โบรกเกอร์/บลจ. ได้ผู้สนใจลงทุนพันธุ์แท้ ในงาน SET in the City 2004

ข่าวทั่วไป Tuesday November 16, 2004 15:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โบรกเกอร์/บลจ. เผยยอดเปิดบัญชีในงาน SET in the City 2004 บรรลุเป้า ระบุได้ผู้สนใจการลงทุนของแท้ บริษัทจดทะเบียนปลื้ม ผู้ถือหุ้นรับรู้ชื่อเสียงกิจการเข้าร่วมชมบูธรับข้อมูลไม่ขาดสาย ส่วนนักลงทุนขานรับสัมมนา เสริมข้อมูลลงทุน
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผย ถึงงานมหกรรมการลงทุนครบวงจร ครั้งที่ 3 หรือ SET in the City 2004 ที่จัดขึ้นภายใต้ แนวคิดหลัก (Theme) ว่า “Shareholders : the Power of Ownership : ไม่เป็นเพียงผู้ถือหุ้น...แต่คุณคือเจ้าของ” ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 11 - วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2547 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ ว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าชมงานตลอด 4 วันรวมประมาณ 350,000 ราย
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังให้ความสนใจต่องานอย่างมาก เนื่องจากมีกิจกรรมที่จัดขึ้นมากมายและหลากหลาย โดยในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน(บลจ.) นั้น ได้สมัครเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นจำนวนประมาณ 7,000 บัญชี ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนมีลูกค้าเปิดบัญชีเพื่อซื้อหน่วยลงทุนประมาณ 500 บัญชี รวมมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้กว่า 30 ล้านบาท
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า มหกรรมการลงทุนครบวงจร บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดงานและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ปูพื้นฐานความรู้เรื่องการลงทุนให้กับเยาวชน เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ลงทุนที่มีคุณภาพในอนาคต เนื่องจากในปีนี้ มีนักเรียน นิสิตนักศึกษาเข้าชมงานจำนวนมากกว่าทุกปี ซึ่งผู้เข้าชมงานกลุ่มนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความแข็งแกร่งด้วยฐานนักลงทุนคุณภาพ
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า “สำหรับการเชิญชวนผู้ชมงานบริจาคเงิน 20 บาท เพื่อเลือกรับหนังสือฟรี 1 เล่ม ได้แก่ ‘อยากรวย ต้องรู้ เล่ม 4. ‘รู้จังหวะลงทุน’ หรือ ‘อยากรวย ต้องรู้ เล่ม 3. ‘รู้จัก เครื่องมือ’ หรือ ‘กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ’ พบว่าได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานบริจาคเงินสูงถึงประมาณ 800,000 บาท ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ และวารสารการเงินธนาคารจะนำเงินบริจาคเงินมอบให้ให้มูลนิธิการกุศลได้แก่ มูลนิธิดวงประทีป มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมในพระอุปถัมถ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชครินทร์ มูลนิธิครูสร้างสรรค์ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี และสถานเลี้ยงเด็กยากจนบ้านครูน้อย
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ระบุว่า พอใจกับจำนวนลูกค้าที่เปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ตลอดทั้ง 4 วัน เนื่องจากลูกค้าได้เตรียมหลักฐานเอกสารมาเปิดบัญชีภายในงานอย่างครบถ้วน สะท้อนว่า เป็นนักลงทุนที่ต้องการและตั้งใจที่จะลงทุนในตลาดทุนอย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อเทียบกับภาวะการ ลงทุนในตลาดหุ้นที่โดยรวมค่อนข้างซบเซา ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอควร จึงเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นบัญชีที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายอย่างต่อเนื่อง (Active Account) นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังยืนยันว่า จะเข้าร่วมงาน SET in the City ในปีหน้าอย่างแน่นอน
