กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--บลจ.บีที
กองทุนค่ายไทยธนาคารปิดตลาดกองทุนปี 48 ด้วยการออกกองทุนคุ้มครองเงินต้น เน้นลงทุนระยะสั้นเพียง 3 เดือน โอกาสผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ย และได้รับการยกเว้นภาษี ตอบสนองความต้องการฐานลูกค้าเงินฝาก และผู้รักความเสี่ยงต่ำ
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการผู้จัดการ บลจ.บีที เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วหลายครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 จากการประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปี 2549 คาดว่าในครึ่งแรกของปี Fed Funds Rate จะปรับตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 4.75-5.0 และในส่วนอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์จะปรับขึ้นอีกประมาณร้อยละ 1.0-1.5 ในปี 2549
สำหรับตลาดตราสารหนี้ ในครึ่งแรกของปี 2549 คาดว่า อัตราผลตอบแทนอยู่ในทิศทางขาขึ้นและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในทุกช่วงอายุคงเหลือตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ส่วนในครึ่งหลังของปี อัตราผลตอบแทนยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง และมีความผันผวนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2549
ในส่วนของการลงทุนมีความเห็นว่า ตลาดตราสารหนี้จึงยังมีความน่าสนใจในการลงทุน โดยอาจจัดสรรเงินลงทุนในระยะสั้น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม เพื่อรอจังหวะการลงทุนในที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
“สำหรับ บลจ.บีที เห็นว่าภาวะช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะในการออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น จึงเสนอขายกองทุนรวมไทยธรรมคุ้มครองเงินต้น 4 ในระหว่างวันที่ 7-16 ธ.ค. 2548 เป็นกองทุนที่คุ้มครองเงินลงทุน โดยลงทุนระยะสั้น ๆ เพียง 3 เดือนเท่านั้น เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าเงินฝาก และผู้ลงทุนที่มองหาการลงทุนความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และผลตอบแทนที่ได้รับยกเว้นภาษี ผู้สนใจสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.บีที ไทยธนาคารทุกสาขา และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนที่ บลจ.บีที แต่งตั้ง” ดร.อนุสรณ์ กล่าว
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน--จบ--