กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--IR network
"บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน" ผู้นำในด้านการออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ได้ฤกษ์ยื่นไฟลิ่ง เตรียมขายไอพีโอจำนวน200 ล้านหุ้น หวังเข้าระดมทุนในตลาด maiภายในไตรมาส 2 ของปี 2556 นำเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาระบบออโตเมชั่นเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ งานนี้ได้มือดี “แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ หรือ APM”มาเป็นพี่เลี้ยง
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด (“APM”) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) (“CHO”)เปิดเผยว่าได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนและแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทฯดังกล่าว ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) แล้วเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (ไอพีโอ) จำนวนรวม 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นร้อยละ 27.78 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วของบริษัทหลังการเสนอขายครั้งนี้ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนาระบบออโตเมชั่นเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ จากนั้นจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่าภายในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2556
ทั้งนี้ บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในระดับโลก เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ ทั้งนี้ได้แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์มาตรฐาน หมายถึงกลุ่มรถบรรทุก รถพ่วง-กึ่งพ่วงทั่วไป ที่ลูกค้าสั่งซื้อเพื่อนำไปใช้ขนส่งสินค้าตามความต้องการเฉพาะ มีทั้งรถที่ใช้เพื่อการบรรทุกสินค้าอย่างเดียวโดยไม่ต้องการระบบวิศวกรรมที่มีเทคโนโลยีซับซ้อน 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ออกแบบพิเศษ หมายถึง กลุ่มรถบรรทุก รถพ่วง-กึ่งพ่วง ที่ต้องมีการออกแบบพิเศษตามความต้องการใช้งานของลูกค้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่สลับซับซ้อน ต้องการระบบวิศวกรรมที่แม่นยำในการใช้งาน อาทิ รถลำเลียงอาหารสำหรับเครื่องบิน รถบันไดขึ้นเครื่องบิน รถบันไดกู้ภัย รถติดตั้งอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้นดิน รถดับเพลิงและรถกู้ภัย ยานยนต์สำหรับกองทัพ งานซ่อมบำรุงและปรับปรุงรถไฟ เป็นต้นและ 3.กลุ่มบริหารโครงการและงานบริการ หมายถึงกลุ่มงานพิเศษที่บริษัทฯ ได้ผสานเทคโนยีด้านวิศกรรมระดับสากลเข้ากับการบริหารอย่างมืออาชีพด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหารและทีมงาน ทั้งด้านงานวิศวกรรมและด้านการบริหารที่สั่งสมมานาน จนสามารถเสนอบริการด้านการบริหารโครงการขนาดใหญ่ให้แก่ลูกค้าได้ ปัจจุบันมีการให้บริการ 2 โครงการคือ บริหารโครงการสร้างเรือตรวจการไกลฝั่ง และโครงการบริการงานซ่อมบำรุงและศูนย์ซ่อมสำหรับบริษัท ลินฟอกซ์ ทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด และ Tesco-Lotus
สำหรับผลการดำเนินงานของ CHO ทั้งรายได้และกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2552-2554 มีรายได้ 955.69 ล้านบาท 666.30 ล้านบาท และ 669.35 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 2552 มีกำไรเบ็ดเสร็จรวม (เฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) เท่ากับ 13.20 ล้านบาท ในปี 2553 มีผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม 4.13 ล้านบาท แต่ในปี 2554 กลับมามีกำไรเบ็ดเสร็จรวม 24.01 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2555 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 467.41 ล้านบาท มีกำไรเบ็ดเสร็จรวม(เฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) เท่ากับ 19.16 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2555 บริษัทมีมูลค่าโครงการคงเหลือที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) จำนวน 146.69 ล้านบาท
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน เปิดเผยว่าจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับโลก อีกทั้งมีความโดดเด่นที่แตกต่างอย่างเหนือกว่า ทั้งในด้านการผลิตตู้สินค้าทุกชนิด ผลิตภายใต้เครื่องจักรทันสมัยได้มาตรฐานสากลทั้ง มอก. ISO 9001,CE mark, IATA ที่สำคัญคือ CHO ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากพันธมิตรระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม อาทิ BAE SYSTEMS ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อันดับสองของโลก, SEIMENS ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ และผลิตตู้รถโดยสาร ระบบการขนส่งทางรางระดับโลก จากเยอรมันนี, HANAOKA ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบผลิตภัณฑ์รถบริการในสนามบินจากญี่ปุ่น และ MORITA ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีการขนส่งจากญี่ปุ่น ซึ่งจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและความโดดเด่นของธุรกิจที่มีของ CHO ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
“ช.ทวีฯ มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำในการออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิต และเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมระดับโลกเข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ โดยจะเป็นผู้ร่วมสร้างและเพิ่มอำนาจการแข่งขันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบราง โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ” นายสุรเดช กล่าวในที่สุด
ณ วันที่ 2มกราคม 2556 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 180 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 720 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาทและทุนเรียกชำระแล้วจำนวน 130 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 520 ล้านหุ้น โดยหลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 180 ล้านบาท