กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
นิคอน เปิดตัวกล้องสองรุ่นใหม่ ในตระกูลกล้องดิจิตอลอัจฉริยะแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ นิคอน วัน ที่จะทำให้การถ่ายภาพสวยสนุกยิ่งขึ้น โดยกล้องรุ่นแรก ได้แก่ กล้องนิคอน วัน J3 กล้องรุ่นล่าสุดจาก J-Series มาพร้อมกับประสิทธิภาพการถ่ายภาพความเร็วสูงในกล้องที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดที่สุดในโลก*1 และอีกรุ่นคือ นิคอน วัน S1 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นิคอนสร้างสรรค์ขึ้น พร้อมระบบการทำงานที่ง่ายต่อการใช้งานเพื่อให้การถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลอัจฉริยะแบบเปลี่ยนเลนส์ได้เป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น
นิคอน วัน เป็นกล้องที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์การถ่ายภาพในรูปแบบใหม่ ด้วยกล้องดิจิตอลอัจฉริยะแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ประสิทธิภาพเหนือชั้น กับความรวดเร็วในการถ่ายภาพที่ได้จากระบบไฮบริดออโต้โฟกัสที่ทันสมัย จับโฟกัสวัตถุได้อย่างรวดเร็วฉับไว กล้องนิคอน วัน ยังมีฟังก์ชั่นภาพนิ่งเคลื่อนไหว (Motion Snapshot) และ ฟังก์ชั่นเลือกภาพถ่ายอัจฉริยะ (Smart Photo Selector) ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การถ่ายภาพเหนือระดับให้แก่ผู้ใช้งาน นอกเหนือไปจากนั้น กล้องนิคอน วัน J3 และ นิคอน วัน S1 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่จะทำให้คุณสนุกกับการใช้งานได้มากขึ้นอีกด้วย
นิคอน วัน J3 ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่รวดเร็วยิ่งกว่ากล้องรุ่นก่อนๆ ในตระกูลเดียวกัน โดยสามารถรองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วสูงสุดประมาณ 15 ภาพต่อวินาที (fps) พร้อมโฟกัสติดตามวัตถุ กล้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก*1 ?นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นใหม่ Slow View ช่วยให้สามารถจับภาพในช่วงเวลาที่ต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ — ผู้ใช้สามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดบันทึกเก็บไว้ได้ ไม่เพียงแค่นั้น รวมไปถึงระบบ Live Image Control โดยผู้ใช้งานสามารถดูผลความเปลี่ยนแปลงของค่าที่ตั้งไว้ได้จากจอมอนิเตอร์ก่อนที่จะถ่ายจริงได้ นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนาฟังก์ชั่นเลือกภาพถ่ายอัจฉริยะ (Smart Photo Selector) และฟังก์ชั่นภาพนิ่งเคลื่อนไหว (Motion Snapshot) รวมถึงโหมดบันทึกภาพวีดีโอคุณภาพสูงระดับแอดวานซ์ ที่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้ (ในโหมด P, S, A และ M) ยิ่งไปกว่านั้น นิคอน วัน J3 ยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่เรียบหรู ด้วยวัสดุโครงสร้างแบบโลหะส่วนด้านหน้า และสีสันสวยงามที่มีให้เลือกถึงห้าสี
