อินเทลเพิ่มคุณสมบัติ 64 บิตลงในแพลตฟอร์มโซลูชั่นสตอเรจ อีมูเล็กซ์ ใช้ Intel? TXN31011 Optical Transceiver กับโฮสต์บัสอแดปเตอร์

ข่าวเทคโนโลยี Monday November 1, 2004 09:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
ในงาน สตอเรจ เน็ตเวิร์กกิ้ง เวิลด์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศว่า บริษัทฯ ได้นำความสามารถของ 64 บิตมาไว้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนมากขึ้น เช่น การเพิ่มคุณสมบัติของเทคโนโลยี Intel? Extended Memory 64 Technology (EM64T) ไว้ในแพลตฟอร์มอินเทล? ซีออน? โปรเซสเซอร์ เพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมสตอเรจโดยเฉพาะ
นอกจากนั้นอินเทลยังได้เปิดเผยรายละเอียดว่าบริษัทฯ ได้เป็นผู้ออกแบบระบบสตอเรจแบบออพติคอลให้กับบริษัท อีมูเล็กซ์ คอร์ปอเรชั่น และเปิดตัวคอมไพเลอร์ชนิดใหม่สำหรับแอพพลิเคชั่นด้านสตอเรจด้วย
อินเทลยังได้มีการเปิดตัว อินเทล? ซีออน? โปรเซสเซอร์ รุ่นกินไฟต่ำแบบ 64 บิต ความเร็ว 2.8 GHz ที่มีซิสเต็มบัส ความเร็ว 800 MHz เพื่อเจาะตลาดแอพพลิเคชั่นสตอเรจโดยเฉพาะ เช่นคอนโทรลเลอร์สำหรับเครือข่ายสตอเรจ เป็นต้น โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่นี้มีเทคโนโลยี Intel EM64T ในตัว ซึ่งจะทำให้ระบบสตอเรจสามารถอ้างอิงแอดเดรสได้มากกว่า 4 กิกะไบต์ จึงช่วยขจัดปัญหาด้านประสิทธิภาพซึ่งเกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชั่นสตอเรจขนาดใหญ่ อาทิ โปรแกรมดาต้าเบส ได้เป็นอย่างดี
มร.ไมค์ วอล ผู้จัดการทั่วไป แผนกอุปกรณ์สตอเรจของอินเทล กล่าวว่า "ขีดจำกัดที่ 4 GB
มีผลกระทบในด้านประสิทธิภาพค่อนข้างมากต่ออุตสาหกรรมสตอเรจ การนำเอาเทคโนโลยี EM64T ลงสู่ตลาดสตอเรจจะส่งผลดีต่อแอพพลิเคชั่นสตอเรจที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อาทิเช่นโปรแกรมดาต้าเบสขนาดใหญ่ เป็นต้น วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์ทางด้านประสิทธิภาพโดยรวมของระบบที่ดีขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ยังใช้พลังงานน้อยลงจนถึงร้อยละ 50 ดังนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากความร้อนก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ทำงานร่วมกับชิปเซ็ต Intel? E7520 จะทำให้เกิดแพลตฟอร์มประสิทธิภาพสูง ซึ่งเหมาะกับลักษณะการใช้งานแบบ NAS และ SAN ที่มีเนื้อที่จำกัดและค่อนข้างอ่อนไหวกับปัญหาในเรื่องของความร้อนได้เป็นอย่างดี ส่วนเทคโนโลยีใหม่ชนิดอื่นๆ ประกอบด้วยเทคโนโลยีเมมโมรี DDR2 400 ที่มีความเร็วสูงขึ้น ซิสเต็มบัสความเร็ว 800 MHz ที่โอนถ่ายข้อมูลได้มากขึ้น และเทคโนโลยีเชื่อมต่อที่มีแบนด์วิธสูงขึ้นกว่าเดิมอย่าง PCI Express ด้วย
อีมูเล็กซ์ ใช้เทคโนโลยี อินเทล? ออพติคอล
อินเทลได้เปิดเผยว่า บริษัท อีมูเล็กซ์ จะใช้ Intel? TXN31011 Small Form Factor Optical Transceiver ความเร็ว 2 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ในโฮสต์บัสอแดปเตอร์ (HBA) รุ่นใหม่ชื่อ Emulex* LightPulse* LP101 Fibre Channel สำหรับตลาดแอพพลิเคชั่นเครือข่ายสตอเรจ (SAN) ของบริษัทขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง TXN31011 มีประสิทธิภาพสูงและมีขนาดเล็ก
สามารถสนองตอบความต้องการของโฮสต์บัสอแดปเตอร์ซึ่งอยู่ในรูปของการ์ด PCI ขนาดเล็กอย่าง LP101 ได้เป็นอย่างดี เพื่อนำไปใช้ในสล็อตที่มีความสูงมาตรฐานหรือใช้ในสล็อตของเซิร์ฟเวอร์ที่มีองค์ประกอบน้อยได้เป็นอย่างดี
