กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,660 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,661 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.80 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,450 บาท กับ 23,550 บาท และกลับมาปิดที่ 23,450 บาท กับ 23,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,365 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,828 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 10 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.4% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.2% และ Silver Futures ลดลง 3% GFG13 ปิด 23,610 บาท และ GFJ13 ปิด 23,770บาท GF10G13 ปิดที่ 23,620 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,770 บาท SVG12 ปิดที่ 929 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 7.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,660.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 40.4 เซ็นต์ ที่ระดับ 31.18 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,328.09 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์/บาร์เรลปิดที่ระดับ 97.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 72.49 จุด ปิดที่13,954.42 จุด
ข่าวที่สำคัญ
Kitco, TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, MarketWatch
ราคาทองคำเมื่อวานนี้เคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ โดยปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อยเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน จากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าที่คาด กดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง จึงเป็นส่วนสนับสนุนตลาดทองคำ
HSBC ระบุว่า ยอดขายเหรียญทองและเหรียญเงินประจำเดือนมกราคมทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยอดขายเหรียญทองและเหรียญเงินจะเป็นตัวชี้วัดปริมาณความต้องการลงทุนในระยะยาวสำหรับทองคำและซิลเวอร์ ประเด็นนี้จึงเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำ
นักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการแถลงของเฟดในคืนนี้เวลา 2.15 น. ที่จะมีการแถลงผลการประชุมและประกาศอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
คืนนี้เวลา 20.30 น. จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสสุดท้ายปี 2012 ของสหรัฐและดูเหมือนว่าตัวเลขจะออกมาไม่ดีนัก ซึ่งผลสำรวจจาก MarketWatch ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 4 จะขยายตัวเพียง 1% ลดลงจากไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัว 3.1%
ผลการสำรจประชากรของ Wall Street เผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เชื่อมั่นต่อการคาดการณ์ที่ว่า การเติบโตทางสภาพเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.08% รวมทั้งคาดการณ์ว่าในปีหน้าค่าจีดีพีของสหรัฐ จะออกมาอยู่ที่ระดับ 2.56%
ในวันศุกร์การประกาศตัวเลข Non-farm employment change จะเป็นตัวที่ตลาดจับตามอง ซึ่งตลาดทองคำมักมีการตอบสนองอย่างรุนแรงต่อการรายงานดังกล่าวเสมอ โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากเดิม รวมไปถึงอัตราการว่างงานสหรัฐยังคาดว่าไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 7.8%
TD Securities ยังคงมองว่า การขยายบัญชีงบดุลของเฟดจะส่งผลสนับสนุนราคาทองคำ โดยปัจจุบันเฟดมีบัญชีงบดุลอยู่ที่ 3 ล้านล้านเหรียญ และคาดว่าในท้ายที่สุดจะเพิ่มเป็น 4 ล้านล้านเหรียญในต้นปีหน้า
สมาคมค้าอัญมณีและเครื่องประดับสนับสนุนการส่งออกของอินเดียคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกซิลเวอร์ของอินเดียจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30% ในปีนี้ จากประมาณความต้องการทั่วโลกสูงขึ้น
หุ้นทองคำของอินเดียภายใต้กองทุน ETF ในธนาคารต่างๆ อาจเพิ่มการซื้อขายทองคำและเครื่องประดับของอินเดียได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอินเดียยอมให้ทองคำแท่งที่ถือครองโดย Mutual Fund ในกองทุน ETF เข้ามาฝากในธนาคาร
อินเดียลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อวานนี้ สู่ระดับ 7.75% หลังเงินเฟ้อชะลอตัว ซึ่งไม่มีผลกระทบใดต่อราคาทองคำอินเดีย
ข้อมูลจากไฟแนนเชี่ยล ไทมส์ระบุว่า ยูบีเอสและเครดิต ซุส เพิ่มการเก็บเงินสำหรับการถือครองทองคำแท่งของลูกค้า เนื่องจากต้องลดขนาดของบัญชีงบดุล แต่ธนาคารทั้งสองแห่งยังคงปฏิเสธในการแสดงความคิดเห็น
เอสแอนด์พียังคงรักษามุมมองเชิงลบต่อเบลเยี่ยมเนื่องจากยอดขาดดุลยังคงมีความเสี่ยง
ในวันนี้สหรัฐจะประมูลขายพันธบัตรอายุ 7 ปี มูลค่า 2.9 หมื่นล้านยูโร
ทางวุฒิสภาสหรัฐทำการอนุมัติให้นาย จอห์น เคอรี่ ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานาธิบดีของโอบามา แทนนาง ฮิลารี่ คลินตัน
การจ้างงานโดยกลุ่มผู้ว่าจ้างเหมือนจะยังคงเป็นไปอย่างสม่ำเสมอในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการเติบโตที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องพอประมาณต่อสภาพเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้ด้านงบประมาณสหรัฐที่อาจส่งผลให้การฟื้นตัวหยุดชะงักลงได้
พรรครีพับลิกันจำนนต่อผลเสียที่จะเกิด จากการผลักดันให้สหรัฐเข้าสู่วิกฤตหนี้สินที่ยังคงมีอยู่ของประเทศอย่างน้อยที่สุดหนึ่งหน่วยงานการจัดอันดับความเชื่อมั่น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นในทันทีทันใด
ทั้งนี้สหรัฐยังคงรักษาระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดจากสถาบันจัดอันดับความเชื่อมั่นอย่างมูดดี้ส์และฟิทช์ เรตต้งส์ได้ แม้ว่าระดับหนี้สินกำลังเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม โดยฟิทช์ กล่าวว่า การขยายระดับเพดานหนี้เมื่อเร็วๆนี้ ได้ช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดลดระดับความเชื่อมั่นได้
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น พยายามฝ่าจุดสูงสุดในรอบ 14 เดือน บริเวณ 1.3500 ในขณะที่ราคาทองคำสามารถขึ้นมายืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,662.92 เหรียญได้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- S&P/CS Composite-20 HPI y/y ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.2% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 5.5%
- CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 65.1 ตัวเลขจริงออกมาลดลงเป็น 58.6%
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 215K คาดการณ์ว่าจะลดลงเป็น 164K
- Advance GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 3.1% คาดการณ์ว่าจะลดลงเป็น 1.1%
- Advance GDP Price Index q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 2.7% คาดการณ์ว่าจะลดลงเป็น 1.5%
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 2.8M คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.9M
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold —ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงการซื้อขายในตลาด COMEX โดยปรับขึ้นมาประมาณ 7 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1660.8 เหรียญ หลังจากที่ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดเมื่อ 2 วันก่อนที่ระดับประมาณ 1,652 เหรียญ โดยภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในวันนี้ดูจะไม่ค่อยจะดีนักจากการประมาณการณ์ ที่จะมี ADP Non-farm employment change และ Advance GDP ซึ่งคาดว่าจะลดลงทั้งคู่ ข่าวเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังเป็นทั้งบวกและลบจากการซื้อขายทองคำ ในเชิงเทคนิควิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำเริ่มจะทรงตัวบริเวณ 1,660 เหรียญได้ ซึ่ง MTS Gold คาดว่าวันนี้ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway up ได้ คำแนะนำนักลงทุนจึงเป็นการปรับเปลี่ยนทิศทางจากเดิมที่เป็นการขายก่อน ก็กลับมาเป็นการที่จะเป็นการซื้อเพื่อปิดกำไรจากการทำ Short ก่อนหน้านี้ เนื่องจากวันนี้เงินบาทเองแข็งค่าขึ้นมาบริเวณ 29.80 บาท/ดอลลาร์แล้ว ก็แนะนำให้ปิดทำกำไรในตัวทองคำที่แนะนำเมื่อวานให้ทำ Short ไป และเริ่มพิจารณาที่จะทำสถานะ Long Position บ้างจากการคาดหมายว่า ราคาน่าจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้บ้าง โดยมีแนวต้านระดับแรกที่ 1,670 เหรียญ แนวรับวันนี้อยู่ที่ระดับ 1,655 เหรียญ คำแนะนำในวันนี้จึงเป็นลักษณะของการซื้อกลับ และรอจังหวะขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,520 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,700 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,840 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 910 บาท และแนวต้านที่ระดับ 940 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นอย่างช้าๆ ในกรอบ 1,655 — 1,670 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
เริ่มปิดทำกำไรที่ทำ Short ไป โดยให้ปรับเป็นเปิดสถานะ Long Position บ้าง
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังไม่แนะนำให้ทำอะไร รอความชัดเจนของตลาดในวันศุกร์ที่จะมีการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง