ประเทศไทยต้องห้ามการขายงาช้าง เพื่อช่วยชีวิตช้าง

ข่าวทั่วไป Tuesday January 15, 2013 11:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--WWF WWF ระบุว่ามีการฟอกงาช้างแอฟริกันจำนวนมหาศาลผ่านร้านค้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นแรงหนุนวิกฤตลักลอบล่าช้าง และในวันนี้ WWF ได้เริ่มงานรณรงค์ทั่วโลกเพื่อหยุดค้างา หยุดฆ่าช้าง เพื่อรวบรวมรายชื่อและยื่นคำร้องต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ให้ห้ามการค้างาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้างในประเทศไทยทุกรูปแบบ เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบล่าช้างป่าในแอฟริกา แม้ว่าการขายงาจากช้างแอฟริกัน จะเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่สำหรับงาช้างในประเทศแล้ว สามารถขายได้อย่าง ถูกต้อง ซึ่งเป็นช่องโหว่ทางกฏหมายของไทยที่เอื้อประโยชน์ต่อเครือข่ายอาชญากรรมในการลอบขนงาช้างเลือดจากแอฟริกา มาขายในไทย "มาตรการทางกฏหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการยับยั้งงาช้างแอฟริกาเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย ทางเดียวที่จะป้องกัน ไม่ให้ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการลักลอบล่าช้าง คือการห้ามการค้างาช้างทุกรูปแบบ" จันทน์ปาย องค์ศิริวิทยา ผู้จัดการงานรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า WWF ประเทศไทย กล่าว "ตอนนี้ช้างแอฟริกันกำลังตกเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ที่สุด มีความเป็นไปได้ที่เหยื่อรายต่อไปจะเป็นช้างไทย นายกรัฐมนตรีสามารถยื่นมือเข้าช่วยในการยุติการสังหารได้ และเราเชื่อว่าคนไทยทุกคนพร้อมจะสนับสนุนการปกป้องสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาตินี้ไว้" การลักลอบล่าช้างในแอฟริกาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ณ ขณะนี้ มีช้างแอฟริกานับหมื่นตัวถูกสังหารในแต่ละปีเพื่อเอา งา มีการเปิดเผยข้อมูลเมื่อเดือนที่แล้วว่า อัตราการลักลอบค้างาช้างในระดับนานาชาติพุ่งสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา และประเทศไทย ก็เป็นตลาดค้างาช้างเถื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแรงขับสำคัญในเกิดการล่าและลักลอบค้างาช้าง รายงานระบบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการค้าช้าง ปี 2555 ระบุว่า "กฏหมายของประเทศไทยที่อนุญาตให้มีการค้างาช้างบ้านใน ประเทศ ถูกใช้ประโยชน์ด้วยการนำผลิตภัณฑ์งาช้างแอฟริกัน มาสวมขายผ่านร้านค้าปลีกหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ" "นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยคงจะสยดสยอง หากได้ทราบว่างานฝีมือจากงาช้างชิ้นเล็กๆ ที่แสดงอยู่ข้างผ้าไหมในร้าน ค้าในประเทศไทย มาจากการสังหารหมู่ช้างในแอฟริกา การซื้องาช้างกลับบ้านเป็นสิ่งผิดกฏหมาย และไม่ควรมีขายงาช้างในประเทศไทยอีกต่อไป" อลิซาเบธ แม็คเลลลัน ผู้จัดการโครงการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์ WWF สากล กล่าว ระหว่างวันที่ 3-15 มีนาคม 2556 ผู้แทนรัฐบาลจาก 176 ประเทศ จะมาร่วมการประชุมอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรือ CITES ที่กรุงเทพฯ เพื่อหารือในประเด็นการค้าสัตว์ป่า ในระดับโลก ซึ่งรวมถึงการลักลอบล่าช้างแอฟริกาที่กำลังเป็นวิกฤต WWF ขอเรียกร้องต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ให้ใช้โอกาสนี้ ประกาศคำมั่นว่าประเทศไทยจะห้ามการค้างาช้างในประเทศ WWF ยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมลงชื่อเพื่อหยุดค้างา หยุดฆ่าช้าง เพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงให้กับสัตว์ป่าที่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาตินี้ หมายเหตุ : - ผู้สนับสนุน สามารถลงชื่อในคำร้องได้ที่ www.wwfthai.org/killthetrade ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ถึง 14 มีนาคม 2556 - ดาวน์โหลดอัลบัมภาพสำหรับสื่อมวลชนได้ที่ https://photos.panda.org/gpn/external?albumId=4359 - ระบบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการค้าช้าง รวบรวมโดย TRAFFIC และ IUCN ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : ปรียาภา เต็มเจริญ เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กร WWF ประเทศไทย, อีเมล ptemcharoen@wwfgreatermekong.org, โทร +668 9022 4474 begin_of_the_skype_highlighting +668 9022 4474 end_of_the_skype_highlighting

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