กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,684 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,670 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,750 บาท กับ 23,850 บาท และกลับมาปิดที่ 23,700 บาท กับ 23,800 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 3,255 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,449 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 7 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.04% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.2% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.5% GFG13 ปิด 23,880 บาท และ GFJ13 ปิด 24,010บาท GF10G13 ปิดที่ 23,880 บาท GF10J13 ปิดที่ 24,010 บาท SVG12 ปิดที่ 960 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 16.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,669.90 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 71.7 เซ็นต์ ที่ระดับ 31.72 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,331.71ตัน (ขายออก 2.4 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 72 เซ็นต์/บาร์เรลปิดที่ระดับ 95.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 46 จุด ปิดที่13,825.33 จุด
ข่าวที่สำคัญ
The Bullion Desk, Reuters, Bloomberg, Kitco News, Efx News, Infoquest
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐสภาได้เพิ่มระดับเพดานหนี้ชั่วคราวออกไปอีก 3 เดือน ทำให้ลดความเสี่ยงของสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม Reuters กล่าวว่า การเพิ่มระดับเพดานหนี้ในปี 2011 ทำให้ราคาทองคำแตะระดับสูงสุด 1,920.30 เหรียญ ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 สวนทางกับที่คาด จากที่รัฐสภาหลีกเลี่ยง Fiscal Cliff ซึ่งช่วยขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ผู้ว่างงาน ส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลงเช่นกัน
นายจอร์จ โซรอส กล่าวในการประชุมเศรษฐกิจโลกว่า ค่าเงินยูโรจะยังคงอยู่ต่อไปและจะแข็งค่าขึ้นตราบใดที่สกุลเงินอื่นๆ พยายามที่จะลดค่าเงินตนเอง ซึ่งเขามองว่าเยอรมนีมักจะเป็นส่วนหนึ่งเป็นอย่างน้อยที่จะรักษาสกุลเงินยูโรเอาไว้เสมอ นอกจากนี้นายโซรอสยังกล่าวถึงประเด็น Fiscal Cliff ของสหรัฐว่า หากปัญหาถูกแก้ไขและเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้น จะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ตลาด Option มีปริมาณการซื้อขายมากกว่าตลาด Spot ในเช้านี้ โดยนักลงทุนได้เก็งกำไรในทิศทางขาลง และธนาคารต่างๆก็ได้ทำเช่นเดียวกัน โดยพยายามที่จะ “ปิด” สถานะ Call Option (สถานะซื้อ) ในระยะสั้น
ตัวเลขชี้นำเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐในเดือน ธ.ค. ได้เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน ส่งสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดแรงงานเริ่มแข็งแกร่ง และจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรงของปีนี้
ปริมาณการซื้อขายมากกว่าปริมาณเฉลี่ย 250 วัน 20% เนื่องจากการ roll-over ของสัญญาส่งมอบเดือน ก.พ. ไปเดือน เม.ย. ก่อนวันที่ 31 ม.ค.
MKS กล่าวว่า มีแรงสะสมในช่วง 1,695 — 1,700 เหรียญตลอดทั้งสัปดาห์ แต่หลังจากราคาไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ เริ่มมีสัญญาณการสะสมทองคำที่อ่อนตัวลง
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในทองคำยังลดลงต่อไป เมื่อ HSBC ธนาคารทองคำขนาดใหญ่ ได้กล่าวว่า HSBC ได้ลดการลงทุนในทองคำลงครึ่งหนึ่ง และหันมาป้องกันความเสี่ยงในพันธบัตรที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ (TIPS) แทน
ผู้ซื้อทองคำในอินเดียพยายามที่จะขายทองคำที่สะสมไว้ แม้ว่าจะต้องลดราคาให้กับผู้ที่ซื้อต่อ เนื่องจากราคาในตลาดตอนนี้ได้รวมส่วนที่เพิ่มภาษีนำเข้าอยู่ 50%
รองประธานธนาคารกลางรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียจะยังคงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2005 ได้เคยวางแผนเพิ่มทองคำเป็นทุนสำรอง 10% และตอนนี้กำลังแตะระดับดังกล่าว หลังจากเข้าซื้อทองคำ 550 ตันใน 6 ปีที่แล้ว
