Movie"Texas Chainsaw 3D"

ข่าวบันเทิง Thursday January 3, 2013 13:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม ประเภท Horror 3D กำหนดฉาย 10 มกราคม 2012 บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์ อำนวยการสร้าง คาร์ล มาสโซโคเน่ (Saw 1-7) กำกับ จอห์น ลุซเซนฮอป (Takers, Lockdown) เขียนบท สตีเฟ่น ซัสโค่ (The Grudge 1 & 2, Red)นำแสดง อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ้ (Percy Jackson, Hall Pass, ซีรี่ย์ White Collar) เทรย์ ซองส์ (ศิลปินชื่อดัง ทำเพลงให้ Step Up 3D, Step Up 2: The Streets) สก็อตต์ อีสวู้ด (Trouble with the Curve, Gran Torino) บีล โมซีเล่ย์ (Halloween, Army of Darkness) เนื้อเรื่อง 28 ปีที่แล้ว... เมืองเล็กๆในรัฐเท็กซัส เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นกับวัยรุ่น 5 คน พวกเขาไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่าจะต้องเจอกับความวิปริตและโหดร้ายเท่านี้มาก่อนในชีวิต สุดท้ายแล้วมีเพียงผู้หญิงคนเดียวที่รอดกลับมาบอกเล่าเรื่องราว แต่นี่ก็เป็นเพียงตัวจุดชนวนให้กับความสยดสยองที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่า น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในค่ำคืนนั้นยังมีผู้รอดชีวิตอยู่อีกคน นั่นคือเด็กทารกที่ถูกเลี้ยงให้เติบโตขึ้นมา โดยไม่เคยรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งสายเลือดที่แท้จริงของเธอ เวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน เด็กคนนั้นก็เติบโตขึ้นมาเป็น เฮทเธอร์ มิลเลอร์ (อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ้) ที่วันหนึ่งก็ได้พบว่าตัวเองได้รับบ้านจากคุณยายที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเป็นมรดก เฮทเธอร์ เดินทางไปรัฐเท็กซัสกับเพื่อนของเธอ นิคกี้ (ทาเนีย เรย์มอนด์), ไรอัน (เทรย์ ซองส์), และ เคนนี่ (คีรัม มิลิคกี้-ซานเชส) และรับคนโบกรถขึ้นมาอีกคนที่ชื่อ แดริล (ฌอน ซิโพส) เมื่อพวกเขามาถึงบ้าน เฮทเธอร์ ก็รู้สึกตื่นเต้นกับบ้านหลังโตที่เธอได้รับเป็นมรดก แต่ในสัญญาบอกว่ามีกฏก็คือห้ามขายบ้านหลังนี้ และต้องทำตามคำสั่งที่เขียนเอาไว้ในจดหมายของคุณย่า แต่ก่อนที่เธอจะได้อ่านจดหมาย เฮทเธอร์ และเพื่อนๆก็ต้องเผชิญหน้ากับญาติของเธออีกคน ที่อาศัยอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านหลังนั้น... เฮทเธอร์ ต้องการรู้ว่าแท้จริงแล้วเชื้อสายของมาจากไหน แต่เพื่อที่จะทำเช่นนั้นเธอก็ต้องเอาชีวิตรอดคืนนี้ไปให้ได้ เพราะญาติของเธอคนนี้ไม่สนว่าเหยื่อของเขาจะเป็นใครหน้าไหน... เขาแค่ต้องการแค่ความตายเพียงเท่านั้น