กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--กระทรวงยุติธรรม
ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯกระทรวงยุติธรรม เดินหน้ามาตรการเชิงรุกหวังลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า เตรียมลงพื้นที่ 9 จังหวัดส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จัดสัมมนาเชิงปฎิบัติการเผยแพร่ “DSI MAP” ให้แก่บุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนกลุ่มเสี่ยง ภายหลังตรวจสอบพบการออกเอกสารเท็จในพื้นที่ภาคใต้และเขตอุทยานมากที่สุด
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในประเทศไทยยังคงรุนแรง เป็นปัญหาเรื้อรัง โดยในแต่ละปีสร้างความเสียหายมหาศาลแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะผืนป่าที่สมบูรณ์จริงๆทั่วประเทศมีไม่มากนัก ขณะที่จำนวนคดีและพื้นที่การบุกรุกป่ากลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่ามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกฝ่ายจึงพยายามร่วมกันดำเนินการหยุดยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยในส่วนของกระทรวงยุติธรรมมีภารกิจเข้าไปช่วยในด้านคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ในปี 2556 กระทรวงยุติธรรม โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม (ศนธ.ยธ.) ดำเนินโครงการจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ มาตรการเชิงรุกด้านการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ของรัฐโดย “ระบบแม่ข่ายแผนที่ผ่านอินเทอร์เน็ตหรือ DSI MAP(ดีซี่ แม็พ)” เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่กลุ่มข้าราชการของรัฐ ทั้งในส่วนกลางและในท้องถิ่น อาทิ ภาคประชาชน เครือข่ายสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลุ่มประชาชนที่สนใจ ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยจะมีกิจกรรมฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และภาคประชาชน การจัดทำคู่มือ การวิเคราะห์และการใช้เครื่องมือสื่อสารสนเทศเพื่อเข้าถึงโปรแกรม และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรองรับภารกิจในการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐประเภทต่างๆโดยใช้ฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสื่อสารสนเทศผ่านโปรแกรม DSI MAP รวมทั้งร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนอย่างเป็นรูปธรรมได้มากยิ่งขึ้น
พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯด้านปัญหาที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ ระบุ โครงการจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เป็นการอบรมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนให้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรายละเอียดของพื้นที่ ทั้งเขตอุทยานแห่งชาติ เขตป่าสงวน เขตป่าชายเลน พื้นที่ สปก.ฯลฯ และการใช้งานระบบแม่ข่ายแผนที่ผ่านอินเทอร์เนต ในลักษณะต่าง ๆ สามารถตรวจสอบพื้นที่ได้ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด เป็นต้น โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นเวทีให้ภาคประชาชนและภาครัฐในท้องถิ่นมาถ่ายทอดแลกเปลี่ยนแนวคิดประสบการณ์ในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตน ผ่านการใช้งานทางระบบอินเทอร์เน็ตที่ไม่ยุ่งยาก ขณะเดียวกันประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและนำโปรแกรมดีซี่แมพไปใช้ในการตรวจสอบพื้นที่สงวน หวงห้ามได้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับภารกิจอื่นๆได้อีกด้วยนับเป็นการเปิดกว้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมพิทักษ์ผืนป่า ขจัดขบวนการฮุบป่านำมาขอออกโฉนด โดยเน้นหนักในเขตอุทยานและพื้นที่ภาคใต้เพราะที่ดินมีราคาแพงมีการออกเอกสารเท็จเป็นจำนวนมาก
อนึ่ง โปรแกรมดีซี่แม็พนี้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่อการรุกล้ำพื้นที่อนุรักษ์ต่างฯโดยไม่ตั้งใจให้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้เบื้องต้น จึงเห็นควรที่จะเผยแพร่โปรแกรมดีซี่แม็พเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะในการนำใช้เพื่อป้องกันและยับยั้งการบุกรุกผืนป่า และร่วมเป็นหูเป็นตาสอดส่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องอีกทางหนึ่ง
กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในการพัฒนาศักยภาพการใช้เทคโนโลยี “ระบบแผนที่แม่ข่ายแผนที่ผ่านอินเทอร์เนตหรือ DSI MAP(ดีซี่ แม็พ)” ดังกล่าวจะดำเนินการในเดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม 2556 ในพื้นที่ 9 จังหวัด ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ส่วนกลางได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภาคใต้ ได้แก่ จ.สงขลา นครศรีธรรมราช ภาคอีสานได้แก่ จ.อุดรธานี หนองคาย เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ และหนองบัวลำภู
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เชื่อมั่นความต่อเนื่องของมาตรการเชิงรุกดังกล่าว จะสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนถ่ายความคิดของทุกภาคส่วนในการปกปักรักษาและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างทันท่วงที รวดเร็ว เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทำให้รู้สิทธิและยอมรับต่อหลักฐานเชิงประจักษ์ และนำไปสู่การคลี่คลายปัญหาในคดีเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งแวดล้อมซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบันได้ในที่สุด