sccop สัมภาษณ์ปาน ธนพร

ข่าวทั่วไป Monday November 8, 2004 14:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--อาร์.เอส.โปรโมชั่น
ห่างหายจากการร้องเพลงมานาน วันนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของ “ปาน ธนพร แวกประยูร”กับอัลบั้มล่าสุด “Parn Lover นรกในใจ ” ซึ่งมีบทเพลงที่เล่าเรื่องราวของความรักในมุมมองที่หลากหลายขึ้น แต่เนื้อหาเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม วันนี้เราได้มีโอกาสไปพูดคุยเกี่ยวกับอัลบั้มชุดนี้ของเธอ
หายหน้าหายตาไปซะนานไปทำอะไรมาบ้าง ?
“ จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้หายไปไหนนะ ก่อนหน้านั้นก็ไปทำอัลบั้ม Dreamsซึ่งเป็นอัลบั้มพิเศษ แล้วก็ไปทัวร์คอนเสิร์ตตามต่างจังหวัด และก็มีไปเที่ยวบ้าง อาจจะไม่รู้สึกว่าปานหายไปเพราะมีกิจกรรมให้ทำอยู่ตลอด ”
ตอนนี้ออกอัลบั้ม “Parn Lover นรกในใจ” เนื้อหาเพลงในอัลบั้มนี้เป็นอย่างไร ?
“เนื้อหาก็รุนแรงมากขึ้น ภาษาที่ใช้ก็ประชดประชัน แล้วก็จะเด็ดขาดคำพูดในแต่ละคำมากขึ้น ฟังดูแล้วเข้มข้นขึ้น แนวเพลงจะเป็นเรื่องความรักของคนสองคน สามคน สี่คน ไปเรื่อย ๆ คนอาจจะมองว่าเป็นความรักที่ไม่สมหวังเหมือนเดิม แต่อัลบั้มชุดนี้จะชัดเจนขึ้น เนื้อหาลงแคบมากขึ้นแทนที่จะพูดกว้าง ๆ ก็บีบเข้ามาให้กระชับมากขึ้น”
แนวดนตรี ของอัลบั้มชุดนี้เป็นอย่างไร ?
“ชั้นเชิงในการทำเมโลดี้ก็ต่างไปจากเดิม มันจะรู้สึกแรงไปตามเนื้อหาของเพลง ดนตรีค่อนข้างจะเข้มทุกอย่างมันจะพัฒนาขึ้น จะมีการคุยกันมากขึ้นจากชุดแรกที่ยังไม่ได้คุยอะไรมากมาย จนกระทั่ง 4-5 ปีมานี้ ได้ใกล้ชิดกันมาตลอดจนทำให้เค้าได้เห็นความเป็นธรรมชาติของเรา ก็เลยออกมาในบทเพลงที่ว่าจะให้เราต้องร้องเพลงแบบนี้”
ทำไมถึงใช้ชื่ออัลบั้มว่า“Parn Lover นรกในใจ”?
