ทส.ระดมทุนโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ ระยะที่ 3 เป้าหมายฟื้นฟูป่า 1.6 ล้านไร่

ข่าวทั่วไป Wednesday November 3, 2004 11:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สืบเนื่องจากโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 ซึ่งเกิดขึ้นจากพระราชกระแสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2535 ให้หยุดยั้งการทำลายป่าและเร่งฟื้นฟูบำรุงต้นน้ำลำธาร โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2537 ให้จัดทำโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ และกำหนดให้ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537- พ.ศ. 2539 มีเป้าหมายให้ปลูกป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่เสื่อมโทรม 5 ล้านไร่
แต่การดำเนินงานสามารถทำการปลูกป่าในพื้นที่อนุรักษ์ได้เพียงประมาณ 1.3 ล้านไร่ เนื่องจากผู้ร่วมโครงการฯ ยังมีประสบการณ์ในการปลูกป่าน้อย และช่วงเวลาสั้นเกินไป จึงได้มีการขยายระยะเวลาของโครงการฯ เป็นระยะที่ 2 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2540 ให้ขยายออกไประหว่างปี พ.ศ.2540 — พ.ศ.2545 ซึ่งการดำเนินงานในระยะที่ 2 นี้ตรงกับช่วงที่ประเทศประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ร่วมโครงการจำนวนมากได้ชะลอหรือหยุดการปลูกป่า ดังนั้นเมื่อสิ้นระยะที่ 2 จึงดำเนินการปลูกป่าไปได้ทั้งสิ้น 3.4 ล้านไร่ ยังขาดอีก 1.6 ล้านไร่ จึงจะครบตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญของโครงการฯ ดังกล่าว ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจได้ฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2545 ขยายระยะเวลาโครงการฯ ออกไปอีกเป็นระยะที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ.2546 — พ.ศ.2550 โดยให้ดำเนินการปลูกป่าในพื้นที่อนุรักษ์ตามโครงการอีก 1.6
ล้านไร่ ให้ครบถ้วนตามเป้าหมาย 5 ล้านไร่ แล้วนำน้อมเกล้าถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โครงการฯ ในระยะที่ 3 นี้ ฯพณฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นแกนหลักในการดำเนินการ และให้แนวทางการดำเนินงาน คือ ใช้กล้าไม้ใหญ่ที่แข็งแรง รวมทั้งใช้ไม้พันธุ์ท้องถิ่นที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยกำหนดพื้นที่ปลูกที่ชัดเจนแล้วให้หน่วยงานราชการ หน่วยงานท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกป่าร่วมกัน อันเป็นการดึงคนในเมืองให้ออกมาช่วยคนในชนบท ซึ่งจะทำให้เกิดความรักความสามัคคีกันภายในประเทศทั่วประเทศ
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยถึงกลยุทธ์และวิธีดำเนินงานโครงการฯ ระยะที่ 3 ว่า กระทรวงฯได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) เป็นแกนนำในการดำเนินงาน โดยทำการกำหนดเขตพื้นที่แปลงเป้าหมายปลูกป่าที่ยังคงเหลืออยู่ โดยทำแนวเขตและแสดงเครื่องหมายแนวเขตให้ชัดเจนในการปลูกป่าเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการแบ่งออกเป็นพื้นที่ที่จะปลูกฟื้นฟูสภาพป่า และพื้นที่ที่จะปลูกเสริมป่า ซึ่งในการปลูกป่านี้จะมีการรณรงค์ให้ประชาชนได้เข้ามามี ส่วนร่วมปลูกป่าทุกรูปแบบ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และ ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นหากป่าไม้ถูกบุกรุกทำลาย
นอกจากนี้ยังจะมีการจัดเปิดตัวโครงการฯ ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ เวลา 20.30 น.
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการจัดงานระดมทุนและรับจองพื้นที่ปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ 50 ระยะที่ 3 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งได้มีการกำหนดเป้าหมายให้ภาครัฐทุกกระทรวงรับกิจกรรมปลูกป่าไปดำเนินการ รวมทั้งเชิญชวนภาคเอกชนที่มีศักยภาพมาให้การสนับสนุนการปฏิบัติงาน และเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการ พร้อมกันนี้ยังจะมีการกระจายโครงสร้างการบริหารโครงการฯ
สู่ท้องถิ่นระดับองค์การบริหาร ส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด หอการค้าจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อให้โครงการบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายและระยะเวลาที่กำหนด
“ในการเชิญชวนประชาชน และภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ นี้ ได้มีการสร้างแรงจูงใจเพื่อระดมเงินเข้ากองทุน ด้วยการให้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รับพระราชทานรางวัล หรือประกาศเกียรติคุณตามความเหมาะสม รวมทั้งกำหนดให้ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
และภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งในการปลูกป่าตามโครงการฯ ระยะที่ 3 จำนวน 1.6 ล้านไร่นั้น มีเป้าหมายในการระดมทุนจากผู้ร่วมโครงการเป็นเงิน 4,800,000,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าและบำรุงป่าในราคาไร่ละ 3,000 บาท ส่วนเรื่องกล้าไม้ทางราชการจะให้การสนับสนุน ซึ่งจำนวนกล้าไม้ที่ได้มีการเพาะชำไว้สำหรับโครงการระยะที่ 3 นี้มี ทั้งสิ้น 262,500,000 กล้า เป็นเงิน 506,625,000 บาท ทั้งนี้ การระดมทุนโครงการ 2 ระยะแรกที่ผ่านมา มีประชาชนร่วมบริจาค 2,400 ราย เป็นเงิน 65 ล้านบาท จองใหม่
200 ราย จำนวน 160,000 ไร่ หรือ 480 ล้านบาท ขณะนี้มีจำนวนเงินจองทั้งสิ้น 545 ล้านบาท”
สำหรับการบริหารจัดการโครงการฯ นี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการโครงการขึ้น 5 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ คณะกรรมการบริหารโครงการฯ คณะกรรมการกองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ และคณะกรรมการโครงการฯ ประจำจังหวัดทุกจังหวัด นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานร่วมบริหารจัดการโครงการอีก คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ศูนย์ปฏิบัติการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ หน่วยงานปฏิบัติในส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1-21 และศูนย์เพาะชำกล้าไม้--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