ ซึ่งเคยเขียนและอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของ Miss Congeniality ร่วมกับบุลล็อค และได้กำกับฯ เรื่อง Two Weeks Notice กล่าวว่าการทำงานในหนังที่เป็นคอมเมดี้ที่แสดงออกอย่างเต็มรูปแบบ เป็นเรื่องที่ทั้งเขาและบุลล็อคเห็นพ้องต้องกันตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มเตรียมเรื่อง
“เราสนใจที่จะทำให้มันเป็นหนังที่เกี่ยวกับหญิงสาวที่ค้นพบตัวเองผ่านมิตรภาพจากหญิงสาวอีกคนหนึ่ง” ลอว์เรนส์พูดถึงตัวละครของบุลล็อค และมิตรภาพในจอของเธอกับเรจิน่า คิง คู่นักแสดง เขาเสริมอีกว่าตัวละครหลักนั้น “ไม่ต้องเอาตัวเองไปผูกไว้กับความสัมพันธ์กับผู้ชาย เพื่อจะมีชีวิตที่ดี”
ด้วยเหตุนี้ Miss Congeniality 2: Armed and Fabulous จึงได้วิวัฒน์จากเรื่องแรก ซึ่งแสดงถึงเรื่องราวที่มีองค์ประกอบของความรักที่หนักแน่นในความสัมพันธ์ระหว่างฮาร์ทและเอริค แมทธิวส์ เพื่อนร่วมงานของเธอ ซึ่งรับบทโดยเบนจามิน แบรตต์
“เริ่มต้นเรื่องของเราด้วยการตัดความสัมพันธ์ครั้งนั้น” ผู้กำกับกับฯ จอห์น พาสควินกล่าว “และวิธีรอดพ้นจากความสับสนทางอารมณ์แบบนั้น กับวิธีการปรับตัวของคนเรา” หลังจากเลิกรากับแมทธิวส์ ฮาร์ทผู้ซึ่งกลายเป็นคนดังหลังจากการขึ้นเวทีประกวดสาวงามในเรื่องแรก ออกเดินสายเพื่อสาธิตเทคนิคในการจับกุมอาชญากรของเธอ แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก แซม ฟุลเลอร์ คู่หูที่ซื่อสัตย์อย่างดุเดือดของเธอ ซึ่งรับบทโดย คิง ฮาร์ทได้รู้ความจริงว่าเธอกำลังตกเป็นเครื่องมือของหัวหน้าของเธอ ซึ่งรับบทโดยทรีท วิลเลียมส์
คิง ซึ่งเพิ่งรับบทในหนังโรแมนติคคอมเมดี้เรื่อง A Cinderella Story และภาพยนตร์ชีวประวัติของเรย์ ชาร์ลส เรื่อง Ray ขยายความถึงการจับคู่กับตัวละครของบุลล็อคว่า “ยอดเยี่ยม” ตัวละครของคิงเป็นเจ้าหน้าที่หญิงอารมณ์ร้อน ซึ่งมีปัญหาในการทำงานกับคู่หู เธอได้รับมอบหมายอย่างไม่เต็มใจเพื่อดูแลความปลอดภัยให้ฮาร์ท และในเวลาต่อมาความไม่ชอบหน้าเธอกลับกลายเป็นความนับถือ
คิงมีความรู้สึกว่าเนื้อเรื่องซึ่งเน้นถึงมิตรภาพระหว่างสองสาวเป็นเรื่องที่โดดเด่น: “ฉันขอปรบมือให้กับแซนดร้าที่ต้องการยึดติดกับสูตรนี้” เธอรู้สึกว่าบุลล็อค กับลอว์เรนส์และผู้กำกับฯ ประสบความสำเร็จกับการเก็บรายละเอียดของธรรมชาติมิตรภาพระหว่างผู้หญิง มิตรภาพที่ไม่เคยมีใครทำมาตั้งแต่หนังคู่หูผู้หญิงเรื่อง “Thelma and Louise”
“ในฐานะผู้หญิง เราสื่อได้เป็นอย่างดี เพราะมันคือสิ่งที่เราเป็นมาแต่เล็กแต่น้อย” เธอกล่าว “เรารู้สึกเกลียดขี้หน้าเพื่อนเป็นเวลา 20 นาทีและต่อมาในวันเดียวกันเราก็แบ่งข้าวกลางวันกินกัน พวกเราเป็นแบบนั้นแหละ”
ทีมผู้สร้างยังได้ใส่ภาพที่ตลกขบขันมากมายในมิตรภาพนี้ และ “มีฉากการต่อสู้ดุเดือดหลายฉากในเรื่องนี้” บุลล็อคกล่าวเสริม
พาสควินเปิดเผยว่าบุลล็อคและคิงแสดงฉากการต่อสู้ด้วยตนเองเกือบทุกฉาก นอกจากในส่วนที่เป็นอันตราย อย่างเช่นฉากในน้ำที่คาสิโนรีสอร์ทแนวโจรสลัดที่ชื่อว่า Treasure Island ในลาสเวกัส ซึ่งถ่ายทำกันในแทงค์น้ำจริงๆ ที่สตูดิโอวอร์เนอร์ บราเดอร์ส หลังจากหกสัปดาห์ของการถ่ายทำในลาสเวกัสและแปดสัปดาห์ที่ The Lot กองถ่ายย้ายไปยังนิวยอร์คในช่วงอาทิตย์สุดท้าย
แต่ส่วนใหญ่ของเรื่องถ่ายทำกันที่ The Lot ซึ่งเป็นสตูดิโอที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง และเป็นที่รู้จักกันมาก่อนในชื่อ Warner Hollywood Studios ฉากหนึ่งได้แก่ Drag Scene ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ มาเฮอ อาหมัด และเป็นแนวโอเอซิสกลางทะเลทรายที่เต็มไปด้วยสีสัน ที่มีโต๊ะไฟเบอร์กลาสและที่นั่งสายรูปสัตว์ ในฉากนี้เป็นช่วงที่จะได้เห็นดอลลี่ พาร์ตันเพื่อแสดงความระลึกถึง ในขณะที่ฮาร์ทกับคู่หูกำลังไล่ตามจับตัวนางงามสาวประเภทสองที่ปลอมตัวเป็นโจแอน ริเวอร์ส
เนื่องมาจากความตั้งใจที่จะให้หนังเรื่องนี้เป็นคอมเมดี้ที่แสดงออกอย่างเต็มรูปแบบ พาสควินกล่าวว่า จริงๆ แล้วคิงเป็นตัวเลือกที่ไม่น่าจะใช่ของเขาสำหรับบทบาทนี้ในตอนแรก
“แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือเธอตัวเล็กมาก” พาสควินพูดถึงนักแสดงสาว “และเรากำลังมองหาคนที่จะดูน่าประทับใจ เพราะตัวละครแซมนั้นเป็นคนบึกบึน เอาจริงเอาจัง เป็นเจ้าหน้าที่แบบติดดิน ที่ต้องใช้ร่างกายเป็นอย่างมาก” แต่ความจริงที่ว่าคิงเตี้ยและตัวเล็กมันจึง ”ทำให้ตลกมากขึ้นไปอีก เพราะเธอไม่เคยหยุดนิ่ง” เขากล่าว
ทีจรงแล้ว นอกเหนือจากบรรดาฉากที่ตระการตา พาสควินอธิบายว่ามิตรภาพระหว่างสองหญิงนั้นช่างเต็มไปด้วยความตลกขบขัน
“หวังว่าในเรื่องแบบนี้ เราพยามยามทำให้ในแนวที่จะเป็นการกระตุ้นคนและเรียกเสียงหัวเราะไปด้วย” พาสควินเสริม “นั่นเป็นส่วนที่ยากที่สุด — การสร้างโลกที่เต็มไปด้วยภาพตลก แต่ก็มีความเป็นจริงของอารมณ์ที่คนจะเชื่อได้”
ลอว์เรนส์ซึ่งเขียนและอำนวยการสร้างเรื่อง Miss Congeniality 2: Armed and Fabulous, รู้สึกว่านี่เป็นคุณภาพที่ภาพยนตร์เก็บรายละเอียดไว้ด้วย ต้องขอขอบคุณไม่เพียงแต่การทำงานหลังกล้องของบุลล็อค แต่ยังเมื่ออยู่หน้ากล้องอีกด้วย
“มีความเชื่อถือในตัวนักแสดงบางคนที่สามารถใส่ลงไปให้กับความตลก ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำยากที่สุด” ลอว์เรนส์กล่าวถึงบุลล็อค “และเธอก็ดีที่สุดที่เราจะหาได้”
สูตรการทำงานแบบนักแสดง-ผู้อำนวยการสร้างของบุลล็อคเป็นสิ่งที่พาสควินแสดงความกระตือรือร้นมาก เขาบรรยายถึงบุลล็อคว่าเป็นคนที่รับฟังและเอาใจใส่ ไม่ตายตัวและเข้าถึงได้
พาสควินเคยร่วมงานกับบุลล็อคในซีรีส์คอมเมดี้โทรทัศน์เรื่อง George Lopez ซึ่งเธอเป็นผู้อำนวยการบริหาร แต่เขากล่าวว่าเรื่อง Miss Congeniality 2: Armed and Fabulous เป็น “ครั้งแรกที่ผมเคยทำงานกับดาราที่เป็นผู้อำนวยการสร้างด้วยในหนัง ผมหวังว่าทุกๆ ประสบการณ์จะเป็นเหมือนเรื่องนี้”
สมาชิกอีกคนหนึ่งของทีมงานและนักแสดง ก็ได้แสดงความชื่นชมต่อบุลล็อค เอลิซาเบ็ธ โรห์ม ในบทบาทเจ้าหน้าที่เอฟบีไอขี้อิจฉาที่อยู่แผนกเดียวกับบุลล็อค กล่าวว่าสิ่งที่เธอรักมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือ การที่บุลล็อคเป็น “คนที่ทุ่มเทมากในฐานะนักแสดง”
ในขณะที่แสดง โรห์มอธิบายว่า บุลล็อค “ไม่ไปยืนอยู่หน้ามอนิเตอร์และคอยแก้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ สำหรับฉันแล้วมันดูเหมือนเธอแยกส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการแสดงที่ดี และการเป็นส่วนหนึ่งของทีม...”
จากมุมมองของเธอ บุลล็อกล่าวว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะมี “การจดชวเลขเรื่องตลก” ในระหว่าเข้าฉาก กับผู้เขียนและผู้กำกับฯ ของเธอ
“เราทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี” เธอกล่าว “เราบอกว่าเราจะไม่ทำหนังเรื่องนี้ นอกจากว่าเราจะมีหนังที่แข็งแรงพอจะยืนด้วยตัวเอง หรือไม่งั้นก็เท่าๆ กับหรือดีกว่าเรื่องแรกอีกหนึ่งก้าว”
แทบทุกคนในกองถ่ายลงความเห็นว่าพวกเขาทำสำเร็จได้ ก็เพราะการทุ่มเทของบุลล็อค ซึ่งทั้งในฐานะนักแสดงและผู้อำนวยการสร้าง โรห์มอธิบายว่ามันเป็นเรื่องของการ “เข้ากันได้เป็นอย่างดี” ที่สมบูรณ์แบบ
--จบ--

แท็ก ภาพยนตร์  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