กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากกรณีที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ "เฟซบุ๊ก" ได้เผยแพร่รูปภาพห้องน้ำสาธารณะเข้าข่ายดูหมิ่นพระพุทธศาสนา มาตั้งบริการในเมืองบรุนส์ซัม จังหวัดลิมเบิร์ก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพห้องน้ำสาธารณะแบบหยอดเหรียญที่พ่นสีตกแต่งพื้นผิวภายนอกเป็นภาพพระพุทธรูป 2 องค์ ทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์แสดงความไม่พอใจ พร้อมพยายามร้องเรียนให้ทางการเนเธอร์แลนด์นำห้องน้ำดังกล่าวออกไป หรือแก้ไขใหม่โดยลบภาพพระพุทธรูปออกไปนั้น ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ทำความเข้าใจกับทางสถานทูตประเทศเนเธอร์แลนด์ ว่าสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและกระทบต่อจิตใจชาวพุทธที่เป็นคนไทยและประเทศต่างๆที่นับถือ จึงอยากให้ทางสถานทูตให้ความร่วมมือและประสานไปยังบริษัทที่ติดตั้งห้องน้ำสาธารณะ เพื่อให้ลบภาพพระพุทธรูปออก ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นอาจเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดทำคู่มือที่มีการกำหนดข้อระวังทางพระพุทธศาสนาไว้ประกอบด้วย การนำพระพุทธรูปมาใช้ในสถานที่ไม่เหมาะสม เช่น การประดับตามร้านอาหาร หรือภายในบริเวณโรงแรมต่างๆ รวมถึงการใช้โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ในทางไม่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทย โดยในคู่มือจะมีการกำหนดโทษที่จะได้รับหากกระทำความผิด ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่คู่มือตามสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งจะจัดพิมพ์เป็นภาษาไทย และภาษาต่างประเทศทั้งภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพื่อทำความเข้าใจกับชาวต่างชาติ และจะจัดทำข้อเสนอแนะประกอบคู่มือ แจกจ่ายไปยังหน่วยงานรัฐบาล วัดไทย และร้านอาหารไทยในต่างประเทศด้วย
“กรณีดังกล่าวนอกจากพบเห็นที่ต่างประเทศแล้ว ประเทศไทยก็พบอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงวัฒนธรรมได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ต่างๆ ภายในประเทศ พบว่าสถานที่บางแห่งมีการนำสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาไปประดับไว้ จึงได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการเข้าไปทำความเข้าใจกับสถานประกอบการเหล่านี้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ดังนั้น การสร้างจิตสำนึกให้คนในชาติตระหนักถึงความเหมาะสมและความสำคัญพระพุทธศาสนาพุทธถือเป็นเรื่องสำคัญ และสามารถช่วยลดปัญหาเหล่านี้อีกด้วย” รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว