กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และคณะทูตกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป จำนวน ๒๕ ประเทศ เข้าเยี่ยมชมวอรร์รูมการปราบปรามและการค้ามนุษย์ คปม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมและตรวจสอบสถานการณ์การบังคับใช้แรงงานเด็กและการนำแรงงานต่างด้าวมาค้ามนุษย์ ในสถานประกอบการ ที่จังหวัดสุมทรสาคร เพื่อร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า รัฐบาล ได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นหน่วยประสานงานหลักในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งการดำเนินงานตลอดหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงฯได้ให้การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทั้งคนไทยและคนต่างด้าว เป็นจำนวนมาก ทั้งการจัดหาที่พักที่ปลอดภัย การรักษาพยาบาล ฝึกอาชีพ ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนประกอบอาชีพ รวมถึงการส่งกลับภูมิลำเนา/ประเทศต้นทาง อย่างปลอดภัย เป็นต้น โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และประโยชน์ของผู้เสียหายเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ยังให้ความช่วยเหลือ ทางกฎหมาย เช่น การดำเนินคดี เพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การผ่อนผันให้ผู้เสียหายอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ เป็นการชั่วคราว ตลอดจนได้ประสานงานกับหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และในด้านการป้องกัน กระทรวงฯได้รณรงค์ให้ความรู้แก่อาสาสมัคร และประชาชน เพื่อสร้างความตระหนักถึงภัยของการค้ามนุษย์ และขอความร่วมมือเป็นเครือข่าย ช่วยเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาในชุมชน โดยเปิดบริการสายด่วน ศูนย์ประชาบดี โทร. ๑๓๐๐ ทั้ง ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรับแจ้งเหตุและเบาะแสของการค้ามนุษย์ และสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
นายสันติ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กรมประมง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) นำเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และคณะทูตกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป จำนวน ๒๕ ประเทศ เข้าเยี่ยมชมวอรร์รูมการปราบปรามและการค้ามนุษย์ คปม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมและตรวจสอบสถานการณ์การบังคับใช้แรงงานเด็กและแรงงานต่างด้าว ในสถานประกอบการที่จังหวัดสุมทรสาคร เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกรณีการบังคับใช้แรงงานเด็กและการนำแรงงานต่างด้าวมาค้ามนุษย์ นับเป็นการร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย และเป็นการเร่งแก้ไขปัญหา กรณีที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้จัดทำรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Tip Report) และจัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ Tire 2 Watch List ติดต่อกันเป็นเวลา ๓ ปีซ้อน ซึ่งในปี ๒๕๕๖ ถ้าประเทศไทยไม่มีมาตราการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่เป็นรูปธรรม จะทำให้ถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่มประเทศ Tire ๓ โดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศในด้านต่างๆอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการช่วยเหลือ ทางการศึกษา การทหารจากประเทศสหรัฐฯ รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อเร่งดำเนินการตรวจเยี่ยมและสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่ ๗ จังหวัด โดยด่วน ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร ระยอง ตราด ชุมพร สงขลา ระนอง และสตูล ตลอดจนเร่งสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงผู้ประกอบการ ในพื้นที่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจร่วมกัน เกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์
“กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมทุ่มเททั้งทรัพยากร งบประมาณ กำลังกายและใจอย่างเต็มที่ เพื่อให้การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยไม่เลือกปฏิบัติว่าจะเป็นคนชาติใด เพศใด จะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เราพร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยอย่างจริงจัง” นายสันติ กล่าว