ทางด้าน บลจ. นั้น ถือว่า ประสบความสำเร็จในการแนะนำรวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลกองทุน LTF และ RMF รวมทั้งกองทุนใหม่ๆ ให้นักลงทุนรับทราบ ตลอดจนสามารถสร้างการรับรู้ต่อตัวบริษัทได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าไม่ได้เน้นการขายผลิตภัณฑ์ แต่จำนวนผู้เข้าชมบูธอยู่ในเกณฑ์ที่ พอใจ และยังเป็นผู้เข้าชมงานที่มีความรู้ ความสนใจในเรื่องการลงทุน และตั้งใจลงทุนอย่างแท้จริง ซึ่งก็ตรงกับแนวคิดและความตั้งใจหลักในการออกบูธจึงทำให้สามารถพูดคุยและแนะนำกองทุนกับลูกค้าหรือผู้เข้าชมงานได้ง่ายขึ้น
บริษัทจดทะเบียนที่ร่วมออกบูธในบริเวณโซนซี นั้นต่างมีความเห็นเดียวกันว่า ได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้น นักลงทุนทั่วไป และประชาชนในระดับที่ดี เกินความคาดหมาย โดยให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมบูธจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ถือหุ้นได้ร่วมรับรู้ข้อมูลของบริษัท ที่ได้เตรียมมาเผยแพร่เต็มที่ ซึ่งไม่เพียงจะทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัทเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ด้วย
“จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เข้ามาร่วมชมงาน SET in the City 2004 พบว่า ผู้เข้าชมงานถึงร้อยละ 81.06 เป็นผู้ที่มีการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป และเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการ
ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระดับปานกลางถึงน้อย สูงถึงร้อยละ 77.62 และเมื่อเข้าชมงานแล้วพบว่าได้รับความรู้เพิ่มขึ้นในระดับปานกลางถึงมากถึงร้อยละ 94.15 ซึ่งถือได้ว่าบรรลุเป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ที่ทำให้ผู้เข้าชมงานได้มีความรู้เพิ่มมากขึ้น” นายกิตติรัตน์กล่าว
ที่สำคัญคือผู้เข้าชมงานที่ยังไม่เคยลงทุนในหลักทรัพย์มีถึงร้อยละ 54.78 ในขณะที่ผู้ที่ยังไม่เคยลงทุนในกองทุนรวมมีถึงร้อยละ 72.89 และเมื่อเข้าชมงานแล้วปรากฏว่าผู้เข้าชมงานสนใจที่จะลงทุนในหลักทรัพย์ในระดับสนใจ ถึง สนใจมากถึงร้อยละ 92.95 และสนใจที่จะลงทุนในกองทุนรวมในระดับสนใจ ถึงสนใจมากถึงร้อยละ 80.5
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า “ผู้ที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 57.94 ได้ใช้เวลาร่วมชมงานเฉลี่ย
1 — 3 ชั่วโมง และกว่าร้อยละ 30 ใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง โดยได้ให้เหตุผลของการเข้าร่วมงานว่า สนใจเข้าร่วมงานนี้เนื่องจากมีการให้ความรู้และพัฒนาการใหม่ ๆ เกี่ยวกับการลงทุน มีการแจกเอกสารและหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน มีการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุน รวมทั้งเห็นว่ากิจกรรมตลาดหุ้นจำลองมีความน่าสนใจ
สิ่งที่ควรให้ความสนใจคือผู้ที่มาร่วมชมงานในปีนี้ เป็นผู้ที่มีความสนใจจริง และถึงแม้จะยังไม่ได้เปิดบัญชีในงาน แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะมีผู้สนใจจำนวนมากที่จะพิจารณาตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตแน่นอน”
สำหรับบูธที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ ตลาดหุ้นจำลอง รองลงมาคือ TSI แหล่งช็อปสุดมันส์ ผลิตภัณฑ์แห่งความรู้ การสัมมนา บูธของธนชาติ บูธ TSD ของบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด บูธของบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ตามด้วยบูธของบล. ซีมิโก้ บล.กิมเอ็ง บล.กรุงศรีอยุธยา และบูธของตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI)--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