“อยากสื่อให้ชัดไปเลยค่ะ ว่า เวลาที่เรามีความรักที่มันไม่สมหวังหรือไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด ซึ่งบางทีเราอาจจะรักเค้าหมดหัวใจ และเราก็คิดเสมอว่าเค้าก็น่าจะรักเราหมดหัวใจเหมือนกัน แต่บางทีมันไม่ใช่ ความรักไม่ใช่เลขคณิตที่ หนึ่งบวกหนึ่งจะเท่ากับสอง มันก็เหมือนเป็นศิลปะทางอารมณ์อย่างหนึ่ง ถ้าหากว่าเรากำหนดทิศทางความรักไม่ได้ พอไม่เป็นอย่างใจมันก็จะรู้สึกว่ามีอะไรค้างคาอยู่ในใจตลอดเวลา นรกในใจ มันเป็นคำตรง ๆ ที่เหมือนมีสิ่งที่ครุกรุ่นอยู่ตลอดเวลาว่าทำไมไม่เป็นดั่งใจ”
มิวสิควีดิโอ เพลง “นรกในใจ” มีดาราฝีมือเยี่ยมมาร่วมแสดงด้วย อยากให้ปานเล่าให้เราฟังสักนิดนึง
“ที่เราเลือกดาราใหญ่ๆมาเพราะว่าเราเชื่อในฝีมือเค้าว่าเค้าทำได้ เพราะเนื่องจากเพลงของเราเป็น เพลงที่เป็นละครสั้น และจำเป็นจะต้องใช้คนที่ใช่และเก่งจริงๆ และดาราๆหลายๆท่านเหล่านี้เป็นแม่เหล็กที่ดี พูดกันง่ายๆก็คือเป็นการค้า และรู้สึกเป็นเกียรติที่เค้ายอมที่จะเล่น อย่างพี่แอนไม่เล่น MV มา 10 ปีแล้ว พี่แอนก็ตกปากรับคำเลยว่าเล่น อย่างพี่นุชนี่ก็บอกเลยว่าเล่นเพราะพี่บีเชียร์ให้เล่น ส่วนพี่อู๋ ธนากร ปานโทรไปเองเลย เพราะว่าเราไม่เคยร่วมงานกัน ก็โทรไปขอร้องเค้าก็บอกว่าเล่นโดยที่เค้าไม่ต้องฟัง น้องน๊อตนี่ไม่ต้องพูดถึงเล่นด้วยความเต็มใจ ต่างคนต่างเชื่อใจกัน ปานเชื่อว่าอย่างพี่อ๊อฟ มณฑล ที่เป็นผู้กำกับ เค้าก็ทำงานเต็มที่”
ในอัลบั้มนี้มีเพลงที่นำมาจากประสบการณ์จริงของปานบ้างไหม ?
“คือจะมีเพลงหนึ่งที่บอกว่า เรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว ชื่อเพลงเหงา เข้าใจ คือจริง ๆ แล้วคนเขียนเข้าใจเลยว่า ชีวิตเราก็เป็นแบบนี้ เค้าก็จะบอกว่าจะเขียนให้เพลงหนึ่งนะ ที่ตรงกับชีวิตเราว่าเป็นยังไง พอฟังแล้วก็รู้สึกเข้าใจ มันเป็นเรื่องของคนที่เราไม่ได้ปิดตัวเอง แต่บางครั้งเราอาจจะมีประสบการณ์ไม่น่ารักกับเรื่องความรัก เรารู้สึกว่า ถ้ามีความรักแล้วเป็นแบบนี้ไม่ต้องมีเลยดีกว่า ทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง เราเห็นมาเยอะแล้ว รู้สึกว่าทุกคนมีความรักแล้วจะต้องมานั่งร้องไห้กับความรัก ถ้าไม่มีความสุขแล้วอย่ามี ต้องหาคำตอบกับตัวเองว่า เป็นทั้งหมดในชีวิตหรือเปล่า ถ้าสมมติว่าเวลาที่เราเหงาอย่างนี้ ต้องถามตัวเองว่าเราเหงาเพราะอะไร ถ้าเหงาอยากมีคู่หรือเหงาเพราะรู้สึกว่าเหงา ก็ออกไปดูหนังว่าหายหรือเปล่า ถ้าหายก็โอเค แล้วกลับมาสามารถอยู่กับตัวเองได้ นั่นก็แปลว่า มันเป็นแค่อารมณ์เหงาเพียงนิดหน่อย นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ก็มีเพลงนี้ที่รู้สึกว่าตรงกับตัวเอง”
อัลบั้มชุดนี้มีการเตรียมตัวอย่างไร ?
“ก็จะออกกำลังกายเยอะ ๆ เพราะว่าได้ยินเพลงแล้วรู้สึกว่ามันร้องยาก จะอยู่นิ่งไม่ได้จะต้องขยันมากขึ้น ในระหว่างที่พักอัลบั้มปกติก็จะวอร์มเสียงอยู่แล้ว ไม่อยากให้เสียงตาย”
เสื้อผ้า หน้า ผม ดูแปลกไปกว่าอัลบั้มชุดก่อน ๆ อยากรู้จังเลยใครเป็นคนออกแบบให้?