Texas Chainsaw 3D เป็นผลงานภาคต่อของ “สิงหาสับ” เวอร์ชั่นปี 1974 ตัวจริงเสียงจริง อำนวยการสร้างโดย คาร์ล มาสโซโคเน่ จาก Saw ทั้ง 7 ภาค ถ่ายทอดทั้งในระบบสามมิติและระบบปกติ นำแสดงโดย อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ้ จาก Percy Jackson ร่วมด้วย เทรย์ ซองส์ นักร้องอาร์แอนด์บีชื่อดัง, สก็อตต์ อีสวู้ด (Trouble with the Curve), บีล โมซีเล่ย์ (Halloween) และ ทาเนีย เรย์มอนด์ (ซีรี่ย์ Lost) จุดเริ่มต้นการสร้าง คาร์ล มาสโซโคเน่ ประธานบริษัท Twisted Pictures ผู้สร้างแฟรนไชส์สยองขวัญที่ประสบความสำเร็จที่สุดในศตวรรษที่ 21 อย่าง Saw ที่มีมาแล้วทั้งหมด 7 ภาค ก็เริ่มมองหาโปรเจ็คสยองขวัญที่มีสาวกเหนียวแน่น เมื่อเขาทราบว่าสิทธิ์ของ Texas Chainsaw Massacre สุดคลาสสิกได้กลับไปยังเจ้าของดั้งเดิมอย่าง โรเบิร์ต คูร์น และ คิม เฮนเคิ้ล เขาก็ได้นั่งเครื่องไปที่ออสตินเพื่อเล่าถึงแนวทางที่ต้องการทำกับภาคใหม่ของแฟรนไชส์ ที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆแต่ยังเคารพต่อต้นฉบับ ในที่สุดด้วยแรงใจและไอเดียของ มาสโซโคเน่ เขาก็ได้รับอนุญาตในการเอาสิทธิ์มาสร้างตำนานใหม่อีกครั้ง มาสโซโคเน่ เผยถึงแนวทางว่า "ผมคิดว่าหนังสยองขวัญที่ยอดเยี่ยมต้องมีความเป็นสากล เพราะพวกเราต่างก็มาจากพื้นเพและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บางทีหนังดราม่าหรือหนังตลกอาจถูกรสนิยมเพียงแค่คนในชาติ แต่หนังสยองขวัญเป็นภาษาสากล เป้าหมายหลักของมันคือการทำให้คนดูรู้สึกกลัว การมีตัวละครที่น่าเชื่อถือและเหมือนจริง ผมคิดว่านั่นคือสัมผัสที่ถูกลืมไปในช่วงหลังของหนังสยองขวัญ" มาสโซโคเน่ ยังพูดถึงสิ่งที่ทำให้เขาต้องการนำเรื่องนี้มาสร้างว่า "ผมคิดว่า Texas Chainsaw Massacre ฉบับ 1974 เป็นหนังที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างกันมา ผมเป็นแฟนตัวยงของต้นฉบับ ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้มันคลาสสิกก็คือความสมจริง ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่า สิ่งที่คุณกำลังเห็นคือของจริง ตอนที่มันเข้าฉายในโรงหนัง หลายคนก็คิดว่านี่คือเรื่องจริงและก็ยังเชื่อจนถึงทุกวันนี้ ผมคิดว่ามันน่าเป็นจุดเริ่มที่ดีในการที่เราจะมาสานต่อเรื่องราวจากภาคแรก" หลังจากที่ มาสโซโคเน่ ร่วมทำงานกับผู้เขียนบทอดัม มาร์คัส และ เดบร้า ซัลลิแวน เพื่อสานต่อเรื่องราวที่เกิดต่อจากปี 1974 เขาก็ขอให้ผู้กำกับ จอห์น ลุซเซนฮอป เข้ามารับหน้าที่กำกับ โดย ลุซเซนฮอป ก็เหมือนกับหลายๆคน เมื่อเขาต้องใช้เวลามากกวาหนึ่งครั้งในการดูหนังต้นฉบับให้จบ "ผมกลัวแทบตายเลยครับ ผมต้องหยุดดูทันทีในฉากที่ผู้หญิงโผล่มาจากห้องแช่แข็ง ผมรวบรวมความกล้าเพื่อกลับไปดูมันในวันถัดมา เพื่อให้เข้าใจทุกสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้คลาสสิก เข้าใจถึงแนวทางของผู้กำกับต้นฉบับ โทบี้ ฮูเปอร์ สร้างโลกใบนี้ขึ้นมา" หลังจากดูจบ ลุซเซนฮอป ก็เผยว่า "มันเป็นหนังสยองขวัญที่มีคุณค่าทางศิลปะ ทั้งการใช้องค์ประกอบของดวงอาทิตย์และดวงงจันทร์ การถ่ายทำด้วยไวด์ช็อตมากกว่าโคลสอัพ เขาถ่ายทำในแนวทางก่อนที่รายการเรียลลิตี้จะถือกำเนิดขึ้น และใช้การตัดต่อให้น้อยที่สุด เพื่อที่คุณจะได้เห็นความสมจริงแบบชัดๆเต็มๆตา มันคือหนังเรื่องแรกในโลกที่คุณได้เห็นความโหดและสยองแบบไม่มีตัด ไม่มีการใช้เอฟเฟ็คหรือการตัดต่อเข้าช่วย และมันก็ยังสร้างตัวละครคลาสสิกในโลกของหนังสยองขวัญขึ้นมาด้วย" มาสโซโคเน่ ก็ได้เสริมถึงสิ่งที่ทำให้ เลทเธอร์เฟช กลายเป็นตำนานว่า "สิ่งที่ทำให้ เลทเธอร์เฟช แตกต่างจาก เฟรดดี้ หรือ เจสัน ก็คือมันยึดติดอยู่กับความจริง เลทเธอร์เฟช เป็นผู้ชาย แต่ก็มีพัฒนาการทางด้านอารมณ์เท่ากับเด็ก 9 ขวบ ถ้าเทียบผมคิดว่าเขาก็เหมือนกับฉลามขาว เลื่อยไฟฟ้าของเขาเหมือนกับฟันของฉลาม ถ้าคุณโชคร้ายเจอกับการโจมตี เนื้อของคุณก็จะฉีกเป็นชิ้นๆ เลทเธอร์เฟช ก็เหมือนกับผู้ล่าที่จะไล่ตามคุณจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย" แนวทางของบทภาพยนตร์ภาคใหม่นี้ถือว่ามีความพิเศษ โดยทั้ง มาสโซโคเน่ และ ลุซเซนฮอป ก็ตัดสินใจที่จะกลับไปสู่รากเหง้า ด้วยหลังจากที่เรื่องราวในปี 1974 ปิดฉากด้วย แซลลี่ วัยรุ่นสาวเป็นเพียงผู้รอดคนเดียวจากเงื้อมมือของตระกูลซอว์เยอร์และ เลทเธอร์เฟช แต่ภาคต่อในอีก 5 ภาคที่ผ่านมากลับไม่ได้พูดถึงเรื่องราวต่อจากนั้นเลย ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไปตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคนดูว่า เกิดอะไรขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้น มาสโซโคเน่ เผยถึงแนวทางของพวกเขาในการสร้างว่า "จอห์น และผมใช้เวลากว่า 3 เดือน ในการทำให้บทภาพยนตร์มีความสมจริงและซื่อตรงต่อการเป็นภาคต่อ พวกเราต้องการสร้างมิติให้กับทุกตัวละคร ผมคิดว่ามันไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการดูหนังสยองขวัญแย่ๆ ที่ตัวละครทำอะไรแบบไร้ที่มาที่ไป หรือตอบสนองกับทุกอย่างแบบไร้เหตุผล จนทำให้คุณอดที่จะเซ็งไปกับพฤติกรรมไม่ได้ มันทำให้ใจของคุณหลุดออกจากสิ่งที่อยู่ด้านหน้า พวกเราพยายามสร้างหนังสยองขวัญที่สมจริง ที่ทุกการตัดสินใจของตัวละครสมเหตุสมผลและน่าขนลุก เราต้องการทำให้คนดูอยู่ติดกับเก้าอี้" เพื่อเพิ่มความสมจริงขึ้นไปอีกระดับ นี่ถือเป็นครั้งแรกของ Texas Chainsaw ที่ถ่ายทำในระบบสามมิติ ซึ่งแนวทางการทำก็ไม่เพียงต้องการแค่ที่จะเพิ่มความสยดสยอง แต่ภาพสามมิติก็ยังมีส่วนในการเสริมสร้างเรื่องราวอีกด้วย ลุซเซนฮอป อธิบายว่า "ผมชอบหนังสามมิติที่ทำให้ผู้ชมต้องหลบหรือตกใจเวลามีอะไรพุ่งเข้าใส่ แต่ผมก็ยังอยากสร้างโลกสามมิติที่ดึงคุณเข้าไปในจอภาพยนตร์ด้วย พวกเราพยายามทำให้มันมีองค์ประกอบแบบหนังของ อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก ที่มีองค์ประกอบมากมากที่เกิดขึ้นอยู่ในจอ ไม่ใช่แค่สิ่งที่อยู่ข้างหน้าเพียงอย่างเดียว คุณลองคิดดูว่ามันจะออกมาน่าทึ่งแค่ไหน ถ้าทุกอย่างมันเด้งออกมาในระบบสามมิติ" ผู้อำนวยการสร้าง มาสโซโคเน่ ก็เห็นด้วยกับผู้กำกับ เขาเผยว่า "ผมเชื่อว่าแฟนๆจะไม่ผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ในระบบสามมิติ พวกเราใช้เวลากันหลายเดือนในการทำ และเราก็ยังใช้กล้องสามมิติ Red Epic ที่ดีที่สุดในปัจจุบันในการถ่ายทำ และแม้แต่บทภาพยนตร์ก็ยังถูกเขียนโดยมีภาพสามมิติอยู่ในสมอง พวกเราไม่ต้องกาทำให้คนดูปวดหัว แต่อยากให้คุณได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น และต้องตกใจกลัวสุดขีดเมื่อเลื่อยไฟฟ้าสุดโหดมาอยู่ใกล้ปหน้าคุณในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน" การคัดเลือกนักแสดง สำหรับการสร้างตัวละครในเรื่อง ทีมงานสร้างก็ได้ใช้รูปแบบเดียวกับต้นฉบับ นั่นคือกลุ่มวัยรุ่นที่เดินทางเข้าไปในใจกลางรัฐเท็กซัส แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือทัศนคติและแนวทางของตัวละครที่ไม่เหมือนกับคนในยุค 70 ผู้อำนวยการสร้าง คาร์ล มาสโซโคเน่ ก็ได้พูดถึงการเลือกนักแสดงหญิงว่า "วินาทีที่ อเล็กซานดร้า เดินเข้ามาในห้อง ผมก็รู้ทันทีว่าเธอเหมาะสมที่สุดในการรับบทเป็น เฮทเธอร์ เธอมีส่วนผสมของความแกร่งและความสวย ในแบบที่นักแสดงหญิงสมัยนี้มีอยู่ไม่มาก และเธอก็มีความเป็นมืออาชีพในแบบที่ผมคาดไม่ถึงมาก่อน ผมคิดว่าหนังสยองขวัญที่ดีต้องมีตัวละครหญิงที่แข็งแกร่ง และ อเล็กซานดร้า ก็มีคุณสมบัตินั้นครบทุกอย่าง" อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ้ ที่ทุกคนเคยเห็นจากการรับบทเป็นนักแสดงนำหญิงในหนังแอ็คชั่น-แฟนตาซี Percy Jackson and the Olympians ก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เข้ามารับบทเป็น เฮทเธอร์ เธอเผยว่า "มันคือเป็นหนึ่งในตำนานหนังสยองขวัญที่และฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เข้ามาแสดงนำ แต่บทภาพยนตร์ครั้งนี้ก็แตกต่างจากภาคต่อทั่วๆไป