กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--ซีพีเอฟ
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมสดพาสเจอร์ไรส์ ภายใต้ แบรนด์ “เมจิ” เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์นมสดพาสเจอร์ไรส์และโยเกิร์ต ภายใต้แบรนด์ “เมจิ” และผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่ม แบรนด์ “เมจิ-ไพเกน” ได้รับอนุมัติให้ใช้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์เป็นรายแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทย ส่งเสริมนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และใส่ใจในสิ่งแวดล้อมโลกที่ซีพี-เมจิ ได้ให้ความสำคัญควบคู่กับกระบวนการผลิตในระดับมาตรฐานโลกมาโดยตลอด
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) เป็นฉลากที่แสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ว่ามีปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งบริษัท ซีพี-เมจิสร้างการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซดังกล่าวและปัญหาโลกร้อน โดยเบื้องต้นผลิตภัณฑ์ซีพี-เมจิที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ฉลากคาร์บอนฯจำนวน 10 ผลิตภัณฑ์ คือ นมพาสเจอร์ไรส์ ขนาด 200 มล. นมช็อคโกแลตขนาด 450 มล. นมขาดมันเนย ขนาด 830 มล. นมเพิ่มมันเนยเมจิโกลด์ ขนาด 946 มล. นมไขมันต่ำขนาด 2 ลิตร โยเกิร์ตมิกซ์เบอรี่ โยเกิร์ตวุ้นมะพร้าว โยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ตผลไม้รวม ในขนาด 140 กรัม และโยเกิร์ตพร้อมดื่มเมจิไพเกน ขนาด 180 มล. โดยขณะนี้กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้รับฉลากดังกล่าวครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์
ปัจจุบันเมจิเป็นผู้นำตลาดนมพาสเจอไรซ์ ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวของบริษัทฯ เติบโต 20% สูงกว่าการเติบโตของตลาดรวมที่เติบโต 18% โดยตลาดนมพาสเจอร์ไรส์ถือเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุด จากปัจจัยหลักที่ผู้ผลิตทุกค่ายหันมาให้ความสำคัญทำตลาดพร้อม ๆ กัน โดยเน้นการตอกย้ำเรื่องคุณภาพเป็นหลักในการสื่อสารสู่ผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะทำให้ตลาดในปีนี้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น
สำหรับปีนี้บริษัทเน้นบุกตลาดโยเกิร์ตถ้วยและโยเกิร์ตพร้อมดื่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจโดยผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้น ล่าสุดได้อัพเกรดสินค้าในกลุ่มโยเกิร์ตถ้วย โดยการปรับสูตรการผลิตและบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากได้ศึกษาวิจัยทางการตลาด พบว่าปัจจุบันผู้บริโภคหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตแบบถ้วยมากขึ้น เนื่องจากกระแสรักสุขภาพ และการสื่อสารการตลาดของผู้ประกอบการต่างๆ ส่งผลให้ตัวเลขมูลค่าตลาดเติบโต ปัจจุบันมีมูลค่าถึง 3,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ในไทย ได้ทุ่มงบประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านคุณภาพของโยเกิร์ตเมจิ พร้อมจัดแคมเปญ "โยเกิร์ตเมจิ....7 มหัศจรรย์ความอร่อย" เชิญผู้บริโภคร่วมค้นหาความมหัศจรรย์กับทั้ง 7 รสชาติแท้ๆ ของโยเกิร์ตคุณภาพจากเมจิ ที่มีส่วนผสมที่ลงตัวของนมโคแท้ๆ และผลไม้คัดพิเศษ โดยตั้งเป้าโต 100% ภายใน 3 เดือน