กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--สถาบันอาหาร
สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ชูระบบคุณภาพ GMP in Mass Catering ขับเคลื่อนภาคธุรกิจบริการอาหาร เน้นพัฒนาธุรกิจอาหารไทยและผู้ปรุงอาหารไทยให้ปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ปี 55 รับรองระบบให้ร้านอาหารไปแล้ว 22 แห่ง ปีนี้เตรียมรับสมัครร้านอาหารไทยกลุ่มเอสเอ็มอีอีก 40 แห่ง พร้อมผุดโครงการ Eat Safe Eat Smart สร้างความเชื่อมั่นอาหารไทยปลอดภัยมีคุณภาพ รับสมัครครัวโรงพยาบาล ครัวโรงแรม ครัวโรงเรียน และครัวในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความพร้อมอีก 40 แห่ง ต่อยอดโครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล” ที่ครัวรพ.ศิริราช และครัวรพ.ตำรวจ ทำสำเร็จไปแล้ว มั่นใจครัวไทยสู่ครัวโลกได้ด้วยมาตรฐานอาหารปลอดภัย
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานสัมมนา “เตรียมความพร้อมธุรกิจบริการ : ครัวโรงพยาบาล ครัวโรงแรม ครัวโรงเรียน และร้านอาหาร เข้าสู่ระบบคุณภาพ GMP in Mass Catering” ว่าจากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นส่งเสริม “ครัวไทยสู่ครัวโลก” หรือ “ให้ไทยเป็นครัวของโลก” นั้น เป้าหมายสำคัญประการหนึ่ง คือ การทำให้อาหารไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องของความปลอดภัย และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานได้รับการยอมรับ และความเชื่อถือในตลาดโลก ในปีที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้สถาบันอาหารดำเนิน โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก (Thailand Food Quality For The World) ซึ่งกิจกรรมของโครงการมุ่งเน้นในเรื่องการยกระดับมาตรฐานการผลิตของผู้ประกอบการให้ได้มาตรฐาน สากลในเรื่องของความปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันยังสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมบริการอาหาร ซึ่งเป็นภาคการบริการที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ครัวร้านอาหาร ครัวโรงแรม ครัวโรงพยาบาล ครัวโรงเรียน และครัวในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยมากที่สุด
“ระบบคุณภาพ GMP ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถ้าเป็น GMP ในธุรกิจ Catering ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย โดยสถาบันอาหารได้นำมาตรฐานสากลจาก Codex หรือ คณะกรรมการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ มาประยุกต์ร่วมกับข้อกำหนดสุขาภิบาลโรงอาหาร ข้อกำหนดสุขาภิบาลอาหารสำหรับโรงครัวของโรงพยาบาล ของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งหลักเกณฑ์ GMP กฎหมายไทย ให้มีความสอดคล้องและสามารถนำมาใช้ได้จริงสำหรับธุรกิจบริการอาหารในประเทศไทย โดยได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งนับว่ามีความจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจบริการเป็นอย่างยิ่ง”
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า การสัมมนาในวันนี้ เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายใต้ โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทย ให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก (Thailand Food Quality to the world) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเปิดมุมมองทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการธุรกิจบริการ เช่น โรงพยาบาล โรงแรม โรงเรียน และร้านอาหาร ให้รับทราบถึงระบบคุณภาพ GMP in Mass Catering ซึ่งเป็นระบบคุณภาพที่สำคัญสำหรับธุรกิจบริการด้านอาหาร ว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร มีแนวทางการดำเนินการอย่างไร และเป็น
การเปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจจะนำระบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ สามารถรับทราบข้อมูลและสมัครเข้าร่วมโครงการกับสถาบันอาหาร ในปี 2556 ได้
