กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--MTS GOLD GROUP
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,668 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,658 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.93 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,550 บาท กับ 23,650 บาท และกลับมาปิดที่ 23,600 บาท กับ 23,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 4,478 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,953 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 49 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3% และ Silver Futures ลดลง 7% GFG13 ปิด 23,670 บาท และ GFJ13 ปิด 23,820บาท GF10G13 ปิดที่ 23,670 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,820 บาท
SVG12 ปิดที่ 937 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 13.30 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,656.60 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 51.6 เซ็นต์ ที่ระดับ 31.206 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,329.9 ตัน (ขายออก 1.81 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 7 เซ็นต์/บาร์เรลปิดที่ระดับ 95.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 70.65 จุด ปิดที่13,895.98 จุด
ข่าวที่สำคัญ
Kitco, TheBullionDesk,Bloomberg, Reuters
นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ดูเหมือนว่าราคาทองคำในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ หลังจากไม่สามารถฝ่าระดับ 1,700 เหรียญ และคาดว่าจะลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม ซึ่งเน้นย้ำให้ระมัดระวังเรื่องสงครามสกุลเงิน หรือ Currency War ที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลักๆ กำลังพยายามลดค่าเงินตนเองเพื่อกระตุ้นการส่งออก โดยประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อทองคำ
นายคาร์ลอส จาก CPM Group ระบุว่า ราคาทองคำอาจขึ้นไปสู่ระดับ 1,680 เหรียญในปลายสัปดาห์นี้ หลังจากที่ลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างบริเวณ 1,640 — 1,650 เหรียญจากโมเมนตัมทางเทคนิคที่อ่อนแอ
ผลสำรวจจาก Kitco News Gold Survey สำรวจนักวิเคราะห์ 25 ราย โดย 8 รายมองว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้เข้ามาถึงอาจกระตุ้นแรงเข้าซื้อในตลาดเอเชีย และอาจได้รับแรงสนับสนุนจากการสำรองทองคำของธนาคารกลางต่างๆ ในขณะที่นักวิเคราะห์ 12 รายมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงเนื่องจาก ราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,668 เหรียญ ประกอบกับประเด็นข่าวเพดานหนี้ของสหรัฐกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในทองคำ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ 5 รายมองว่าราคาทองคำในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways
นายเคน มอร์ริสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทข่าวสารออนไลน์ Morrison on the Markets กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลงมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คาดไว้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ราคาจะลงไปถึงระดับ 1,550 เหรียญ แต่ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในวันนี้สัญญาออพชั่นส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์จะหมดอายุลง อย่างไรก็ตามด้วยราคา Strike prices ที่มีปริมาณ Open Interest สูงๆ ยังคงแตกต่างอย่างมากจากราคา Futures ในปัจจุบัน ดังนั้นดูเหมือนว่าการหมดอายุของสัญญาออพชั่นจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดเท่าใดนัก
ในสัปดาห์นี้ ตลาดจะจับตาการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ประจำเดือนกุมภาพันธ์ในวันศุกร์ ซึ่งในผลสำรวจนักวิเคราะห์ต่างๆ จาก MarketWatch ระบุว่า อัตราการว่างงานดูเหมือนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 7.8%
ตัวเลข Jobless Claims สหรัฐล่าสุดที่ออกมาดีขึ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ส่งผลให้เทรดเดอร์ทองคำจะจับตาและให้ความสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจในขณะนี้ ซึ่งสัปดาห์นี้อาจแสดงให้เห็นถึงภาคการผลิตที่เริ่มแข็งแกร่ง ภาคที่อยู่อาศัยที่กำลังฟื้นตัว รวมไปถึงการใช้จ่ายผู้บริโภคเช่นกัน
นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ระบุว่า ตลาดแรงงานสหรัฐดูจะฟื้นตัวขึ้น แม้จะมีการโต้เถียงกันเรื่องงบประมาณสหรัฐก็ตาม
ในวันที่ 30 — 31 มกราคมนี้จะมีการประชุมเฟด อย่างไรก็ตาม ไม่มีการคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ ในการประชุมครั้งนี้ โดยนายเบอรันันเก้ได้กล่าวเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ว่า ยังไม่สามารถยอมรับระดับอัตราการว่างงานในปัจจุบันได้
นายบิล โอนีล จาก LOGIC Advisors กล่าวว่า เทรดเดอร์ทองคำควรต้องจับตาการถือครองของกองทุน SPDR ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุน SPDR ขายออกไป 6.02 ตัน จากระดับวันอังคาร 1335.92 ตัน ลดลงมาเหลือ 1329.90 ตัน หากกองทุน ETF ยังคงดำเนินการขายออกอยู่ ให้ระมัดระวัง เพราะอาจมีแรงเทขายอย่างหนักเข้ามาในตลาดทองคำ
ในสัปดาห์หน้า ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะชำระเงินคืนอีซีบีในจำนวนมากกว่า 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีสัญญาณว่าภาคธนาคารเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
เจ้าหน้าที่ทางธนาคารระหว่างประเทศประกอบกับรัฐมนตรีคลังต่างๆ ได้ประกาศเตือนว่าวิกฤตหนี้ยุโรปยังไม่สิ้นสุด แม้ว่าค่าเงินยูโรเริ่มมั่นคงขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีในการเยียวยาเศรษฐกิจและปัญหาการว่างงานในระดับสูง
ผลสำรวจจาก Bloomberg ระบุว่า การประกาศอัตราว่างงานของยูโรโซนประจำเดือนธันวาคมในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับสูงสุดที่ 11.9%
อีซีบีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว 0.3% ในปีนี้
ข้อมูลจากไอเอ็มเอฟประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า อิรัคลดการสำรองทองคำ 1 ใน 4 ส่วน สู่ระดับ 29.9 ตัน
สหรัฐกำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเงินครั้งใหม่ จากการตัดลดค่าใช้จ่ายอย่างอัตโนมัติจำนวน 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่บารัก โอบามา ได้ให้สัญญาว่าจะทำการหลีกเลี่ยง จากการมองหาแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาทางการเมืองของสหรัฐ กำลังคุกคามความเชื่อมั่นต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐ
Globel Holding ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังอีซีบีเผยว่า ธนาคาร 278 แห่งในภูมิภาคที่กู้เงินผ่านโครงการจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยะยาว หรือ LTRO ตัดสินใจที่จะชำระเงินกู้งวดเป็นเงินจำนวน 1.37 แสนล้านยูโรในสัปดาห์หน้า โดยจำนวนดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทำให้นักลงทุนขายสินทรัพย์อื่น ๆ รวมถึงทองคำและหันไปถือเงินยูโรแทน อย่างไรก็ตามยอดขายบ้านใหม่สหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาดส่งผลให้ราคาทองคำรีบาวน์กลับมาได้
Globlex
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 377,000 หลัง ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 369,000 หลัง
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.6% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลง 0.8%
- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.8% หลัง คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ 1.8%
- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.7% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ 0.5%
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — จากที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลงจนหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,675 เหรียญ ทำให้ภาพรวมของราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลง โดยวันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจคาดว่าจะออกมาดีและไม่ดีผสมกัน ไม่มีส่วนสำคัญต่อราคาทองคำเท่าไรนัก ซึ่งในช่วงนี้คงต้องระวังการเริ่มทยอยหมดอายุของสัญญาอนุพันธใน์ต่างประเทศ ในช่วงสิ้นเดือน ซึ่งบางส่วนจะต้องมีการปรับเปลี่ยนสัญญาภายในสิ้นเดือนนี้ ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเป็นแนวโน้มขาลงทั้งในระยะสั้น และในระยะกลาง ยังแนะนำให้นักลงทุนเล่นเก็งกำไรในระยะสั้นๆ 3 — 5 วัน และแนะนำให้ทำ Short Position โดยการขายก่อนบริเวณแนวต้าน 1,665 เหรียญ ซื้อกลับบริเวณ 1,650 เหรียญ แนะนำให้นักลงทุนลดพอร์ท Long Position ลงและให้เริ่มเปิด Short Position
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,780 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,730 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,910 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 910 บาท และแนวต้านที่ระดับ 950 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในทิศทางขาลง โดยเล่นเก็งกำไรในแนวโน้มขาลง ขายบริเวณ 1,665 เหรียญ ซื้อบริเวณแนวรับแรกที่ระดับประมาณ 1,650 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
แนะนำให้เปิด Short Position ประมาณ 5 - 10% ของพอร์ท เก็งกำไรในทิศทางขาลง ราคาเป้าหมาย 1,640 เหรียญเป็นเป้าหมายแรก
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ปรับลดพอร์ทเป็น 0% รอจังหวะการขายทำ Short Position เพื่อเล่นเก็งกำไรในทิศทางขาลงเช่นเดียวกัน
สรุปได้ว่า MTS Gold มองว่าโอกาสที่จะหลุดไปลึกๆ นั้นมีสูง มีโอกาสในสัปดาห์นี้ที่จะลงถึงระดับประมาณ 1,620 เหรียญ คงจะต้องระมัดระวัง
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง