กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--WWF
กลุ่มองค์กรอนุรักษ์ออกแถลงการณ์เรียกร้องภาครัฐสร้างบรรทัดฐานในการดำเนินคดีผู้ล่าสัตว์ป่าแถลงการณ์ร่วมมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร มูลนิธิโลกสีเขียว กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย)สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย มูลนิธิเพื่อนช้าง เพจคนอนุรักษ์ถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการจังหวัดเพชรบุรี และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
จากกรณีที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและเจ้าหน้าที่ ได้จับกุมกลุ่มพรานล่าสัตว์จำนวน 9 คนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งในจำนวนนี้มีนายตำรวจอาวุโสระดับพันตำรวจโท รวมอยู่ด้วยพร้อมของกลางคือ อาวุธปืน กบทูด กระจง และภาพถ่ายหลักฐาน ภาพวิดีโอ ที่กลุ่มนายพรานได้ถ่ายเอาไว้ขณะล่าสัตว์และพักค้างแรม ในเขตป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2555 ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2556 พนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว มายื่นต่ออัยการจังหวัดเพชรบุรี โดยมีผู้ต้องหาทั้ง 9 คน นำโดย พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สารวัตรสืบสวนสอบสวน (สว.สส.) สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพวกมาพร้อมกันที่สำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี และได้แจ้งข้อหาดังนี้ ร่วมกันล่าและมีสัตว์ป่าคุ้มครอง (กบทูด) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืน-เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ นำอาวุธปืนเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้อาวุธปืนยิงสัตว์ป่าในระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น นำสัตว์ออกไปหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์
คดีดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาเพียง 8 คนเท่านั้น โดย พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ นั้นไม่โดนแจ้งข้อหา เนื่องจากเมื่อตรวจสอบพยานหลักฐาน ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ ร่วมกันกระทำความผิดจริง เพราะภาพไม่มีวันที่ว่าถ่ายมาเมื่อใด อีกทั้งไม่มีภาพขณะกำลังล่าสัตว์ มีแต่ภาพนั่งกินหรือทำกิจกรรมอื่น ประกอบกับอาวุธปืนที่ยึดได้นั้น ไม่ใช่ของ พ.ต.ท.ธีรยุทธ์ แต่อย่างใด
กลุ่มองค์กรอนุรักษ์ ดังรายชื่อท้ายจดหมายนี้ มีความเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของพนักงานสอบสวนจะสร้างบรรทัดฐานในการดำเนินคดีกับผู้ที่ล่าสัตว์ป่าที่จะเอื้อให้เกิดการล่าสัตว์ป่ามากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ต้องหาในคดีล่าสัตว์ป่า อาศัยเป็นช่องโหว่ในการไม่ต้องรับผิด อีกทั้งทำให้สถาบันตำรวจเกิดความเสื่อมเสียเนื่องจากคดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงขอเรียกร้องต่อผู้เกี่ยวข้องดังนี้
1. ขอให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เพื่อให้มีการสอบสวนหาพยานหลักฐาน ที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น และดำเนินการตรวจสอบทางอาญาและวินัยกับพนักงานสอบสวนชุดนี้ด้วยว่ามีการดำเนินการที่เอื้อให้ผู้กระทำผิดต่อสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมไม่ต้องถูกฟ้องหรือไม่
2. ขอให้พนักงานอัยการดำเนินการสั่งให้มีการสวบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ยกฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่ชัดเจน
3. ขอเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีเรื่องนี้อย่างถึงที่สุดเพราะเป็นคดีด้านทรัพยากรธรรมชาติที่อุกอาจเพื่อสร้างบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายในคดีด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นประโยชน์ต่องานอนุรักษ์สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อไป