นิคอน วัน S1 คือกล้องน้องใหม่ในตระกูล นิคอน วัน ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานกล้องชนิดเปลี่ยนเลนส์ได้ โดย นิคอน วัน S1 ยังคงให้ประสิทธิภาพการประมวลผลด้วยความเร็วสูง และฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายเพื่อภาพถ่ายที่สวยสมบูรณ์แบบเหมือนรุ่นพี่ตระกูล นิคอน วัน รุ่นอื่นๆ อีกทั้งยังมีระบบหน้าจอกราฟฟิกแสดงผล (Graphic User Interface - GUI) ที่ง่ายต่อการใช้งาน โดยมีให้เลือกถึงห้าสีเช่นกัน รวมไปถึงสีใหม่ คือ สีกากี ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสีที่ตรงกับสไตล์และความชอบได้
ทั้งกล้องนิคอน วัน J3 และ นิคอน วัน S1 ยังรองรับอแดปเตอร์พกพาไร้สาย WU-1b (อุปกรณ์เสริม มีวางจำหน่ายแยก) ที่นอกจากจะเพิ่มสะดวกในการอัพโหลดภาพแบบ Wi-Fi ไปยังอุปกรณ์มือถือหรือแทปเล็ตต่างๆ (Smart devices) ได้ง่ายดายแล้ว ยังสามารถแสดงภาพขณะบันทึกบนหน้าจอมือถือ และใช้เป็นรีโมทสำหรับถ่ายภาพระยะไกลได้*2
*2 ฟังก์ชั่นนี้ ต้องมีการติดตั้งโปรแกรม Wireless Mobile Adapter Utility บนอุปกรณ์มือถือก่อนการใช้งาน โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากร้านแอพลิเคชั่นได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ นิคอนยังได้เปิดตัวเคสกันน้ำชุดใหม่ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับกล้อง นิคอน วัน J3 และ S1 (ที่ใช้เลนส์ 1 NIKKOR VR 10-30mm f/3.5-5.6) เคสกันน้ำนี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเก็บภาพประทับใจเมื่ออยู่ใต้น้ำ
คุณสมบัติพื้นฐานของกล้อง นิคอน วัน J3 / นิคอน วัน S1
1. กล้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
นิคอน วัน J3 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในด้านฟังก์ชั่นพื้นฐานต่างๆ และยังได้ถูกสร้างสรรค์ให้มีรูปร่างที่กะทัดรัดตามสไตล์ นิคอน วัน กล้องรุ่น J3 นับได้ว่าเป็นกล้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก*1 ด้วยขนาดความกว้างเพียง 101 มม. ความสูง 60.5 มม. และความหนา 28.8 มม.
*1 เปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลชนิดเปลี่ยนเลนส์ได้ในรูปแบบ CX หรือที่มีขนาดเซ็นเซอร์รับภาพใหญ่กว่า ที่วางขายอยู่ในตลาด ณ วันที่ 8 มกราคม 2556 โดยอ้างอิงจากการสำรวจของนิคอน
2. ประสิทธิภาพการทำงานพื้นฐานเพื่อการถ่ายภาพที่สวยสมบูรณ์แบบ
ระบบออโต้โฟกัสไฮบริดแบบแอดวานซ์ (Advanced Hybrid AF system) ที่รวดเร็วและแม่นยำ
กล้องนิคอน วัน ทั้งสองรุ่น มาพร้อมระบบไฮบริดออโต้โฟกัสที่ล้ำสมัย ที่มีการนำเอาทั้งระบบโฟกัสอัตโนมัติทั้งแบบตรวจวัดระยะห่าง (Phase-Detection AF) และแบบตรวจจับคอนทราสต์ (Contrast-Detect AF) มาใช้ โดยระบบ Phase Detection จะจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ เหมาะสำหรับจับภาพติดตามวัตถุเคลื่อนที่ ส่วน Contrast Detect จะจับโฟกัสได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อย ดังนั้นระบบโฟกัสไฮบริดแบบแอดวานซ์ กล้องจะเลือกใช้ระบบโฟกัสที่เหมาะสมที่สุดตามการเคลื่อนที่วัตถุ และสภาวะแสง เพื่อประสิทธิภาพการจับโฟกัสสูงสุดทั้งวัตถุเคลื่อนที่ หรือในที่มีแสงน้อย
ใหม่ล่าสุดกับระบบเซ็นเซอร์ภาพแบบซูเปอร์ไฮสปีด AF CMOS Sensor และระยะเวลาหน่วงการถ่ายภาพที่สั้นที่สุดในโลก*3