นั่นคือมันมีเรื่องราวที่ควรค่าแก่การสืบสานตำนาน ฉันคิดว่า เฮทเธอร์ เป็นตัวละครที่แข็งแรงกว่าตัวละครหญิงคนอื่นๆในหนังแนวนี้ มันมีการผสมผสานทั้งความเป็นหนังทริลเลอร์และสยองขวัญ และก็ยังมีปริศนาที่ทำให้คนดูต้องสงสัยไปตลอดเรื่องอีกด้วย" ในขณะที่ตัวละครนำฝ่ายชาย ผู้กำกับ จอห์น ลุซเซนฮอป ก็รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเขาไปร่วมงานประกาศรางวัลทางดนตรี BET และก็ได้พบกับ เทรย์ ซองส์ นักร้องอาร์แอนด์บีชื่อดังที่ร้องเพลงขึ้นเวที เขาเผยว่า "เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดคนหนึ่ง ผู้ชมภายในฮอลล์ต่างก็กรีดร้องเมื่อเขาขึ้นร้องเพลง วันรุ่งขึ้นผมจึงตัดสินใจติดต่อไปหาผู้จัดการส่วนตัว เพื่อถามว่าเขาสนใจที่จะเข้ามารับบทเป็นแฟนหนุ่มของ เฮทเธอร์ ในหนังหรือไม่" ผู้จัดการส่วนตัวของ เทรย์ ซองส์ ก็นัดให้นักร้องชื่อดังเข้ามาพูดคุยกับผู้กำกับ โดย เทรย์ ก็กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเริ่มต้นเส้นทางการแสดงกับเรื่องนี้ว่า "มีหลายสิ่งที่น่าสนใจในการเข้ามารับบทนี้ ผมพยายามหาหนังที่เหมาะสมที่สุดในการก้าวเข้ามาในโลกการแสดง ผมเองก็เป็นคอหนังสยองขวัญอยู่แล้ว และผมก็รู้ว่าแฟรนไชส์นี้มันมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ภาพยนตร์แค่ไหน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้ามาแสดงเรื่องนี้" สำหรับนักแสดงที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่า 6 ฟุต 6 ทำให้ แดน ยีเกอร์ ก็ถูกเลือกเข้ามารับบทเป็น เลทเธอร์เฟช โดยเขาก็ได้พูดถึงโอกาสในการถ่ายทอดตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ในโลกหนังสยองขวัญว่า "หนึ่งในม้วนวิดีโอแรกที่ผมซื้อก็คือ The Texas Chainsaw Massacre ซึ่งปัจจุบันผมก็ยังเก็บมันไว้ เลทเธอร์เฟช ถือเป็นตัวละครที่อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่หนังสยองขวัญ เขาไม่ใช่ผู้ร้ายหรือสัตว์ประหลาด แต่เขาเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นแบบนั้น ผมอยากจะถ่ายทอดมุมมองนี้ของ เลทเธอร์เฟช ให้ดีที่สุด" ในขณะเดียวกัน Texas Chainsaw 3D ก็ถือว่ามีความพิเศษกว่าภาคที่ผ่านๆมา เมื่อทีมงานได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทีมนักแสดงต้นฉบับ ที่กลับมารับบทรับเชิญเพื่อให้เป็นเกียรติกับภาคต่อที่มีความซื่อสัตย์มากที่สุด มาสโซโคเน่ เผยว่า "ตั้งแต่แรกเลย ผมพยายามติดต่อ กุนนาร์ เฮนเซ่น ที่รับบทเป็น เลทเธอร์เฟช ต้นฉบับให้มาปรากฏตัวในหนัง เพราะผมคิดว่าเขาคือ เลทเธอร์เฟช ที่ดีที่สุดในตำนานแฟรนไชส์นี้ ในขณะเดียวกันพวกเราก็ยังได้ มาริลีน เบิร์นส ที่รับบทเป็น แซลลี่ ก็กลับมาแสดงในอีกบทบาทที่จะทำให้แฟนๆของ Texas Chainsaw ต้องตะลึง" มาริลีน เบิร์น ผู้หญิงที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวในต้นฉบับ Texas Chainsaw ก็ได้กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้เธอกลับมาแสดงในแฟรนไชส์ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักว่า "ตลอดหลายปีที่ผ่านมาฉันเห็นภาคต่อของ Texas Chainsaw ที่มีอะไรบางอย่างขาดหายไป แต่เมื่อได้อ่านบทของ Texas Chainsaw 3D ฉันก็รู้สึกถึงแรงขับเคลื่อนที่เหมือนกับที่ฉันเคยสัมผัสเกือบ 30 ปีก่อน มันมีทั้งความโหดและความฉลาดอยู่ในบท และมันก็ยังให้เกียรติและเคารพกับตัวละครทุกตัว และฉันก็ยังชอบปริศนาและการหักมุมในตอนท้ายของหนังอีกด้วย" เบื้องหลังงานสร้าง หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของหนัง ก็คือการสร้างหนังหน้ามนุษย์ที่ เลทเธอร์เฟช ต้องสวมใส่ตลอดทั้งเรื่อง โดยทีมงานเมคอัพจาก KNB ก็ได้จำลองหน้ากากต้นฉบับในปี 1974 ขึ้นมาให้เหมือนทุกองค์ประกอบ ในขณะที่ก็ยังสร้างหน้ากากใหม่ขึ้นมาอีกสองชิ้น ไมค์ แม็คคาร์ธี่ย์ ผู้สร้างหน้ากากก็อธิบายว่า "เลทเธอร์เฟช จะเลาะหนังหน้าของเหยื่อมาทำเป็นหน้ากาก โดยนอกจากหน้ากากต้นฉบับที่พวกเราจำลองขึ้นมา พวกเราก็สร้างหน้ากากใหม่ขึ้นมาอีกสองชิ้นเพื่อให้ เลทเธอร์เฟช ได้สวมใส่ ชิ้นแรกก็จะดูมีความเก่าและมีรอยเย็บ มันเป็นอันที่เขารักและสวมใส่เกือบทั้งเรื่อง และอีกชิ้นที่เขาสวมใส่ในช่วงสุดท้ายของหนัง ที่ดูน่าสยดสยองและเป็นตัวแทนของความวิปริตที่เขาพร้อมปลดปล่อยใส่เหยื่อ" Texas Chainsaw 3D เริ่มถ่ายทำในวันที่ 18 กรกฏาคม 2012 โดยในเมือง ชรีฟพอร์ต ทางตะวันตกของแอลเอ ซึ่งใช้เป็นตัวแทนของเมืองในใจกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งก็เหมือนกับต้นฉบับที่ทีมงานต้องเผชิญหน้ากับคลื่นความร้อน เมื่อตลอด 47 วันของการถ่ายทำในภาคนี้นี้ อุณหภูมิก็ทะลุสูงกว่า 100 องศาฟาเรนไฮส์ ถึงแม้ทุกคนจะเหน็ดเหนื่อยกับการถ่ายทำ คนที่หนักที่สุดคือผู้ชายที่รับบทเป็น เลทเธอร์เฟช ผู้อำนวยการสร้าง คาร์ล มาสโซโคเน่ เล่าว่า "แดน ยีเกอร์ เป็นผู้ชายที่ทำงานหนักที่สุดในกองถ่าย นอกจากสภาพอากาศที่ร้อนตับแตกทุกวัน เขาต้องสวมชุดที่มีหลายชั้น ใส่หน้ากากที่ทำจากยางที่ไม่ระบายอากาศ และยังต้องวิ่งไล่ฆ่าเหยื่อด้วยเลื่อยไฟฟฟ้าหนักกว่า 30 ปอนด์ แต่เขาก็ไม่เคยปริปากบ่นเลย" อีกหนึ่งสถานที่ที่ถือว่าเป็นโลเคชั่นถ่ายทำที่สำคัญก็คือค่ายทหารมินเด็น ที่เป็นค่ายทหารประจำเมืองชรีฟพอร์ต โดยครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นสถานที่เก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ในสงครามเกาหลีและเวียตนาม โดยหนึ่งในโกดังภายในค่ายทหาร ก็ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นโรงเชือดของ เลทเธอร์เฟช ที่จะเป็นฉากไคลแม๊กซ์ฉากหนึ่งในหนัง ด้วยความที่ทีมงานต้องการเล่าเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรก ทำให้พวกเขาต้องสร้างบ้านของตระกูลซอว์เยอร์ให้เหมือนที่สุด มาสโซโคเน่ เผยว่า "เราต้องเก็บรายละเอียดจากต้นฉบับให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าการถ่ายทำจะเป็นคนละสถานที่ แต่บ้านหลังนั้นก็ยังคงตั้งอยูในรัฐเท็กซัส พวกเราจึงส่งทีมงานไปวัดขนาดและถ่ายรูปทุกองค์ประกอบของบ้านหลังนั้น เพื่อนำมาจำลองขึ้นมาใหม่ทั้งหมดในชรีฟพอร์ต ซึ่งเราก็พบว่ามันมีความคล้ายคลึงมาก เพราะเมื่อ กุนนาร์ เฮนเซ่น และ มาริลีน เบิร์นส เดินทางมาเห็นบ้านซอว์เยอร์กับตา พวกเขาก็ถึงกับอ้าปากค้างไปเลย" หลังจาก 6 อาทิตย์ของการถ่ายทำทั้งวันทั้งคืน ในที่สุด Texas Chainsaw 3D ก็เสร็จสมบูรณ์ตามที่ทีมงานทุกคนคาดหวังไว้ โดยทีมสร้างก็หวังว่าพวกเขาได้สร้างสิ่งที่จะทำให้สาวกรุ่นเก่าต้องตื่นเต้น ในขณะที่คอหนังสยองขวัญรุ่นใหม่ก็ต้องตื่นเต้นไปกับความโหด สะใจ และการหักมุมที่คาดไม่ถึงของหนัง ผู้อำนวยการ คาร์ล มาสโซโคเน่ ได้กล่าวสรุปว่า "หนังที่ดีต้องเป็นอะไรที่สามารถบังคับจิตใจของคุณได้ ผมเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่น นั่นคือเราไม่ได้พึ่งกิมมิคของเทคโนโลยีสามมิติเพียงอย่างเดียว แต่เราพยายามจะสร้างหนังสยองขวัญที่ทั้งฉลาด โหด และคลาสสิค ทำให้เรานึกย้อนไปถึงยุคทองของหนังสยองขวัญและตัวละครที่เป็นตำนานอย่าง เลทเธอร์เฟช" ทีมนักแสดง อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ้ (รับบทเป็น เฮทเธอร์) นักแสดงสาวดาวรุ่งกลายเป็นที่รู้จักจากหนังแอ็คชั่น-แฟนตาซี Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief ที่สร้างจากหนังสือชุดสุดฮิตของ ริค ริโอแดน โดยเธอรับบทเป็น แอนนาเบธ เชส ตัวละครนำคู่กับ โลแกน เลอร์แมน โดยหนังที่กำกับโดย คริส โคลัมบัส ก็ประสบความสำเร็จทำเงินไปมากกว่า 227 ล้านเหรียญทั่วโลก และก็กำลังจะมีภาคต่อที่ชื่อ Percy Jackson & the Sea of Monsters ที่มีกำหนดฉายในซัมเมอร์ปี 2013 หลังจาก Percy Jackson ทำให้เธอเป็ฯที่รู้จัก แดดดาริโอ้ ก็มีผลงานต่อมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังของสองพี่น้องฟาเรลลี่ Hall Pass, The Babbysitters ที่เธอแสดงคู่กับ โจนาห์ ฮิลล์, รวมถึงผลงานในซีรี่ย์สุดฮฺตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น