กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
แพทย์เอเชียผลักดันวิธีการรักษาที่มีเป้าหมายในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง
แนวคิดใหม่ในการพัฒนายา เป็นคำตอบในการลดอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งในประเทศไทยได้อย่างไร
ญี่ปุ่น วานนี้ วันที่ 1 สิงหาคม 2548: ในการประชุมสุดยอดทางโรคมะเร็ง ภาคพื้นเอเชียประจำปี 2005 (2005 Pan Asia Oncology Summit) ซึ่งจัดโดยบริษัท Novartis แผนกมะเร็ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก 13 ประเทศทั่วเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย ได้มาพบกันที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสุดสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมกันอภิปรายถึง ยาใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงในระดับโมเลกุลของโรคมะเร็งนั้น สามารถช่วยผู้ป่วยต่อสู้กับโรคนี้ได้อย่างไร
นพ.นาธาน ปัง หัวหน้าหน่วยธุรกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็ง บริษัทโนวาร์ตีส กล่าวในการประชุมสุดยอด ณ.ประเทศญี่ปุ่นว่า “บริษัทโนวาร์ตีส ได้รับมอบหมายความไว้วางใจในการวิจัยและพัฒนายาซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อที่จะผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าที่เป็นประโยชน์ในการรักษาโรคมะเร็งในประเทศแถบเอเชีย ทำให้เกิดความเข้าใจใหม่ในด้านชีววิทยาของโรคมะเร็ง และค้นหาเป้าหมายใหม่ในการรักษาโรคนี้ และจากการที่ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมสุดยอดด้านโรคมะเร็ง ณ.ประเทศญี่ปุ่น ประจำปีนี้ บริษัทโนวาร์ตีส ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงความสำคัญของภูมิภาคนี้ที่มีต่อบริษัท และช่วยให้เกิดความสัมพันธ์และการเรียนรู้ระหว่างแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาโรคมะเร็งทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียรวมทั้งภาคพื้นมหาสมุทรเอเซีย เราได้มีการแถลงถึงแผนของบริษัทเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า เครื่องมือซึ่งใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนาในประเทศแถบเอเชียนี้ มีความเพียบพร้อมเช่นเดียวกับประเทศแถบอเมริกาเหนือและยุโรป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเสมอภาคกัน ในการพัฒนาโครงการใหม่ทุกโครงการของบริษัทโนวาร์ตีสนับแต่จุดเริ่มต้น.”
แพทย์ผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วเอเชียได้เรียนรู้เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความรู้ในระดับโมเลกุล ในการคิดค้นและพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งแนวคิดใหม่นี้มีพื้นฐานมาจาก องค์ความรู้ในระดับโมเลกุลและกระบวนการต่าง ๆ ภายในเซลล์มะเร็งมีเพิ่มขึ้น และจากการที่สามารถประเมินเซลล์มะเร็งโดยใช้ biomarkers, non-invasive imaging และวิธีการอื่น ๆ ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งด้านชีววิทยาและพยาธิสรีรวิทยาของเนื้อร้าย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถพัฒนายาใหม่ที่มีเป้าหมายเฉพาะได้
บริษัทโนวาร์ตีส ได้พัฒนายาตัวแรกที่มีเป้าหมายเฉพาะในระดับโมเลกุล โดยเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง (Chronic Myeloid Leukemia (CML)) และโรคมะเร็งจีสต์ (Gastrointestinal Stromal Tumors (GISTs)) ซึ่งยานี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงแนวทางพื้นฐานและสำคัญที่ใช้ในการรักษาโรคร้ายเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่บ่งบอกถึงความสำเร็จในการรักษาซึ่งมีเป้าหมายในระดับโมเลกุล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ วิเชียร ศรีมุนินทร์นิมิต สาขาเคมีบำบัด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล หนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ได้แสดงความคิดเห็นว่า “การได้รับทราบว่าในอนาคตซึ่งการรักษาโรคมะเร็งจะเริ่มพุ่งเป้าไปยังระดับโมเลกุล จะมีศักยภาพทำให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศฯไทยดีขึ้น นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง”
การประชุมสุดยอดครั้งนี้ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับมะเร็งระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในประเทศแถบเอเชีย และผู้ป่วยในประเทศแถบนี้มีร้อยละของมะเร็งชนิดนี้ในระดับสูงเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยมะเร็งทางเดินอาหารทั่วโลก ประมาณการกันว่าจากผู้ป่วยทั่วโลก ประมาณร้อยละ 68 ของผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารรายใหม่ ร้อยละ 36 ของมะเร็งลำไส้ใหญ่ และร้อยละ 72 ของมะเร็งตับ พบในประเทศแถบเอเชีย โดยในปี พ.ศ.2545 พบมะเร็งกระเพาะอาหารรายใหม่ในประเทศแถบเอเชียประมาณ 637,000 ราย เมื่อเทียบกับประเทศแถบยุโรปที่พบ 174,000 ราย