ระบบเซ็นเซอร์ภาพแบบซุปเปอร์ไฮสปีด AF CMOS Sensor ฟอร์แมท CX ที่ได้รับการพัฒนาโดยนิคอน ที่สามารถบันทึกภาพถ่ายคุณภาพสูงและโฟกัสอัตโนมัติแบบความเร็วสูง กล้อง นิคอน วัน J3 และ S1 เลือกจุดโฟกัสได้ทั้งหมด 135 จุด โดยเป็นจุดโฟกัสแบบ Phase-detection จำนวน 73 จุด โดยใช้เวลาหน่วงการถ่ายภาพที่สั้นที่สุด*3 ประมาณ 15 ภาพต่อวินาที นอกจากนี้ กล้องทั้งสองรุ่นยังรองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องที่รวดเร็วที่สุดในโลก*4 ที่ทำงานพร้อมระบบโฟกัสแบบติดตามวัตถุ
นอกจากนี้ กล้องรุ่นล่าสุดในตระกูล J-series อย่าง นิคอน 1 J3 ยังมาพร้อมกับระบบการทำงานทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดภาพสูง 14.2 ล้านพิกเซล สามารถรองรับค่าความไวแสงมาตรฐาน ISO 160 — 6400 และยังสามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 22 ภาพต่อเนื่อง เมื่อบันทึกภาพที่ความเร็ว 15 ภาพต่อวินาที (พร้อมระบบโฟกัสติดตามวัตถุ) และได้สูงสุด 20 ภาพต่อเนื่อง เมื่อบันทึกภาพที่ความเร็ว 60 ภาพต่อวินาที (ไม่ใช้ระบบโฟกัสติดตามวัตถุ)
กล้องนิคอน 1 S1 ความละเอียดภาพ 10.1 ล้านพิกเซล ค่าความไวแสงมาตรฐาน ISO 100 — 6400 ถ่ายภาพได้สูงสุด 15 ภาพต่อเนื่อง เมื่อบันทึกภาพที่ความเร็ว 15 หรือ 60 ภาพต่อวินาที ที่มีประสิทธิภาพสูงเหมาะสมกับการถ่ายภาพทั่วไป
*3 เปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลชนิดเปลี่ยนเลนส์ได้ที่วางขายอยู่ในตลาด ณ วันที่ 8 มกราคม /2556 ทดสอบโดยใช้เลนส์ 1 NIKKOR VR 10-30mm f/3.5-5.6 ด้วยมุมที่กว้างที่สุด และกำหนดค่า AF ให้เป็นโหมดโฟกัสจุดเดียว ผลการทดสอบที่ได้รับอ้างอิงจากการสำรวจของนิคอน
*4 เปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลชนิดเปลี่ยนเลนส์ได้ที่วางขายอยู่ในตลาด ณ วันที่ 8 มกราคม /2556 โดยอ้างอิงจากการสำรวจของนิคอน
ตัวประมวลผลภาพ EXPEED 3A (Image-processing Engine) เพื่อการประมวลผลภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และคุณภาพไฟล์ที่ดียิ่งขึ้น
EXPEED 3A เป็นตัวประมวลผลภาพที่พัฒนามาเพื่อใช้ในกล้องนิคอน วัน โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นตัวประมวลผลภาพด้วยความเร็วสูง สำหรับฟังก์ชั่น Motion Snapshot และ Smart Photo Selector รวมไปถึงโหมดการทำงานอื่นๆ ที่ต้องการการประมวลผลด้วยความเร็วสูง รวมถึงการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง
3. ฟังก์ชั่น Slow View สำหรับบันทึกช่วงเวลาพิเศษได้อย่างเหมาะเจาะ
ฟังก์ชั่น Slow View
เมื่อใช้งานระบบ Slow View ผู้ใช้สามารถเลือกบันทึกเก็บไว้เพียงภาพเดียวที่ดีที่สุดได้
เมื่อกดปุ่มชัตเตอร์เพียงครึ่งหนึ่ง กล้องจะทำการบันทึกภาพนิ่งแบบต่อเนื่องและเล่นภาพทั้งหมดช้าๆ ซ้ำกันอย่างต่อเนื่องแบบสโลว์โมชั่นช้ากว่าความเร็วปกติห้าเท่า เมื่อผู้ใช้พบเฟรมภาพนิ่งที่ตนต้องการแล้ว เพียงกดปุ่มชัตเตอร์จนสุด ภาพนั้นก็จะถูกบันทึกไว้ ฟังก์ชั่นนี้นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการบันทึกภาพนิ่งของวัตถุที่เคลื่อนไหวที่ยากต่อการกดชัตเตอร์ให้ได้ช็อตภาพที่ต้องการ
Motion Snapshot ที่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม สำหรับรองรับการถ่ายภาพวีดิโอ มีความสามารถในการลดความสั่นไหวของภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย
ผู้ใช้สามารถบันทึกช่วงอารมณ์แห่งความรู้สึกต่างๆ ได้ด้วยการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในแบบสโลว์โมชั่นเมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ เมื่อเล่นภาพย้อนหลังภาพเคลื่อนไหวจะเล่นช้าๆ เป็นเวลา 4 วินาทีและภาพนิ่งจะแสดงเป็นเวลา 6 วินาที รวมระยะเวลาทั้งหมดเป็น 10 วินาที สำหรับภาพชุดหนึ่ง ด้วยกล้อง นิคอน 1 J3 และ นิคอน 1 S1 ผู้ใช้ยังสามารถใส่เพลงประกอบใหม่ๆ หรือสามารถเปลี่ยนเพลงได้หลังจากได้บันทึกภาพเสร็จแล้ว และผู้ใช้ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ภาพวีดิโออยู่ในส่วนใด เมื่อใช้งานในโหมด Motion Snapshot — อยู่ก่อนและหลังภาพนิ่ง หรืออยู่ก่อนภาพนิ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น electronic vibration reduction (e-VR) ในตัว เพื่อลดการสั่นไหวของภาพ
ฟังก์ชั่น Smart Photo Selector ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การบันทึกภาพต่อเนื่อง 20 ภาพ (และบันทึกภาพต่อเนื่อง 15 ภาพ ใน นิคอน 1 S1) บันทึกช่วงก่อนและหลังการกดปุ่มชัตเตอร์ โดยภาพที่คาดว่าดีที่สุดจะถูกบันทึกไว้โดยอัตโนมัติ
ฟังก์ชั่น Smart Photo Selector ในกล้อง นิคอน วัน ทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาในหลายๆ ด้าน เช่น การลดการสั่นสะเทือนของกล้องขณะถ่ายภาพและการเลือกภาพที่ดีที่สุด
4. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยฟังก์ชั่น Live Image Control
กล้องทั้งสองรุ่น มีฟังก์ชั่น Live Image Control ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูเอฟเฟคภาพที่ถูกปรับตั้งได้ทันทีที่หน้าจอ เช่น การเบลอของฉากหลังและการปรับความสว่างของภาพ ซึ่งง่ายต่อการใช้งาน โดยสามารถมุ่งเน้นไปที่ผลของภาพที่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงการตั้งค่าที่เป็นตัวเลขต่างๆ
5. ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อบันทึกภาพเคลื่อนไหวในโหมดวีดีโอ ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุดของตัวกล้องโดยไม่รบกวนการบันทึกภาพเคลื่อนไหว (สำหรับนิคอน 1 J3: วีดิโอแบบ full-HD 1080p + ความละเอียดประมาณ 14.2 ล้านพิกเซล/ ภาพนิ่งขนาด 4608 ? 3072 พิกเซล, อัตราส่วน 3 : 2 นิคอน 1 S1: วีดิโอแบบ full-HD 1080p + ความละเอียดประมาณ 8.3 ล้านพิกเซล ภาพนิ่งขนาด 3840 ? 2160 พิกเซล อัตราส่วน 16 : 9) ยิ่งไปกว่านั้น โหมดภาพเคลื่อนไหวของกล้องรุ่นนี้ มีตัวเลือกโหมด [P] [S][A] หรือ [M] ให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานเพื่อทำให้เกิดภาพเคลื่อนไหวที่มีความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
6. รองรับอะแดปเตอร์พกพาไร้สาย WU-1b (อุปกรณ์เสริม จำหน่ายแยก) สะดวกในการอัพโหลดภาพไปยังอุปกรณ์มือถือต่างๆ (Smart devices) ได้ง่ายดาย
คุณสมบัติอื่นๆ ของกล้องนิคอน วัน J3
มุ่งเน้นไปที่การออกแบบและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน
- ดีไซน์หรูหราด้วยโครงสร้างโลหะ
ส่วนหน้าของกล้องผลิตด้วยโลหะ เพื่อให้ได้สัมผัสที่ดีกว่าและเพิ่มความหรูหราสวยงาม
- สีสันสวยงามให้เลือกถึงห้าสีพร้อมเลนส์สีเข้าชุด
ตัวกล้องมีให้เลือกทั้งหมดห้าสี ได้แก่ สีเงิน สีแดง สีขาว สีดำ และสีเบจ นอกจากนี้ชุดเลนส์ที่มาพร้อมกับกล้องยังมีสีสันเข้าชุดกับตัวกล้อง ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวของกล้องในตระกูล นิคอน วัน
- พัฒนาระบบควบคุมการทำงานเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น
กล้องทั้งสองรุ่นมีระบบควบคุมการทำงานที่ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงแป้นเลือกโหมดการทำงาน ที่สร้างสรรค์ให้มีทั้งหมดห้าโหมด ได้แก่ โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ (Auto Mode) โหมดสร้างสรรค์ภาพ (Creative Mode) โหมด Motion Snapshot โหมด Advanced Movie และโหมด Best Moment Capture นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Live Image Control และปุ่มเลือกธีมสำหรับ Motion Snapshot อีกด้วย
คุณสมบัติอื่นๆ ของกล้องนิคอน วัน S1
กล้องหลากสี เพื่อสไตล์ที่ตรงใจผู้ใช้ มาพร้อมระบบการทำงานที่แสนง่ายดาย
- นิคอน วัน S1 มีให้เลือกถึงห้าสี มาพร้อมกับเลนส์สีเข้าชุด เข้ากับบุคลิกของผู้ใช้
โดยที่มีสีให้เลิอกได้แก่ สีดำ สีชมพู สีแดง สีขาว และใหม่ล่าสุด — สีกากี นอกจากนี้ชุดเลนส์ที่มาพร้อมกับกล้องยังมีสีสันเข้าชุดกับตัวกล้อง ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวของกล้องในตระกูล นิคอน วัน
- หน้าจอกราฟฟิกแสดงผล (Graphic User Interface - GUI) มองเห็นได้ชัดเจน
หน้าจอกราฟฟิกแสดงผล (Graphic User Interface - GUI) มีความคมชัด มีภาพไอคอนแสดงการทำงานตัวใหญ่เห็นชัดเจน นอกจากนี้ เมนูการทำงานยังมีโครงสร้างที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน และยังสามารถเลือกธีมสีหน้าจอเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นอีกด้วย
คุณสมบัติเคสกันน้ำ WP-N2 Primary Features
- ขนาดกะทัดรัดด้วยขนาด 156 ? 116 ? 128 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 750 กรัม
- ดีไซน์กริปจับกระชับมือ
- สามารถอยู่ในน้ำที่ลึกถึง 40 เมตร จึงเหมาะสำหรับใช้ในการดำน้ำ
- สามารถซูมเลนส์ได้ขณะใช้งานใต้น้ำ โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริม อาทิ ชุดอุปกรณ์ซูมเลนส์ใต้น้ำ
- สามารถปิดระบบแฟลชได้ระหว่างที่กล้องอยู่ในเคสกันน้ำ
- ชุดอุปกรณ์แฟลช YS-D1 สำหรับถ่ายภาพใต้น้ำ (มีหรือไม่มีก็ได้) ช่วยให้สามารถใช้แฟลชใต้น้ำได้
- ก้านปรับชัตเตอร์และปุ่มบันทึกภาพยนตร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมปรับการใช้งานได้อย่างคล่องตัว หรือการเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพ
- รองรับอุปกรณ์ขั้นสูงที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพใต้น้ำ โดยสามารถรองรับฟิลเตอร์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 67 มม. ได้
- ภาพที่ได้จะมีสีธรรมชาติ เมื่อเลือกใช้ฟังก์ชั่นปรับความสมดุลย์สีขาวใต้น้ำ (Underwater white balance) ที่มีอยู่ในกล้องนิคอน 1 J3 และนิคอน 1 S1
คุณสมบัติ ดีไซน์ ชื่อผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
คุณสมบัติและอุปกรณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ข้อมูลต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า — มกราคม 2556