White Collar, Law & Order: Criminal Intent, Nurse Jackie, Damages และ The Sopranos แดดดาริโอ้ ยังได้ลงปกนิตยสารชื่อดังมากมาย เช่น Seventeen, Elle, และล่าสุดเธอก็ยังได้รับตำแหน่ง นักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองจาก V Magazine โดยเธอก็เกิดและเติบโตในมหานครนิวเยอร์ค ก่อนที่จะย้ายมาอาศัยในอลสแองเจลิสเพื่อเดินในเส้นทางการแสดง เทรย์ ซองส์ (รับบทเป็น ไรอัน) เขาเป็นทั้งศิลปินเพลง, นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงอาร์แอนด์บี โดยเขาเติบและเติบโตในเวอร์จิเนีย ตั้งแต่วัย 16 ปีเขาก็ถูกค้นพบและก็เซ็นสัญญากับ Atlantic Records และก็ได้ปล่อยอัลบั้มมาตั้งแต่ I Gotta Make It (2005), Trey Day (2007), Ready (2009) และล่าสุด Passion, Pain & Pleasure (2010) โดยเขาก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สองครั้งในปี 2009 และก็ได้รับรางวัล BET award ในสาขานักร้องอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม ในโลกของภาพยนตร์ เทรย์ ซองส์ ก็ได้ทำเพลงให้กับหนังดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Step Up 2: The Streets, Confessions of a Shopaholic รวมถึง Step Up 3D ที่เขาแต่งเพลงใหม่ที่ชื่อ Alrady Taken โดยหลังจากที่รับบทเล็กๆในหนังอย่าง Preacher's Kid และ Queen of Media ในที่สุด Texas Chainsaw ก็ถือเป็นผลงานการแสดงอย่างเต็มตัวเป็นเรื่องแรก สก็อตต์ อีสวู้ด (รับบทเป็น คาร์ล ฮาร์ทแมน) ผลงาน >>> Trouble with the Curve, Gran Torino, Invictus, Flags of our Fathers บีล โมซีเล่ย์ (รับบทเป็น เดรย์ตัน ซอว์เยอร์) ผลงาน >>> Halloween, Army of Darkness, The Devil's Rejects, The Texas Chainsaw Massacre 2 ทาเนีย เรย์มอนด์ (รับบทเป็น นิคกี้) ผลงาน >>>ซีรี่ย์ Lost, Bones, CSI:NY, The Cleaner, NCIS, The O’Keefes, Malcolm in the Middle ทีมงานสร้าง คาร์ล มาสโซโคเน่ (ผู้อำนวยการสร้าง) ผลงาน >>> Saw 1-7, Boxing Helena, Body Count, Repo! The Genetic Opera จอห์น ลุซเซนฮอป (ผู้กำกับ) ผลงาน >>> Takers, Lockdown, Don’t Look Back สตีเฟ่น ซัสโค่ (ผู้เขียนบท) ผลงาน >>> The Grudge 1 & 2, Red อนาสตาส มิโชส (ผู้กำกับภาพ) ผลงาน >>> The Forgotten, Cadillac Records, Perfect Stranger วิลเลี่ยม เอลเลียต (ผู้ออกแบบงานสร้าง) ผลงาน >>> Doctor Dolittle, Ghosts of Mars, Scary Movie 3 มาร์คัส แลนซิงเกอร์ (ผู้ดูแลสามมิติ) ผลงาน >>> The Amazing Spider-Man, The Green Hornet

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