นอกจากนี้อุบัติการณ์ของการเกิดมะเร็งเหล่านี้ยังมีความแปรผันตามพื้นที่อย่างมาก แม้แต่ในพื้นที่ประเทศแถบเอเชียด้วยกันเอง โดยมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งตับจะพบส่วนใหญ่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออก
ดร.Rainer Boehm รองประธานอาวุโสและหัวหน้าภาคพื้นอเมริกาเหนือ แผนกเวชภัณฑ์ยามะเร็งบริษัทโนวาร์ตีส กล่าวว่า “บริษัทโนวาร์ตีส ได้จัดการประชุมสุดยอดครั้งนี้ขึ้น เนื่องจากทางบริษัทได้รับทราบถึงประเด็นโรคมะเร็งที่ประเทศแถบเอเชียกำลังเผชิญหน้าอยู่ และทางบริษัทได้รับมอบหมายความไว้วางใจในการช่วยเหลือแพทย์ในประเทศแถบนี้ โดยการสนับสนุนยาซึ่งเป็นนวัตกรรมขั้นสูง ทางบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง ที่จะใช้ความรู้ความสามารถที่ดีที่สุด และใช้เทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากสุด ในการส่งเสริมการแข่งขันให้เพิ่มขึ้นในการนำมาซึ่งการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในการรักษาผู้ป่วยในประเทศแถบเอเชีย” ดร.Boehm ยังเป็นหัวหน้าส่วนภาคพื้นระหว่างทวีป บริษัทโนวาร์ตีส ซึ่งรวมทั้งทวีปเอเชีย และนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้ในปี พ.ศ. 2546 บริษัทได้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 32
ยาที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย บริษัทโนวาร์ตีส เพื่อใช้ต่อสู้กับโรคมะเร็งมีอยู่หลายตัวดังนี้
AMN 107 เป็นยาในรูปรับประทานซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาในผู้ป่วยกลุ่มย่อยซึ่งเป็น Chronic Myeloid Leukemia (CML) ระยะลุกลามและไม่ตอบสนองหรือหยุดการตอบสนองยาเดิมที่ใช้อยู่ และยังไม่มีทางเลือกในการรักษา ยา AMN 107 นี้เป็น signal transduction inhibitor โดยออกฤทธิ์ยับยั้งจำเพาะกับโปรตีน ที่เรียกว่า Tyrosine Kinases รวมทั้ง BCR-ABL และโปรตีนที่มีการกลายพันธุ์บางชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เม็ดเลือดขาวเติบโต และมีการแบ่งตัวที่ไม่สามารถควบคุมได้
จากการศึกษาทางปรีคลินิกพบว่า AMN 107 มีฤทธิ์ยับยั้ง BCR-ABL อย่างจำเพาะเจาะจงที่สุดในปัจจุบันนี้และมีความแรงมากกว่าการรักษาที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน การศึกษาใน phase I พบการตอบสนองทางโลหิตวิทยา (hematological response) มากกว่า 50% ในผู้ป่วยซึ่งโรคอยู่ในระยะลุกลามหรือเรื้อรัง (Accelerated or Blast phase) และดื้อต่อการรักษา
PTK 787 เป็นยายับยั้งการสร้างหลอดเลือด (angiogenesis inhibitor) ในรูปรับประทานสำหรับรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแพร่กระจาย (metastatic colorectal cancer) สำหรับการศึกษาซึ่งชื่อ CONFIRM1 ใน Phase III ในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งดำเนินการร่วมกันกับบริษัท Schering AG คาดว่าจะทราบผลในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ การคัดเลือกผู้ป่วยเข้าร่วมการในการศึกษาทั้ง CONFIRM 1 และ CONFIRM 2 เสร็จสิ้นเมื่อปี 2547 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแสดงให้เห็นว่า PTK 787 มีศักยภาพในการเป็นยามาตรฐานตัวใหม่สำหรับรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแพร่กระจาย บริษัทโนวาร์ตีส มีแผนที่จะเริ่มการศึกษาในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ (colon cancer) ในปี 2548 โดยรอข้อมูลในเชิงบวกที่ได้จาก CONFIRM 1 ก่อน สำหรับโปรแกรมการศึกษาใน Phase I/II นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อประเมินว่ายามีผลในข้อบ่งชี้อื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอดชนิด non-small cell lung (NSCLS) มะเร็งเต้านม มะเร็งตับอ่อน มะเร็งรังไข่ รวมทั้ง glioblastoma และมะเร็งเม็ดเลือด
RAD001 เป็นยารักษามะเร็งในรูปรับประทานตัวใหม่ โดยออกฤทธิ์ยับยั้งที่ mTOR (mammalian target of rapamycin) pathway mTOR เป็น regulatory protein ที่มีบทบาทสำคัญในขั้นตอนหลักในการส่งสัญญาณภายในเซลล์ (key-signalling pathway) ซึ่งช่วยให้เซลล์รอดชีวิต เกิดการเพิ่มจำนวน (proliferation) และ การสร้างหลอดเลือด (angiogenesis) สำหรับ upstream ของ mTor pathway ที่สำคัญคือ PI 3 kinase (PI3-K) AKt pathway ซึ่งพบว่าถูกกระตุ้นอย่างไม่เหมาะสมในผู้ป่วยมะเร็งหลายราย ในขณะที่ downstream ของ mTor คือ signaling pathway หลายชนิดรวมทั้ง eIF 4E ก็ถูก deregulated ในผู้ป่วยมะเร็งหลายราย จากการที่ RAD001 มีฤทธิ์ยับยั้งสัญญาณที่เหนี่ยวนำโดย mTor ได้ ทำให้ยานี้มีผลยับยั้งการเพิ่มจำนวน (antiproliferative) ของ tumor cell lines และในสัตว์ทดลองที่เป็นมะเร็ง ปัจจุบัน RAD00 1 อยู่ระหว่างการศึกษาทางคลินิกถึงคุณสมบัติต้านมะเร็งในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือด และ solid tumors
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ:
ศรีสุพัฒ เสียงเย็น
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด
โทร.02-439-4600 ต่อ 8300--จบ--