โดยในปี 2555 ที่ผ่านมา สถาบันอาหาร ได้รับนโยบายจากกระทรวงอุตสาหกรรม ในการดำเนินงานเรื่อง ครัวคุณภาพของโลก เพื่อสนับสนุนนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก โดยได้จัดทำโครงการ พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก(Thailand Food Quality For The World) และกำหนดให้มีกิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจบริการอาหาร คือ การพัฒนาธุรกิจอาหารไทยและผู้ปรุงอาหารไทยให้ปลอดภัยได้มาตรฐานสากล เป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555-2559 ที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมการโครงการและผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP in Mass Catering จำนวน 22 แห่ง ประกอบด้วยร้านอาหารในจังหวัดกรุงเทพฯ จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ 1) ร้านอาหารสวนกุหลาบ 2) ร้านอาหารไทยชาววังบุษราคัม 3) ร้านแมงโก้ ทรี (เจริญกรุง) 4) ร้านโบลาน 5) ร้านเรือนมัลลิการ์ 6) เรทโทร ไลฟ์ คาเฟ่ 7) ร้านจิตรโภชนา 8) ร้านอาหารเพลิน 9) ร้านจิตรโภชนา พาร์ก 10) ร้านครัวเวียงจันทน์ 11) ร้านบ้านน้ำเคียงดิน 12) ร้านอาหารในรพ.จุฬาภรณ์ 13)มิสซิสบัลบีร์ อินเดียฟูดส์ เรสเตอรองส์ และ14) โครงการอาหารกลางวัน 1 (ครัวสวนดุสิต) —มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1) ภัตตาคารแสนคำเทอร์เรส 2)ร้านเรือนคำอิน 3)ร้านMONKEY CLUP 4) ร้าน Good View Bar & Restaurant ร้านอาหารในจังหวัดอยุธยา จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1) ร้านอาหารบ้านวัชราชัย 2) ร้านอาหารลุงนวย ร้านอาหารในจังหวัดสมุทรปราการ 1 แห่ง ได้แก่ ร้านระเบียงทะเล ร้านอาหารในจังหวัดระยอง 1 แห่ง ได้แก่ สวนอาหารมาบตอง
“ในปี 2556 นี้ มีเป้าหมายการรับสมัครร้านอาหารไทยเข้าร่วมโครงการ จำนวน 40 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเน้นเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ที่มีความพร้อมในการจัดทำระบบ GMP in Mass Catering ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และงบประมาณ กรณีที่ต้องมีการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด”
นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้มอบหมายให้สถาบันอาหาร ดำเนินโครงการสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทยปลอดภัยมีคุณภาพ (Eat Safe Eat Smart) ให้กับธุรกิจบริการด้านอาหาร ทั้งนี้ได้จัดสรรงบประมาณผ่านสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ภายใต้โครงการศึกษาพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารครบวงจรภายใต้แผนแม่บทอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นการนำระบบ GMP in Mass Catering ไปประยุกต์ใช้ในกลุ่มครัวโรงเรียน ครัวโรงพยาบาล ครัวโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ตลอดจนครัวในโรงงานอุตสาหกรรม โดยจะรับสมัครหน่วยงานที่สนใจเข้าร่วมจำนวน 40 แห่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการต่อยอดจากการที่ได้ริเริ่มในการนำระบบ GMP เข้ามาช่วยดูแลคุณภาพความปลอดภัยอาหาร เพื่อยกระดับมาตรฐานครัวโรงพยาบาล ให้มีระบบการผลิตอาหารอย่างถูกสุขลักษณะและปลอดภัยแก่ผู้บริโภคที่เข้ารับการบริการในโรงพยาบาลในระดับมาตรฐานสากล ภายใต้ชื่อโครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล” มาตั้งแต่ปี 2553 โดยได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลตำรวจ เข้าร่วมโครงการกับสถาบันอาหาร
สำหรับโรงพยาบาลศิริราช นับเป็นปีที่ 2 แล้วที่สถาบันอาหารให้การรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน GMPin Mass Catering ครอบคลุม 3 หน่วยงาน ได้แก่ หน่วยอาหารทางสายให้อาหาร, หน่วยผสมนมสำหรับเด็ก และห้องเตรียมอาหารเฉพาะกิจ โดยในปีนี้ยังได้ให้การรับรองระบบมาตรฐาน HACCP (Codex) ในส่วนของ หน่วย
ผสมนมสำหรับเด็ก เพิ่มเติมเป็นปีแรกอีกด้วย ในส่วนของครัวสำหรับผู้ป่วยในและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล, ห้องอาหารนานาชาติ, ห้องอาหารฮาลาล และห้องอาหารเฉพาะโรค ทางโรงพยาบาลศิริราชมีโครงการปรับปรุงโครงสร้างคาดว่าจะใช้เวลาในการปรับปรุงประมาณ 1 ปี โดยทางสถาบันอาหารจะเป็นผู้เข้ามาช่วยดูแลและให้ข้อแนะนำด้านการปรับปรุงโครงสร้าง การวางไลน์ผลิตให้สอดคล้องตามหลัก GMP สากล ซึ่งหลังจากปรับปรุงแล้วเสร็จ จะได้นำระบบ GMP/HACCP สากลมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมต่อไป ซึ่งเป็นนโยบายของทางผู้บริหารโรงพยาบาลศิริราช ด้านโรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นปีแรกที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน GMP in Mass Catering โดยครอบคลุมพื้นที่การผลิตหน่วยเตรียมอาหารทางสายยาง และอาหารผู้ป่วยทั่วไป
“ในปีนี้สถาบันอาหาร มีความพร้อมในการมุ่งพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยโดยใช้ระบบคุณภาพ GMP in Mass Catering เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญให้กับภาคธุรกิจบริการอาหาร นอกเหนือไปจากภาคอุตสาหกรรมอาหารที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็เพื่อกระตุ้นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ตื่นตัวและเห็นคุณค่าของการผลิตและให้บริการอาหารสำหรับคนหมู่มากที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล” นายเพ็ชร กล่าว