“คุณนก กรกนก เป็นคนดูแล ส่วนทรงผมก็จะเป็นพี่ยง ก็ 2 ท่านนี้ก็ดูแลเหมือนเดิมจากอัลบั้มที่แล้ว เค้ามองจากอะไรไม่รู้ สนุกๆของเค้า คือการทำงานแบบนี้เราต้องเชื่อคนที่เค้ามีประสบการณ์ ถ้าเปิดหนังสือแฟชั่นดูแล้วถามปานว่ารู้ลึกอะไรไหม ตอบได้เลยว่าไม่มีวันรู้ว่าอะไรมาอะไรไม่มา แต่การทำผมทรงนี้ก็ไม่ได้เขินอะไร กลับดีใจที่เค้ามาดูแลเพื่อเรา จริงๆเป็นคนที่ชอบอะไรมันส์ๆอยู่แล้ว ไม่เคยคิดว่าเป็นผู้หญิงจะต้องผมยาวสวยงาม ส่วนเสื้อผ้าก็จะเป็นแนวญี่ปุ่น”
เคยคิดอยากจะร้องเพลงแนวอื่นบ้างไหม?
“มันก็มีหลายประเภทนะ อย่างลูกทุ่งก็ร้องเป็น สักวันหนึ่งอาจอาจจะมีการออกอัลบั้มลูกทุ่งก็ได้ อะไรก็เกิดขึ้นกับปานได้เสมอ มันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่นักร้องอยากทำ อย่างเวลาทำงานเบื้องหลัง ไปร้องไกด์ให้กับเด็ก เราก็ต้องทำเป็นเด็กนิดหน่อย แต่มันก็สนุก ไปร้องไกด์ให้พวกบ้าพลัง แต่มันเป็นพลังอีกแบบหนึ่งที่มีเสน่ห์ ถ้าสักวันหนึ่งเราได้ทำอัลบั้มจับฉ่ายสักอัลบั้มหนึ่งก็คงจะสนุกดี”
นอกจากร้องเพลงแล้วมีงานอะไรที่อยากทำนอกเหนือจากนี้อีก?
“ถ้าการเป็นนักร้องมันถึงจุดอิ่มตัวเมื่อไหร่ ก็จะทำงานเบื้องหลังแน่นอน ชอบทำงานเบื้องหลังเพราะก่อนหน้านั้นก็ทำงานเบื้องหลังมาก่อน ก็คิด ไว้ว่าถ้าถึงวันนั้นจริงๆก็คงต้องทำทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้หนีไปจากเบื้องหลังเลย ยังช่วยร้องคอรัสให้กับศิลปินหลายๆคน และไม่คิดจะทิ้งก็คือจะทิ้งมันไม่ได้ เพราะว่าเราเกิดมาจากตรงนี้ ถ้าศิลปินคนไหนได้รับเกียรติให้ทำงานเบื้องหลังก็จะดีมากเลยเพราะว่าคุณจะได้อะไรจากตรงนี้เยอะเลยและทำให้ศักยภาพเราดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จริงๆก็อยากทำร้านหนังสือด้วย แต่ต้องรอให้รวยก่อนนะ(หัวเราะ)ชอบหนังสือ อยากทำเป็นร้านเล็กๆทำเล็กๆพอแล้วไม่ไม่อยากทำใหญ่ อีกอย่างก็อยากทำฟาร์มหมา ตอนหลังไม่อยากทำแล้วเพราะว่าขายไม่ลง เป็นคนรักหมา เหมือนเป็นการขายชีวิตหลังๆเลยคิดว่าฟาร์มหมาคงไปไม่รอด”
คาดหวังกับอัลบั้มชุดนี้มากน้อยแค่ไหน?
“ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าทุกคนหวังก็คงอยากจะหวังให้มันดีอยู่แล้ว เพราะว่ามันคือการค้า มันเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง”
สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงอัลบั้มนี้ ?
“ก็ขอบคุณล่วงหน้า ที่ยอมฟังเพลงของปานอีกชุดนึง ซึ่งมันจะออกมาดีรึเปล่าก็ไม่รู้ ณ วันนี้ทุกคนยอมฟัง และเอาไปคิดตามแค่นี้ก็พอแล้ว ขอบคุณคะ”
ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำบอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับอัลบั้ม “Parn Lover นรกในใจ ” จาก ปาน-ธนพร แวกประยูร ติดตามผลงานของเธอได้แล้ววันนี้ทุกแผงเทป ทั่วประเทศ--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