การ์ด Emulex LP101 มีราคาถูก จึงสนองตอบความต้องการของตลาด SAN ของบริษัท
ขนาดเล็กที่กำลังเติบโตได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการใช้เฟิร์มแวร์ที่สามารถอัพเกรดได้ และมีไดรเวอร์แบบมาตรฐานที่สามารถใช้ได้กับ Emulex HBA ทุกรุ่นอีกด้วย นอกจากนั้นการ์ด LP101 ยังมีซอฟต์แวร์ AutoPilot? Installer และ AutoPilot? Manager ของอีมูเล็กซ์ที่ทำงานในแบบวิซาร์ดได้ ซึ่งจะทำให้การปรับแต่งตัวแปรและการควบคุมการ์ดทำได้ง่ายขึ้น
มร. โจ ทิโอลิส รองประธานด้านการตลาด ผลิตภัณฑ์ HBA ของอีมูเล็กซ์ กล่าวว่า "เมื่อทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ความเร็ว 2 Gbps ของอินเทล เราพบว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อินเทลสูงมาก เมื่อทดสอบเทียบกับผลิตภัณฑ์ของอีมูเล็กซ์จนผ่านข้อกำหนดที่เข้มงวดของเรา และยังตรงตามข้อกำหนดของ Fibre Channel ตลอดจนเงื่อนไขในการผลิตอย่างมีคุณภาพอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ อีมูเล็กซ์จึงนำ อินเทล? ออพติก มาใส่ไว้ใน LP101 HBA รุ่นใหม่ของเรา เพื่อเจาะตลาด SAN สำหรับธุรกิจขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางโดยเฉพาะ และเราจะยังคงทำงานร่วมกับอินเทลต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างระบบสื่อสารชั้นยอดให้กับลูกค้าของเราได้"
ในงาน สตอเรจ เน็ตเวิร์กกิ้ง เวิลด์ ครั้งนี้ อีมูเล็กซ์ยังได้นำเอาเทคโนโลยี Fibre Channel HBA ความเร็ว 4 Gbps รุ่นใหม่มาแสดงอีกด้วย โดยการ์ดรุ่นนี้ใช้ Intel? TXN31015 optical transceiver ส่วนเทคโนโลยี HBA ความเร็ว 4 Gbps สามารถตอบสนองต่อความต้องการระบบสื่อสารความเร็วสูงของระบบสตอเรจไฟเบอร์แชนแนล ความเร็ว 4 Gbps ที่เพิ่งมีการเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ อินเทลยังได้เปิดตัว Intel? C++ Compiler 8.1 เพื่อใช้กับ QNX Neutrino* RTOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่มักนำไปใช้ในแอพพลิเคชั่นระบบสตอเรจที่ใช้โปรเซสเซอร์แบบ 32 บิตของอินเทลเป็นหลัก คอมไพเลอร์ตัวใหม่นี้จะทำให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับคอมไพเลอร์ GNU C ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ รุ่นใหม่ของอินเทล และ C++ Compiler 8.1 ปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้ว โดยที่โปรเซสเซอร์รุ่นนี้มีราคาจำหน่าย 260 เหรียญสหรัฐ ต่อจำนวนซื้อ 1,000 ตัว
ส่วนคอมไพเลอร์นั้นเป็นการจำหน่ายผ่านบริษัท QNX Software Systems ในราคา 1,995 เหรียญสหรัฐ
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบเครือข่าย และอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
Intel, และ Intel Xeon เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของอินเทล คอร์ปอเรชั่น หรือสำนักงานสาขาในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์
* ชื่อและยี่ห้ออื่นอาจถูกอ้างอิงถึงโดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อยี่ห้อนั้นๆ
1 วัดโดยใช้โปรแกรม Embedded Microprocessor Benchmark Consortium (EEMBC) 1.1
ติดต่อ:
คุณเพชราภรณ์ เจริญนิพนธ์วานิช คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
โทรศัพท์: (66 2) 654-0654 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501
e-Mail: petch.charoennibhonvanich@intel.com e-Mail: kanpirom.ungpakorn@carlbyoir.com.hk--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