กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 17 มกราคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,677.35 — 1,683.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG13 อยู่ที่ 23,910 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 23,930 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG13 อยู่ที่ 941 บาท โดยราคาปรับตัวไม่เปลียนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 941 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.44 น.ของวันที่ 17/01/13)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 18 มกราคม 2556
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตรา “เล็กน้อยหรือปานกลาง" ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ รายงานอิงกับข้อมูลเศรษฐกิจจากธนาคารภูมิภาค 12 แห่งของเฟด รายงานระบุว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีการขยายตัวขึ้นบ้าง โดยรวมแล้วยอดขายช่วงวันหยุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับในปี 2554 แม้ว่ายอดขายจะต่ำกว่าคาดการณ์ในหลายเขต อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการคลัง โดยราคาทองคำทรงตัวในระดับสูงหลังมีการเปิดเผยรายงานดังกล่าว ขณะที่ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจาก สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงประกอบ กลุ่มติดอาวุธเข้าโจมตีและยึดโรงงานโรงงานแยกก๊าซของแอลจีเรียพร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแอลจีเรีย เปิดทางให้พวกเขาและตัวประกันทั้งหมดเดินทางออกนอกประเทศ การโจมตีในครั้งนี้ส่งผลให้มีการปิดการผลิตก๊าซกว่า 10 % ของแอลจีเรียและปิดการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวราว 60,000 บาร์เรลต่อวัน โดยการขยับขึ้นของราคาน้ำมันจะช่วยหนุนราคาทองคำให้เดินหน้าต่อไป วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,690-1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามการจับตาความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ ทำให้นักลงทุนทำกำไรในตลาดทองคำในประเทศได้ค่อนข้างยาก โดยการแข็งค่าของเงินบาทนั้นกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำในประเทศค่อนข้างมาก
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและ ยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,665 - 1,658 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,665 (23,480บาท) 1,658 (23,380บาท) 1,646 (23,210บาท)
แนวต้าน 1,690 (23,830บาท) 1,695 (23,900บาท) 1,703 (24,020บาท)
GOLD FUTURES (GFG13)
แนวรับ 1,665 (23,690บาท) 1,658 (23,590บาท) 1,646 (23,420บาท)
แนวต้าน 1,690 (24,040บาท) 1,695 (24,110บาท) 1,703 (24,220บาท)
SILVER FUTURES (SVG13)
แนวรับ 30.90 (925บาท) 30.45 (912บาท) 30.10 (901บาท)
แนวต้าน 31.70 (949บาท) 31.90 (955บาท) 32.10 (961บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com