กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--บมจ. ทุนธนชาต
บมจ. ทุนธนชาต (TCAP) รายงานผลประกอบการปี 2555 มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง สินทรัพย์รวมมากกว่า 1 ล้านล้านบาท สินเชื่อเติบโต 18.6% เงินกองทุนของธนาคารมากกว่า 1 แสนล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิสำหรับปี 55 มีจำนวน 5,482 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.6% จากปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลักๆ จากการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ ซึ่งเป็นผลมาจากการผสานพลังภายในกลุ่มธนชาตและการทำ Cross-sell พร้อมทั้งบริหารหนี้เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย NPL ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง 4.3% จากสิ้นปีที่ผ่านมาที่ 5.9%
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานของปี 55 ว่า กลุ่มธนชาต (ทุนธนชาต - TCAP) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 55 สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1,024,102 ล้านบาท โดยมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งในปี 2555 ซึ่งครอบคลุมสินเชื่อทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อธุรกิจเช่าซื้อ ที่ได้รับแรงผลักดันจากนโยบายรถคันแรกโดยสินเชื่อธุรกิจเช่าซื้อ ในปีนี้มีการเติบโตถึง 38.6% จากสิ้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ ปริมาณสินเชื่อเติบโต มากถึง 18.6% ในปีนี้ชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง จากการแข่งขันที่รุนแรงของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้ NPL ลดลงมาอยู่ที่ 4.3% ณ สิ้นปี 2555 ส่งผลให้ทั้งปี มีกำไรสุทธิ 5,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 480 ล้านบาท หรือ 9.6% จากปีก่อน
ขณะที่ นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่าภายใต้ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ธนาคารธนชาตวางไว้ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 เป็นหนึ่งในแรงเสริม ที่ทำให้ ธนาคารก้าวไปสู่การเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศ รองรับการขยายตัวของฐานลูกค้า ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นตามปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยรายได้ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตจากการผสานพลังกันภายในกลุ่มธนชาต และการทำ Cross-sell ผ่านเครือข่ายสาขากว่า 600 สาขา ส่วนของการควบคุมค่าใช้จ่ายยังคงทำได้ดี ภายใต้นโยบาย Zero Growth ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่แปรผันตามปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีการบริหารหนี้เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ NPL ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งธนาคารยังมีฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยขนาดของเงินกองทุนมีสูงกว่า 1 แสนล้านบาท คิดเป็น BIS Ratio ประมาณ 14% สามารถรองรับแผนการเจริญเติบโตตามเกณฑ์ Basel III
“สำหรับแนวโน้มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในปี 2556 เชื่อว่าสินเชื่อจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากแรงกระตุ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ และการใช้จ่ายของภาครัฐ และด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่ได้เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2555 จะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 2556 นี้ จะส่งผลให้ธนาคารธนชาตพร้อมในการพัฒนาสินค้าและบริการที่ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการให้บริการ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินที่ดำเนินธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมๆกับลูกค้า”