กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--IR network
บมจ.ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) แรงดีไม่มีตก ลั่นออเดอร์ล้นมือดันรายได้ปี 2556 พุ่งต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมกางแผนงานปีมะเส็งทุ่มงบ 150 ล้านบาท ผลิตแม่พิมพ์ใหม่เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์กว่า 150 แบบ และเตรียมเจาะกลุ่มลูกค้าแดนกิมจิ เหตุเกาหลีกำลังขยายอาณาเขตตลาดรถยนต์ในอเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง และแม่พิมพ์เพื่อตลาด ASEAN มากขึ้นรองรับการเปิดเสรีในปี 2558 ขณะที่ผลงานปี 2555 มั่นใจกวาดรายได้เข้าเป้า 1,500-1,600 ล้าน
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2556 ว่าบริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอในปี 2555 ที่ผ่านมา เพื่อใช้ลงทุนผลิตแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มอีกกว่า 150 แบบ จากเดิมที่มีอยู่แล้วประมาณ 1,500 แบบ โดยคาดว่าแม่พิมพ์ใหม่จะช่วยเพิ่มรายได้ประมาณ 100-150 ล้านบาทต่อปี และสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 40-50% ทั้งนี้บริษัทฯ
จะเน้นเปิดตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดรถยนต์เกาหลี ที่ปัจจุบันเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในตลาดอเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง ที่หันมานิยมใช้รถยนต์สัญชาติเกาหลี เพราะมีราคาถูก โดยเฉพาะการใช้เป็นรถแท็กซี่ ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนอะไหล่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเน้นชิ้นส่วนรถยนต์ Eco Car และตลาด ASEAN มากขึ้น เพื่อรองรับการเปิดเสรี AEC ในปี 2558
"สำหรับปี 2556 นี้ FPI จะเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ที่อาจจะมีการจัดสรรงบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท จากงบลงทุนรวมทั้งปีที่ 150 ล้านบาท เพื่อลงทุนซื้อแม่พิมพ์รถยนต์สัญชาติเกาหลี ที่ปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาด อเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง ที่นำไปทำรถแท็กซี่ ซึ่งถือว่ามีอัตราการเปลี่ยนอะไหล่ค่อนข้างสูง เป็นผลดีต่อวอลุ่มในการขาย"
นายสมพล กล่าวด้วยว่าในปี 2556 นี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท หลังจากกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 42% จากเครื่องจักรใหม่ 9 ตัว ที่ติดตั้งเสร็จไปแล้ว 6 ตัวเมื่อปลายปี 2555 ที่ผ่านมาและอีก 3 ตัวที่จะติดตั้งแล้วเสร็จในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ประกอบกับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่น่าจะเติบโตได้อีกประมาณ 3-5% จากโครงการรถคันแรก ที่จะมีการส่งมอบต่อเนื่องอีกในไตรมาส 1 และ ไตรมาส 2 ของปีนี้
ด้านของผลการดำเนินงานงวดปี 2555 ที่ผ่านมา โดยรวมแล้วถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในส่วนของรายได้เติบโตประมาณ 20% อยู่ที่ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิของ FPI งวด 9 เดือน ปี 2555 อยู่ที่ 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 64 ล้านบาท หรือประมาณ 100% ส่วนไตรมาสที่ 4 ผลการดำเนินงานของ FPI ยังสามารถเติบโตได้ในระดับที่ดี ทำให้เชื่อมั่นว่าทั้งรายได้และกำไรของบริษัทฯ ในปี 2555 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปี 2554 และสำหรับการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นนั้น ได้มีการจ่ายระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.12 บาท ในช่วงเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ส่วนงวดครึ่งหลังของปีจะมีการจ่ายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับมติคณะกรรมการที่จะมีการประชุมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 นี้