กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน
ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวนเผยธุรกิจไอทีปีนี้จะถูกกระตุ้นจากสองปัจจัยหลักคือ 3G และการเข้าสู่ AEC ของประเทศไทย
ดร.มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกเปิดเผยว่าปัจจัยการเข้าสู่ยุคของ3G และการเข้าสู่ AEC ของประเทศไท ทำให้เกิดแนวโน้มของการเติบโตด้านไอทีใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1. (Hardware) ตัวที่น่าจับตามองคือ Mobile Devices โดยเฉพาะ Tablet PCs
ด้วยราคาที่ถูกลง และทางเลือกมากมายของอุปกรณ์ ตลอดจนการขยายโครงข่าย 3G ของผู้ให้บริการ ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยให้ mobile devicesโดยเฉพาะแท็ปเล็ตมียอดการเติบโตทั่วโลกพุ่งกว่า 76% จากปีที่แล้ว ในขณะที่ปี 2556คาดว่า อัตราการเติบโตจะเป็น 2 เท่า ของปีที่ผ่านมาและเทียบเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด โดย 2 ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้น คือ การเพิ่มขึ้นของการใช้งานแทปเล็ทในองค์กร ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน กว่า 10% ของการใช้งานแท็ปเล็ตทั้งหมด และอีกปัจจัยหนึ่ง คือ การ เปิดตัวแท็ปเล็ตขนาด 7นิ้ว นำโดย Samsung Galaxy Tab และ ipad mini และอีกหลายยี่ห้อที่จะตามมาในอีกไม่ช้า ซึ่งทั่วโลกคาดว่าจะกินสัดส่วนในตลาดถึง 1 ใน 3 ของตลาด แท็ปเล็ตทั้งหมดในขณะเดียวกันยอดจำหน่ายของพีซีและโน้ตบุ้คจะตกลงเรื่อยๆ แต่เมื่อเทียบกับรายได้ที่ชดเชยจาก Mobile Devices แล้วยังทำให้อัตราเติบโตของอุปกรณ์ไอทียังเป็นบวกอยู่ คาดว่าตลาดรวมปีหน้าโดยรวม น่าจะโตขึ้นอีก 10%
2. (Software) ธุรกิจ Mobile Applications
ตลาดคอนเทนต์และแอปพลิเคชั่นต่างๆ จะโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ใช้งาน จากสมัยก่อนที่มองว่า แอปพลิเคชั่นมักต้องฟรี แต่ตอนนี้ ผู้ใช้งานเริ่มมีการยอมรับในเรื่องการชาร์จค่าบริการที่เป็นคอนเทนต์มากขึ้น โดยจะมีการเพิ่มขึ้นของจำนวน mobile applications ที่มีทั้งหมดในตลาด อีกเกือบ 50%จากปีที่แล้ว คิดเป็นจำนวนทั้งหมดประมาณ 2,000 แอปพลิเคชั่นภายในสิ้นปี 2556 โดยจะดันยอดมูลค่าตลาดรวมให้ไปถึง 1,000 ล้านภายในเวลานั้นด้วย
ในขณะที่การมี 3G ทำให้มีการพัฒนาซอฟท์แวร์มาใช้มากขึ้น การเตรียมพร้อมสู่ AEC ในภาคธุรกิจก็ทำให้มีการนำซอฟท์แวร์ประเภทการจัดการองค์กรมาใช้มากขึ้น สืบเนื่องจากการที่ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมสำหรับ AECจึงต้องมีการจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะ การนำ ERP และ ซอฟท์แวร์ประเภท Analytics เข้ามาใช้งานในขณะเดียวกันประเทศไทยเป็นแหล่งOffshoresoftwareoutsourcing หลักแห่งหนึ่งในเอเซีย ดังนั้น ทั้งปัจจัยด้าน 3G และ AECจะสามารถดันตลาดซอฟท์แวร์ไทย ให้โตไปเกือบแตะ 10,000 ล้านได้ ภายในสิ้นปีหน้า (จาก 8.4 หมื่นล้านในปี 2554)
3. (Service) Cloud และ Data Center
เมื่อมี 3G ทำให้มีการใช้งาน mobile มากขึ้น ในขณะที่มี mobile applications ใหม่ๆ เกิดขึ้น ดังนั้น ความต้องการในด้าน infrastructure จึงตามมา และเมื่อถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยเรื่อง AEC ความต้องการของธุรกิจก็ยิ่งมีมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางในการบริการด้านไอทีในอาเซียน ตลอดจนธุรกิจต่างต้องเตรียมพร้อมด้านไอทีเพื่อรองรับโมเดลธุรกิจแบบใหม่ๆ ที่ขยายอาณาเขต ในปีที่ผ่านมา การเติบโตของคลาวด์อาจไม่มากตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการใช้งานคลาวด์ ยังต้องถูกกระตุ้นจากปัจจัยอื่น เช่น การมี infrastructure ที่ดีและเสถียร ซึ่งยังไม่มีเพราะความล่าช้าของ 3G ตลอดจนต้อง content ที่มากพอเพื่อการใช้งานโมเดลคลาวด์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งผู้ให้บริการ content ยังไม่กล้าเสี่ยงลงทุน ดังนั้นการใช้คลาวด์ในปัจจุบัน จึงไว้สำหรับการสำรองข้อมูลเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีคลาวด์อย่างเต็มที่ ดังนั้นอัตราการเติบโตของคลาวด์ในปีนี้จึงไม่มากเท่าที่ควร แต่ภายในปีหน้า คาดว่าจะโตขึ้นจากปีนี้ อีก 30%
“ในส่วนของดาต้าเซ็นเตอร์ ค่อนข้างมาแรงและเป็นผลกระทบเชิงบวกโดยตรงจาก AECทำให้ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ มี capacity เหลืออยู่ไม่ถึง 25% ต้องทำการลงทุนและขยายความจุของดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับการใช้งานที่จะเพิ่มขึ้น หลังจากมี 3G และ AEC” ดร. มนธ์สินี กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ (ฝ่ายสื่อสารองค์กร)
บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน
02 637 7414
Sasikarn.watt@frost.com