ธนาคารกลางเวียดนามกล่าวว่า มีการนำเข้าทองคำโดยตรงและซื้อขายทองคำกับบริษัททองคำและธนาคาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนควบคุมตลาดภายในประเทศ และผ่อนคลายแรงกดดันในค่าเงินดองของเวียดนาม
นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดาลาส ได้กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การเข้าซื้อพันธบัตรอย่างมากของเฟดจะไม่ดำเนินต่อเนื่องไปตลอด ขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจตลาดแรงงาน
เฟดได้เพิ่มสินทรัพย์ในงบดุลแตะระดับ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ (ในวันที่ 23 ม.ค.) จากการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อลดอัตราการว่างงานระดับ 7.8% และจะยังซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อไป จนกว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัว “อย่างมาก”
กฎใหม่ของรัฐสภาที่จะทำให้สมาชิกคนหนึ่งขัดขวางร่างกฎหมายได้ยากขึ้นได้รับการอนุมติจากนายแฮรี่ รีด ผู้นำเสียงข้างมาก
MKS กล่าวว่าวันนี้ มาตรการ LTRO หรือมาตรการปล่อยเงินกู้ระยะยาวเป็นกรณีพิเศษของอีซีบีจะส่งผลต่อค่าเงินยูโร ซึ่งอาจจะส่งผลต่อราคาทองคำ โดยอีซีบีจะตัดสินใจวันนี้ว่าจะให้เงินกู้ยืมแก่ภาคธนาคารรอบแรกในวันที่ 30 ม.ค. จำนวนเท่าใด จากเงินกู้ยืมระยะเวลาทั้งหมด 3 ปี แต่นักวิเคราะห์ Nomura กล่าวว่า การประกาศครั้งแรกนี้จะไม่มีผลกระทบต่อตลาดมากนัก
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 335,000 ราย ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 330,000 ราย
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -1 M ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2.8 M
- Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 54 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 56.1
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 377,000 หลัง คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ 387,000 หลัง
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยที่ยังได้รับผลกระทบจากข่าวการขยายเวลาการพิจารณาเพิ่มระดับเพดานหนี้ออกไปอีก 3 เดือนไปสิ้นสุดวันที่ 19 พ.ค. รวมทั้งการที่อินเดียปรับเพิ่มภาษีทองคำ ซึ่งอินเดียบริโภคทองคำลดลงเมื่อเปรียบเทียบจากปี 2010 และ 2011 จำนวน 10 กว่าตัน โดยประมาณจากระดับ 60 ตันเหลือ 45 ตัน สองประเด็นนี้เป็นตัวกดดันทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ในเชิงเทคนิคการที่ราคาทองคำไม่สามารถขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 1,695 เหรียญได้ ก็มีการปรับตัวลดลงมาใหม่ ทำให้ทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว MTS Gold แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในทิศทางขาลงตามที่ได้แนะนำไปตั้งแต่เมื่อวานและให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ ยังแนะนำว่าให้เล่นในทิศทางขาลง โดยเป็นลักษณะของการขายก่อนเมื่อราคาชนบริเวณแนวต้านหรือบริเวณที่แนะนำและค่อยซื้อกลับเมื่อราคาย่อลงมา แนวต้านของทองคำในวันนี้อยู่ที่ระดับ 1,678 เหรียญ ในขณะที่แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,660 เหรียญ ซึ่งยังมองว่าในระยะยาวทองคำมีโอกาสลงไปทดสอบที่ระดับ 1,620 เหรียญอีกครั้งหนึ่งได้ จึงแนะนำนักลงทุนที่ยังติดพอร์ท Long Position และยังขาดทุนอยู่ให้พิจารณาที่จะหาจังหวะในการลดพอร์ท หรือการที่จะเปิดเป็นสถานะ Short Position
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,740 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,920 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,100 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 950 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในทิศทางขาลง กรอบการเก็งกำไรจะอยู่ที่ 1,660 — 1,675 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
เปิด Short Position ประมาณ 10% หลังจากเมื่อวานให้เปิดไป 5% หาจุดทำกำไรในระยะสั้นบ้างบริเวณ 1,660 เหรียญ
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ขายลดพอร์ทเป็น 0% เริ่มเก็งกำไรในทิศทางขาลงเช่นเดียวกัน
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง