กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--กรมศุลกากร
กรมศุลกากรเริ่มใช้บริการ "หนึ่งวันทันใจ" (One Day Clearance) โดยร่วมมือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ลดขั้นตอนการยื่นเอกสาร การตรวจปล่อยสินค้านำเข้า-ส่งออก รับประกันผ่านพิธีการศุลการเรียบร้อยภายใน 7 ชั่วโมง และสามารถเคลื่อนย้ายสินค้าเข้า-ออกเบ็ดเสร็จ ได้ใน 1 วัน
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "หนึ่งวันทันใจ" (One Day Clearance) ณ ฝ่ายตรวจสินค้าท่าบริการตู้สินค้า 2 สำนักงานศุลกากรท่าเรือ กรุงเทพ พร้อมทั้งชมการสาธิตกระบวนการผ่านพิธีการและจัดทำใบขนสินค้าขาเข้า และกระบวนการตรวจปล่อยสินค้า โดยการรับ-ส่งข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
จากการลงนามบันทึกความตกลงให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (MOU) ระหว่างกรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อเกิดความร่วมมือการแลกเปลี่ยนข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้าเข้าและออก โดยในส่วนของกรมศุลกากรซึ่งถือได้ว่าเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า - ส่งออก จึงได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบพิธีการศุลกากรและระบบงานคอมพิวเตอร์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับจากวันลงนามร่วมกันใน MOU เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์ ในลักษณะ Quick Win ให้เกิดโครงการ One Day Clearance โดยทันที
ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์และการปรับบทบาทใหม่ของกรมศุลกากร เพื่อเป็น "ศุลกากรมาตรฐานโลกเพื่อความสามารถในการแข่งขันและความปลอดภัยทางสังคม" กรมศุลกากรจึงได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงการดำเนินงานโดยเฉพาะด้านการนำเข้าสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าเข้าอย่างรวดเร็วทันเวลา เพื่อให้ผู้นำเข้าสามารถรับสินค้าได้ภายใน 1 วันทำการ นับตั้งแต่ผู้นำเข้าที่มีเอกสารครบถ้วนถูกต้องได้ติดต่อขอรับสินค้าที่นำเข้ามาในประเทศไทย โดยกรมศุลกากรได้ปรับปรุงและเชื่อมโยงระบบการรับ - ส่งข้อมูลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ แทนการยื่นเอกสารต่างๆ สำหรับการนำเข้าสินค้า กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจปล่อยสินค้าและการเคลื่อนย้ายสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการสามารถได้รับสินค้าในเวลา 1 วัน ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะต้องตรวจสินค้าให้เสร็จภายใน 7 ชั่วโมง (ซึ่งโดยทั่วไปปฏิบัติได้ภายใน 3 ชั่วโมงครึ่ง) และเวลาที่เหลือ 17 ชั่วโมง เป็นการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ท่าเรือกรุงเทพ โดยจะเริ่มนำร่องใน 3 จุดขนถ่ายสินค้าที่สำคัญคือ ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าอากาศยานกรุงเทพ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับความสะดวกในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร และการขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งลดขั้นตอนและเวลาการติดต่อพบปะเจ้าหน้าที่ให้เหลือเพียงจุดเดียว ซึ่งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ตามแผนยุทธศาสตร์ยกระดับโลจิสติกส์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของประเทศในเวทีโลก เพื่อเพิ่มบริการด้านการนำเข้า-ส่งออก ให้มีความรวดเร็วมากขึ้นรวมทั้งช่วยประหยัดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบขนส่งหรือโลจิสติกส์ของไทยอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมศุลกากร ถ.สุนทรโกษา คลองเตย พระโขนง กทม. 10110
โทร./โทรสาร 0-2249-9017 0-2249-3298--จบ--