กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
“เอ็นไวโรเซล ไทยแลนด์ลุยงานวิจัยตลาดเพื่อนบ้านเปิดข้อมูลเชิงลึกรับ AEC ชี้พม่าโมเดิร์นกว่าที่คิด”
เอ็นไวโรเซล ไทยแลนด์ เปิดเกมส์รุก ลุยงานวิจัยตลาดเพื่อนบ้าน เตรียมพร้อมป้อนข้อมูลรับ AEC เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค หนึ่งเดียวที่เข้าถึงอินไซต์ผู้บริโภค สำรวจพฤติกรรมชาวพม่า ชี้แม้เรียบง่ายแต่ไฮเทค ชอบบันเทิงแต่สันโดษ ทันสมัย รักสวยงาม ชอบแบรนด์เนมแต่ยังไม่ทิ้งโสร่ง ประเดิมเจาะใจชาวพม่า พร้อมลุยลาว และกัมพูชา
นางสาวสรินพร จิวานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เอ็นไวโรเซล ปรับกลยุทธ์องค์กรเปิดเกมส์รุก ลุยงานวิจัยตลาดเพื่อนบ้าน ศึกษาข้อมูล เจาะใจ วิเคราะห์ เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่นักการตลาด เข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละประเทศ ซึ่งในเฟสแรกเอ็นไวโรเซลประเดิมงานวิจัยแรก ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เนื่องจากพม่าเพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพม่า มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเป็นที่จับตามองของนักลงทุนต่างชาติเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลเรื่องโอกาสในภาคส่วนธุรกิจ เช่น ข้อมูลการค้าการลงทุน กฏหมาย เครือข่ายธุรกิจที่สำคัญต่างๆ มีอยู่พอสมควร แต่ยังขาดข้อมูลในด้าน พฤติกรรม และ จิตวิญญาณผู้บริโภคชาวพม่า ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด เพราะเราขายสินค้ากับผู้บริโภค แต่เป็นข้อมูลที่หาไม่ได้เพราะยังไม่มีใครทำ นับได้ว่าเอ็นไวโรเซล เป็นบริษัทวิจัย บริษัทแรกที่เข้าไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภคในประเทศนี้อย่าง นับได้ว่าเอ็นไวโรเซล เป็น The First Mover ในแวดวงอุตสาหกรรมวิจัย ที่เข้าไปทำวิจัยขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน”
ในส่วนของผลงานวิจัยในประเทศพม่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างประชาชนชาวพม่า ณ เมืองย่างกุ้ง ทำให้เราพบว่า ชาวพม่าสามารถแบ่งลักษณะตามอุปนิสัยได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ค่อนข้าง Conservative 28% คือ จะยึดมั่นและอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวพม่า ที่มีลักษณะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง มีความสันโดษ ไม่ชอบการสังสรรค์นอกบ้าน ชอบที่จะอยู่กับบ้าน สวดมนต์ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีอายุตั้งแต่ 45 ปี ขึ้นไป กลุ่มที่สอง เป็นพวก Contemporary 26% ได้แก่ กลุ่มที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมเดิม แต่ก็มองหาความทันสมัย ยอมเปิดรับสิ่งใหม่มากขึ้น ชอบทดลองของใหม่ มีการใช้สินค้ามากกว่า 1 แบรนด์ในบางผลิตภัณฑ์ และยังมีความเชื่อว่า สินค้าแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศมีคุณภาพดีกว่าสินค้าที่เป็นแบรนด์ของพม่า คนกลุ่มนี้มีอายุอยู่ในช่วง 25-34 ปี และกลุ่มสุดท้าย ที่เราสามารถจำแนกและให้คำจำกัดความว่าเป็น Cosmopolitan 46% เป็นกลุ่มที่ชอบปาร์ตี้ ตามแฟชั่น เล่นอินเทอร์เน็ต มีอายุระหว่าง 15-24 ปี นอกเหนือจากนั้น เราจะเห็นได้ว่า โดยพื้นฐานของชาวพม่า ในสายตาของคนทั่วไป ชาวพม่ามีการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย สันโดษ ต้องการความมั่นคง ทำให้ไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนัก แต่จะยอมรับหากการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรก็ดี โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนรักสนุก รักสวยรักงาม ตื่นเต้นกับเทคโนโลยี อันเนื่องมาจากการที่พม่าเพิ่งเปิดประเทศเมื่อไม่นาน สำหรับจุดมุ่งหมายในชีวิตจะมุ่งเน้นไปในเรื่องสุขภาพ การศึกษา การให้ความสำคัญในเรื่องของศาสนา รวมทั้งความสุขภายในครอบครัว เหล่านี้เป็นการตอกย้ำถึงการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายของชาวพม่า และวิธีการที่จะนำ Subconscious ตรงนี้มาวางกลยุทธ์ในการสื่อสารกับชาวพม่า” นางสาวสรินพร จิวานันต์ เปิดเผย
นอกจากข้อมูลพื้นฐานโดยทั่วไปในลักษณะของคนพม่าแล้ว เอ็นไวโรเซล ยังได้ทำการเจาะลึกถึงใจผู้บริโภคชาวพม่าในเรื่องของพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย นางสาวสรินพร จิวานันต์ เปิดเผยว่า “ในเรื่องของพฤติกรรมการเลือกซื้อ เลือกช้อปของชาวพม่าส่วนใหญ่จะเลือกซื้อของใช้ หรือเสื้อผ้า ตามศูนย์การค้า (Mall with air) แต่จะเลือกซื้ออาหาร เพื่อทำกับข้าว ที่ตลาดท้องถิ่น โดยความถี่ในการจับจ่ายซื้อของนั้น จะไปเลือกซื้อของใช้เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่ถ้าเป็นอาหารจะนิยมจับจ่ายตลาดกันแทบทุกวัน คือไม่ได้มีการเลือกซื้ออาหารมาเก็บตุนไว้ในตู้เย็น นอกเหนือจากนั้น ถ้าพิจารณาตามกลุ่ม (Segment) จะพบว่ากลุ่ม Conservative นั้น จะไปซื้อของตามร้านค้าท้องถิ่น และตลาดสดเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงของใช้ในบ้านที่จำเป็นเท่านั้น จึงจะไปซื้อที่ศูนย์การค้า ส่วนที่เหลืออีกสองกลุ่มมักจะไปซื้อของที่ศูนย์การค้า มีเพียงเรื่องอาหารเท่านั้นที่จะไปซื้อที่ตลาดท้องถิ่นเหมือนๆ กัน เพราะฉะนั้นตลาดท้องถิ่น (Local Market) จึงเป็นอีกช่องทางที่เราสามารถจะสื่อกับผู้บริโภคได้ ถึงแม้ว่าตลาดท้องถิ่นจะไม่ใช่เป้าหมายสำคัญของทุกกลุ่ม แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสถานที่หลัก ที่ทุกกลุ่มไปเดินจับจ่ายซื้อของ และใช้เวลามากที่สุด”
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า “อีกปัจจัยที่นักการตลาดจะต้องคำนึงถึงพฤติกรรมของชาวพม่า คือ ชาวพม่าค่อนข้างรอบคอบในการจับจ่ายใช้สอย จะคิดก่อนซื้อ และพิจารณาสินค้าด้วยเรื่องของราคา ความคุ้มค่า และคุณภาพเป็นหลัก ดังนั้น สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะต้องตอบโจทย์ความต้องการของชาวพม่าได้ เนื่องจากยังมีกลุ่มคนลักษณะอนุรักษ์นิยมเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือ ควรหลีกเลี่ยงการทำลายวัฒธรรรม รวมถึงการใช้โปรโมชั่นเป็นเครื่องมือ ทั้งนี้หากนักการตลาดสามารถทำความเข้าใจกับพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ก็จะสามารถตอบสนองความต้องการ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการได้ตรงใจ จนสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจชาวพม่าได้ในที่สุด”
“ในเฟสแรก เอ็นไวโรเซล ได้เข้าไปทำวิจัยในประเทศพม่าที่เมืองย่างกุ้ง โดยมีแผนการที่จะทำวิจัยในเมือง มัณฑะเลย์ และเนบิดอร์ ในเดือนมิถุนายน รวมถึงในประเทศอื่นๆ อาทิ ลาว และกัมพูชา เป็นต้น สำหรับการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งเดิมได้วางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปี จะสามารถทำรายได้ 50 ล้านบาท โดยหลังจากเปิดตัวเพียง 1 ปีเศษ สามารถทำรายได้ไปแล้วกว่า 25 ล้าน และคาดว่าในปี 2556 นี้ จะเติบโตขึ้นอีกกว่า 20%” นางสาวสรินพร จิวานันต์ กล่าวทิ้งท้าย
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ด้วยประสบการณ์ และองค์ความรู้ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานในอุตสาหกรรม ครีเอทีฟ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เสริมความแข็งแกร่ง ด้วยการจับมือ “Paco Underhill” เจ้าของ “Envirosell” บริษัทวิจัย ยักษ์ใหญ่ระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ค และอีกหลายสาขาทั่วโลก อาทิ มิลาน โตเกียว แม็กซิโก และมอสโก เป็นต้น เปิดตัว “บริษัท เอ็นไวโรเซล ประเทศไทย จำกัด” บริหารงานโดย นางสาว สรินพร จิวานันต์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล ประเทศไทย จำกัด ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นที่ปรึกษาด้านการทำวิจัยเท่านั้น แต่เน้นการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ที่เกิดจากการเฝ้าสังเกตุ สะกดรอยผู้บริโภคอย่างแท้จริง หรือที่เรียกว่า “Observational Research” นับได้ว่าเป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับวงการวิจัยเมืองไทย และเป็นบริษัทวิจัยบริษัทเดียวที่มุ่งเน้นการวิจัยแบบเจาะลึก นับว่าเป็นพัฒนามิติใหม่ๆ ให้กับวงการตลาดของเมืองไทย ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี