สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 18, 2013 10:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,680 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,688 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.79 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,650 บาท กับ 23,750 บาท และกลับมาปิดที่ 23,700 บาท กับ 23,800 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,459 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,823 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 7 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 1% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 1% GFG13 ปิด 23,990 บาท และ GFJ13 ปิด 24,120 บาท GF10G13 ปิดที่ 23,990 บาท GF10J13 ปิดที่ 24,120 บาท SVG12 ปิดที่ 941 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 7.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,690.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 26.8 เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 31.81 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,332.61 ตัน (ขายออก 1.81 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 94.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 84.79 จุด ปิดที่ 13,596.02 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 53 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ The BullionDesk, Reuters, Bloomberg, Kitco News, Market Watch, Infoquest ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงในช่วงต้นของตลาดสหรัฐทันทีที่ตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานและภาคที่อยู่อาศัยออกมาดีเกินคาด แต่ภายหลังปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดอื่นๆ จากแรงช้อนซื้อ ประกอบกับภาคการผลิตที่ออกมาแย่กว่าที่คาด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ลดต่ำสุดตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 เนื่องจากรัฐสภามีมติผ่านร่างกฎหมายแก้ปัญหา Fiscal Cliff ที่ช่วยขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการผู้ว่างงาน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค.ของสหรัฐขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 4 ปี นายบาร์รี รูเทนเบิร์ก ประธาน NAHB กล่าวว่า “ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในขณะนี้ปรับตัวขึ้นอย่างมากจากต้นปี 2555 และจำนวนตลาดที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นกำลังส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัว” ในขณะที่ภาคการผลิต Philly Fed Manufacturing Index ออกมาที่ระดับ -5.8 ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 7.1 อย่างมาก เมื่อคืนราคาทองคำไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,666 เหรียญ และรีบาวน์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,696 เหรียญ แต่ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นด้วย นายไรอัน ประธานคณะกรรมการด้านงบประมาณ กล่าวว่า สมาชิกพรรครีพลับลิกันกำลังพิจารณาผ่านร่างการเพิ่มระดับเพดานหนี้ระยะสั้น เพื่อให้มีเวลาในการหารือในการตัดลดหนี้ที่มีกำหนดการสิ้นสุดอีก 2 เดือน กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าววันนี้ว่า สหรัฐได้ขาดดุลสู่ระดับ 16.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2012 จากระดับ 14.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ และยังต้องใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป นายเดนิส ลอคฮาร์ด ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า คาดว่าเฟดจะยังคงใช้การเข้าซื้อพันธบัตรนานกว่ากลางปีนี้ ซึ่งอาจจะรอดูว่ากลางปีนี้ ตลาดแรงงานฟื้นตัวพอที่จะหยุดการใช้มาตรการนี้หรือไม่ เฟดมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าการคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำอาจจะทำให้ตลาดสินทรัพย์ลงทุนต่างๆ ตั้งแต่ที่ดินเพื่อการเกษตร ไปจนถึงพันธบัตรที่มีเครดิตต่ำจะร้อนแรงเกินไป และอาจทำให้เกิดความเสี่ยงหากมีการชะลอหรือหยุดการเข้าซื้อพันธบัตร นางลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอมเอฟ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า กล่าวเตือนรัฐบาลทั่วโลกว่าไม่ควรหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย แม้ว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัว ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินเยน ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนสามารถขายพันธบัตรได้ตามเป้าหมายสูงสุด ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสเปน รัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงเดินหน้าใช้เงินเยนที่อ่อนค่า เพื่อหนุนเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก Commerzbank กล่าวว่า ปัญหาระดับเพดานหนี้ จะเป็นปัจจัยลบต่อทอง หากแนวทางแก้ปัญหานี้มีนโยบายรัดเข็มขัด ที่ลดความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ และเพิ่มความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์แทน ผู้ควบคุมตลาด (Dealer) กล่าวว่า แรงซื้อทองคำจากเอเชีย เช่น ไทยและอินเดียได้ลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเริ่มต้นปีที่ราคาอ่อนตัว ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.90M ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.90M - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 371K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 335K - Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.86M ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.95M - Philly Fed Manufacturing Index 8.1 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -5.8 ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 72.9 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 75.1 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงตลาดเอเชียไปทรงตัวบริเวณ 1,680 เหรียญบวกลบ ในขณะที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาค่อนข้างดีทางด้านภาคที่อยู่อาศัยและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานน้อยลงเกือบ 40,000 ตำแหน่ง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะน้อยลงเพียง 2,000 ตำแหน่ง และสรุปได้ว่าภาคแรงงานดีขึ้นเกือบ 40,000 ตำแหน่ง ทำให้มีแรงเทขายทองคำและปรับลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,667 เหรียญ แต่แล้วก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากที่ตัวเลข Philly Fed Manufacturing Index ออกมาต่ำกว่าที่คาดอย่างมากจาก +8.1 คาดการณ์ไว้ที่ +7.1 และผลออกมา -5.8 ทำให้ทองคำดีดขึ้นอย่างทันที แล้วไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,695 เหรียญ เรียกว่าดีดขึ้นกว่า 20 เหรียญในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง จะเห็นถึงการที่ราคาทองคำค่อนข้างแกว่งไปตามสภาพข่าวอย่างมาก ในเชิงเทคนิคจะเห็นได้ว่าราคาทองคำค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นและเริ่มยืนอยู่เหนือระดับ 1,680 เหรียญได้ แนวรับด้านล่างขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,670 เหรียญ ในขณะที่แนวต้านด้านบนเหลือเป็นช่วงแคบๆ ระหว่าง 1,695 — 1,700 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา ถ้าราคาทองคำไปยืนอยู่เหนือ 1,700 เหรียญได้จะมีการซื้อกลับอย่างรวดเร็วรุนแรง อย่างไรก็ดีตลาดรอข่าวและมีความกังวลเรื่องการแก้ปัญหา Debt Ceiling และ Fiscal Cliff Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,080 บาท Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,220 บาท Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 970 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เริ่มให้กลับเข้ามาซือเพื่อเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น โดยซื้อบริเวณแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1,680 เหรียญ และขายที่บริเวณ 1,695 เหรียญ ย้ำว่าเป็นคำแนะนำรายวันและเป็นการกลับด้านจากเมื่อวาน นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ยังเป็นการรอเข้าช้อนซื้อเฉพาะบริเวณแนวรับสำคัญ ค่อยๆ ปรับพอร์ทขึ้นมาเป็น 10% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ปรับพอร์ทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 5 — 10% ในการเข้าถือครอง โดยซื้อบริเวณแนวรับเช่นเดียวกัน สรุปได้ว่า ยังแนะนำให้นักลงทุนเล่นสั้นในระยะ 1 — 3 วัน และเล่นกลับทิศทางไปตามสภาวะของตลาด วันนี้แนะนำให้เข้าซื้อ ซึ่งโดยภาพรวมถ้าทำตามที่วิเคราะห์ไว้ ตามกลยุทธ์แบบสั้นๆ โดยวางขายก่อนน่าจะทำกำไรได้สั้นๆ แต่สิ่งที่ยากก็คือ เมื่อคืนรู้สึกว่านักลงทุนจะยังไม่ได้ทำ Short ไว้ก่อนพอตกก็มาทำ Stop Loss ที่ 1,673 เหรียญก็ถูกกินเรียบ ถูก Short รวบกลับก็เลยยิ่งบาดเจ็บใหญ่ ฉะนั้นสิ่งที่แนะนำก็คือ เล่นสั้นและไปตามกลยุทธ์เป็นรายวัน จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์จะปรับซื้อขายได้สลับกันไป เหตุผลเดียวที่เริ่มซื้อได้คือ เงินบาทเริ่มน่าจะทรงตัว หมายความว่าอาจจะมีโอกาสตกแต่น่าจะน้อยลง ในขณะทีทองมีโอกาสค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร ยังแนะนำให้ลูกค้าเล่นแบบเร็ว บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