กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” คาดยอดขายปี 56 โต 20% และตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท พร้อมขยายไปต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยเน้นภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปท์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ในปี 2556 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 2,600 ล้านบาท หรือเติบโต 20% โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้อยู่ที่ 2,250 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มสินค้าอาคารชุด รวมทั้งขยายโครงการไปยังต่างจังหวัดทั้งในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ หลังจากประสบปัญหาจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในช่วงปี 2554 ซึ่งทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลกระทบ ก่อนที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวและธุรกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปีนี้คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง โดยมองว่าทิศทางและแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งในปี 2556 นี้
“ปัจจัยที่สนับสนุนให้ธุรกิจอสังหาฯ ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ผลจากน้ำไม่ท่วม ตลอดจนอัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในระดับต่ำ การขยายโครงการเส้นทางก่อสร้างคมนาคม และโครงการขนส่งมวลชน โดยเฉพาะระบบรางสำหรับรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหา ฯ ทั้งสิ้น จึงทำให้ธุรกิจที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูง มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี ” นายไชยยันต์ กล่าว
นายไชยยันต์ กล่าวต่อว่า นอกจากปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯ แล้ว ยังมีปัจจัยของการฟื้นตัวของการบริโภคภาคประชาชน และการลงทุนภาครัฐบาล อีกทั้งการขยายการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนการเตรียมตัวรับ AEC ในอนาคตเป็นแรงผลักดันให้ตลาดในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัดมีศักยภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวทั่วกรุงเทพ ฯและ ต่างจังหวัด ทำให้ปีนี้บริษัท ฯ มีนโยบายในการขยายธุรกิจไปยังต่างจังหวัดต่อจากปีที่แล้ว โดยมุ่งขยายไปยังชลบุรี ศรีราชา พัทยาและระยอง ตลอดจนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้ คาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ๆ ประมาณ 8 -10 โครงการ โดยจะเน้นในส่วนของที่อยู่อาศัยแนวสูงอย่าง คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น โดยจากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 15% คาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 20 — 25% ทั้งนี้เนื่องมาจากความต้องการที่อยู่อาศัยในแนวสูงที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ไปยังต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากบริษัทเล็งเห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นว่าแผนการขยายงานในส่วนของตลาดอาคารชุดและตลาดต่างจังหวัดจะเป็น 2 ปัจจัยหลักในการขยายงานเพื่อสนับสนุนแผนงานด้านการเจริญเติบโตของบริษัทฯ (Growth Strategy)
สำหรับโครงการในปัจจุบันนั้น บริษัทฯ ได้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบสนองวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเน้นความสะดวกสบายทั้งในการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวันในเมือง จึงทำให้โครงการส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูง ที่จะเน้นยึดทำเลที่ตั้งในแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินเป็นหลัก ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์ในการแบ่งแบรนด์เป็น SBU1 ( คือ แบรนด์เดิม ประกอบด้วย บ้านลลิล ลลิล กรีนวิลล์ และบุรีรมย์ ), SBU2 (คือ แบรนด์ใหม่ ประกอบด้วย แลนซิโอ ลีโอ ลิปป์และลีโว) และ SBU 3 รองรับโครงการต่างจังหวัด เพื่อให้สามารถทำการตลาดได้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกระดับทั้งตลาดบน — กลาง และล่าง ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
E-mail: jatavayu.theway@gmail.com E-mail: duchanee.theway@gmail.com
E-mail: tharini.theway@gmail.com โทร.02-245-3814, แฟกซ์.02-245-3815