กรุงศรีรายงานผลประกอบการปี 2555 ที่แข็งแกร่ง กำไรสุทธิ 1.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 57.7% เมื่อเทียบกับปี 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 18, 2013 14:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรีกรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) วันนี้ได้รายงานผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับปี 2555 ด้วยกำไรสุทธิ 1.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.7% จากปี 2554 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สินเชื่อที่มีคุณภาพขยายตัวเพิ่มขึ้น 17.2% คิดเป็น 11.87 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 หรือเพิ่มขึ้น 6.2% คิดเป็น 4.73 หมื่นล้านบาท จากสิ้นเดือนกันยายน 2555 โดยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารยังคงเป็นปัจจัยสำคัญผลักดันการเติบโต ทั้งนี้ยอดสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น 24.2% ในปี 2555 ขณะที่สินเชื่อ SME และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวแข็งแกร่งที่ 12.6% และ 3.7% ตามลำดับ เงินรับฝากเพิ่มขึ้น 22.6% คิดเป็นมูลค่าถึง 12.66 หมื่นล้านบาทจากปี 2554 ทั้งนี้สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายคืนเมื่อทวงถามต่อสัดส่วนเงินรับฝากทั้งหมดได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.8% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 เทียบกับ 42.4% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 2.13 หมื่นล้านบาท ลดลง 27.9% จาก 2.95 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพปัจจุบันของกรุงศรีกรุ๊ปอยู่ที่เพียง 2.4% ของสินเชื่อรวมซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2536 กรุงศรีกรุ๊ปยังสามารถรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิไว้ในระดับสูงที่ 4.33% แม้ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบอุทกภัยที่สิ้นสุดในไตรมาส 1/2555 นางเจนิส แร แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า “กรุงศรีได้เดินหน้าดำเนินการตามแนวคิด “กรุงศรี เรื่องเงิน เรื่องง่าย” มอบแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่สามารถตอบรับกับความต้องการผู้บริโภคและช่องทางการให้บริการที่เข้าถึงได้ง่ายด้วยพลังของทีมพนักงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง การเติบโตของสินเชื่อที่สูงเป็นประวัติการณ์ ความสำเร็จจากการควบรวมกิจการของธุรกิจสินเชื่อรายย่อยของธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย รางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมสำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และไมโครไฟแนนซ์ และการได้รับรางวัลการรายงานบรรษัทภิบาลดีเยี่ยมจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่สอง” “ทั้งนี้ แม้ต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาดเงินโลกซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคส่งออก ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในการเพิ่มอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกรุงศรีกรุ๊ปยังคงมีผลประกอบการที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นถึง 17.2% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.47 หมื่นล้านบาทในปี 2555” นางเจนิส กล่าวเสริม “เราคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อโดยรวมในปี 2556 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยได้รับการสนับสนุนจากนโยบายการเงินที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โครงการลงทุนของภาครัฐ และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งนี้ วัฏจักรการลงทุนขาขึ้นและความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยกรุงศรีตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่อไว้ที่ระดับสูงกว่า 12% สำหรับปี 2556” นางเจนิส กล่าว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศไทยมีสินเชื่อรวม 83.0 หมื่นล้านบาทและสินทรัพย์รวม 1.07 ล้านล้านบาท ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 16.9% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) 10.9% สรุปสาระสำคัญของผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) สำหรับปี 2555 - การเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ: เพิ่มขึ้น 17.2% คิดเป็นจำนวน 11.87 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2554 หรือเพิ่มขึ้น 6.2% คิดเป็นจำนวน 4.73 หมื่นล้านบาทจากสิ้นเดือนกันยายน 2555 - กำไรสุทธิ: 1.47 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.7% จากปี 2554 - ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ในระดับสูงที่ 4.33% แม้ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบอุทกภัยที่สิ้นสุดในไตรมาส 1/2555 - อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 50.3% จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่มีคุณภาพที่ 17.2% - สินเชื่อด้อยคุณภาพ: ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 2.13 หมื่นล้านบาทจาก 2.95 หมื่นล้านบาทณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 หรือลดลงถึง 27.9% โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพปัจจุบันมีสัดส่วน 2.4%ของสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2536 - สัดส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ: ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ระดับ 146% จาก 106% ในปี 2554 - รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ: เพิ่มขึ้น 18.8% จากปี 2554 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจ แบงค์แอสชัวรันส์และค่าธรรมเนียมบริการบัตรเครดิต - การเติบโตของเงินฝาก: เพิ่มขึ้นถึง 22.6% คิดเป็นจำนวน 12.66 หมื่นล้านบาทจากปี 2554 - อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง:ภายใต้บริบทของการขยายตัวของสินเชื่อที่แข็งแกร่งในปี 2555 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 16.9 เทียบกับร้อยละ 16.3ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 เป็นผลจากการเติบโตของรายได้และการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวน 1.48 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 4/2555 เกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ “กรุงศรีกรุ๊ป” เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 67 ปี ธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารรวม 605 สาขา และช่องทางการขายกว่า 17,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารยังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชี (ธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคล) มากกว่า 5.9 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้ต่ำผ่านบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์: 02 296 3847, 02 296 2443-4 อีเมล์: rosathorn.chiaraprasertkul@krungsri.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