กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม — ธันวาคม 2555) ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 499,203 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 94,189 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3 ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงเศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่องและผลกระทบจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก รวมทั้งการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 3จี จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)[1] ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 785,914 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 296,098 ล้านบาท หรือร้อยละ 60.5 ซึ่งเป็นผลจากการที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณก่อนมีผลบังคับใช้ล่าช้า ประกอบกับรัฐบาลได้เร่งดำเนินนโยบายทางการคลังของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 286,711 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 117,426 ล้านบาท (สาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 102,135 ล้านบาท) ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 404,137 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 102,936 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 301,201 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 259,136 ล้านบาท
นายสมชัยฯ สรุปว่า “ทิศทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศเป็นหลัก อันเป็นผลมาจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมาย นอกจากนี้ ระดับเงินคงคลังยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถเร่งรัดการบริโภคและการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2556”
ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2556
หน่วย: ล้านบาท
ไตรมาสแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2556 ปีงบประมาณ2555 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 499,203 405,014 94,189 23.3
2. รายจ่าย 785,914 489,816 296,098 60.5
3. ดุลเงินงบประมาณ (286,711) (84,802) (201,909) 238.1
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ (117,426) (171,811) 54,385 (31.7)
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) (404,137) (256,613) (147,524) 57.5
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 102,936 - 102,936 -
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) (301,201) (256,613) (44,588) 17.4
8. เงินคงคลังปลายงวด 259,136 264,677 (5,541) (2.1)
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9020 ต่อ 3568
[1] ทั้งนี้ กระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมายว่ารายได้ส่วนดังกล่าว (20,843 ล้านบาท) สามารถนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินอย่างสมบูรณ์ได้หรือไม่ เนื่องจากการออกใบอนุญาตดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด