สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 1, 2013 10:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,679 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,664 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.83 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,600 บาท กับ 23,700 บาท และกลับมาปิดที่ 23,600 บาท กับ 23,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 4,174 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,882 คู่สัญญา และ Silver Futures (ไม่มีการซื้อขาย) Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท ลดลง 4% และ Silver Futures (ไม่เปลี่ยนแปลง) GFG13 ปิด 23,690 บาท และ GFJ13 ปิด 23,850บาท GF10G13 ปิดที่ 23,700 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,850 บาท SVG12 (ไม่มีการซื้อขาย) สัญญา Comex ปิดลดลง 19.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,662 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 82.6 เซ็นต์ ที่ระดับ 31.35 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,328.09 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 45 เซ็นต์/บาร์เรลปิดที่ระดับ 97.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 49.84 จุด ปิดที่13,860.58 จุด ข่าวที่สำคัญ Kitco, TheBullionDesk, Reuters, Infoquest ***ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลงจากแรงเทขายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการปรับ Position ในช่วงสิ้นเดือนของนักลงทุน ประกอบการการเข้าทำกำไรจากนักลงทุนระยะสั้น รวมไปถึงเป็นช่วงปรับพอร์ทการลงทุนก่อนที่ตัวเลข Jobless Claims จะประกาศเมื่อวานนี้ ***ทั้งตลาดทองคำและซิลเวอร์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโกออกมาดีกว่าที่คาด ***CME Group กล่าวว่า เป็นที่น่าประหลาดใจว่าตัวเลข Jobless Claims ที่ออกมาแย่ลงได้กดดันราคาทองคำ และดูเหมือนราคาจะยิ่งลดลงเมื่อตัวเลข Chicago PMI ดีกว่าที่คาด กล่าวคือ ราคาทองคำได้ล้มเหลวที่จะตอบสนองสวนทางกับตัวเลขสหรัฐอย่างที่เคยเป็น ***นักลงทุนยังจับตารอการประกาศ Non-farm Payroll ที่จะสะท้อนถึงการตัดสินใจนโยบายทางการเงินของเฟด โดย Reuters คาดว่าการจ้างงานจะคงที่ในเดือน ม.ค. ในขณะที่ Kitco คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 10,000 ตำแหน่ง ***เมื่อมองภาพรวมของตัวเลขต่างๆที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ดัชนีฝ่ายจัดซื้อของเขตชิคาโก จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์เมื่อนำมาคิดค่าเฉลี่ยในรอบหลายเดือน ส่วนใหญ่แล้วพบว่า ตัวเลขที่เกี่ยวกับภาคการจ้างงานแข็งแกร่งขึ้นในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม ***แรงซื้อจากจีนและตลาดเอเชียเพื่อสะสมช่วงก่อนตรุษจีนได้ลดลงในสัปดาห์นี้ และผู้ซื้อในอินเดียยังรออยู่นอกตลาด ***นายอีร่า เอ็พสตีน จากลินน์ กรุ๊ป กล่าวว่า เขาไม่เห็นเหตุผลใดที่ราคาทองคำจะเป็นขาขึ้นในระยะยาวจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งเมื่อดูแพทเทิร์นกราฟในปัจจุบัน เขาแนะนำให้ทำ Short ที่ระดับ 1,673 เหรียญ ด้วยระดับ Sell Stop ที่ 1,685 เหรียญ และเขารอเวลาที่ราคาจะลงมาบริเวณ 1,652 — 1,645 เหรียญ ***Global Hunter Securities มองว่าราคาจะมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625 — 1,750 เหรียญในช่วงอีก 2 — 3 เดือนข้างหน้า ***UBS กล่าวว่า ปริมาณความต้องการทองคำแท่งของจีนยังทรงตัว โดยเริ่มฟื้นตัวขึ้นก่อนช่วงตรุษจีน ด้วยปริมาณวอลุ่มและพรีเมี่ยมปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 — 3 วันที่ผ่านมา ***ในเชิงเทคนิคสำหรับกราฟราย 48 ชม. ล่าสุดมีสัญญาณของ Bearish Hammer ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง แต่ยังมีความสงสัยว่าแนวโน้มขาลงจะดำเนินต่อไปหรือไม่ ***ในวันนี้จะมีตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม (PMI) ของจีน อังกฤษ อียู และสหรัฐออกมา รวมถึงตัวเลขที่สำคัญอย่างตัวเลขภาคแรงงานที่คาดว่าจะส่งผลต่อราคาช่วงปลายสัปดาห์ ***นักลงทุนบางส่วนกล่าวว่า การลดลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมของช่วงการซื้อขายก่อนหน้า ได้กระตุ้นให้เกิดแรง Stop Loss Selling ในเชิงเทคนิคบางส่วน และราคาอาจจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างในช่วงปลายสัปดาห์ ***ผู้นำวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต อนุมัติร่างกฎหมายเพื่ออนุญาตให้รัฐบาลทำการกู้ยืมเงินจำนวนกว่าแสนล้านดอลลาร์เพื่อให้ตอบสนองต่อระดับหนี้ จากการลงมติเสียงส่วนใหญ่ 64-34 ที่สนับสนุนต่อมาตรการของประธานาธิบดี บารัก โอบามา ***จากการคาดการณ์ของศูนย์กลางนโยบายพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า มาตรการของโอบามาอาจเลื่อนวงจำกัดหนี้เพื่อการกู้ยืมจำนวน 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ชั่วคราว จนกว่าจะถึงวันที่ 18 พฤษภาคม และสำรองเงินไว้จำนวน 4.50 แสนล้านดอลลาร์สำหรับหนี้ใหม่เพื่อเป็นการเพิ่มการจำแนกบัญชี ***ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลง 0.1% แตะระดับ 1.3557 ดอลลาร์ หลังจากยอดการค้าปลีกของเยอรมนีประจำเดือนธันวาคมลดลง 1.7% จากเดือนก่อนหน้า ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคยังคงชะลอการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุด ประกอบกับคนว่างงานเยอรมนีเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีปรับตัวสูงขึ้นก็กดดันเงินยูโรเช่นกัน ***รัฐบาลฝรั่งเศสส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการแกว่งตัวของค่าเงินยูโร และมีความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงของสงครามสกุลเงิน (Currency Wars) ***มาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี เตรียมที่เปลี่ยนแปลงการจัดการภาคธนาคารต่างๆในยูโรโซน ซึ่งเขาอาจได้รับแรงกดดันภายใต้บทบาทการเป็นผู้นำครั้งนี้ ***คาดว่าในวันนี้จะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก มาเรียโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ซึ่งสอดคล้องกับการที่อียู มีความตั้งใจจะบรรลุเป้าหมายการผ่อนคลายงบประมาณขาดดุลของสเปน *** BNP Paribas ได้ลดการคาดการณ์ราคาทองคำในปีนี้ และปี 2014 โดยคาดว่าราคาเฉลี่ยปีนี้จะยังเพิ่มขึ้นเป็น 1,790 เหรียญ ซึ่งลดจากการคาดการณ์เดิมจาก 1,865 เหรียญ ส่วนปี 2014 คาดว่าจะมีราคาเฉลี่ยที่ 1,775 เหรียญ โดยลดการคาดการณ์ลงมาเล็กน้อยจาก 1,780 เหรียญ จากการที่นักลงทุนผิดหวังที่ราคาสิ้นปี 2012 ไม่สามารถทะลุระดับ 1,700 เหรียญได้ และผลจากการขยายขนาดงบดุลของเฟดและการคาดว่าจะมีภาวะเงินเฟ้อไม่ค่อยส่งผลต่อราคาเท่าไหร่นัก และแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร แต่ความสัมพันธ์ที่ราคาทองคำสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ได้ลดลงไป อีกทั้งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากความกังวลจากยูโรโซนและ Fiscal Cliff ที่ถูกยืดเวลากรเจรจาไป ที่อาจจะกระตุ้นให้ลงทุนในโลหะมีค่าอื่นๆแทน เช่น แพลทตินัม ที่ได้ราคาแพงกว่าทองคำ ขณะที่นโยบายผ่อนคลายในยูโรโซนและญี่ปุ่นเป็นแรงหนุน แต่การขยายระบบธนาคารในเงามืด (นอกระบบ) ของจีนที่อาจจะกดดันทองคำ ส่วนแรงซื้อทองคำแท่งยังคงเป็นปัจจัยหนุน โดยเฉพาะจากธนาคารกลางต่างๆ และเอเชีย ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 330,000 ราย ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 368,000 ราย - Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.0% ตัวเลขจริงออกมาเท่าเดิมอยู่ที่ 0.0% - Employment Cost Index q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.4% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.5% - Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.4% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 0.2% - Federal Funds Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.25% ตัวเลขจริงออกมาเท่าเดิมอยู่ที่ 0.25% - FOMC Statement ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Non-Farm Employment Change คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 161,000 ราย ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 155,000 ราย - Unemployment Rate คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 7.8% ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว7.8% - Final Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 56.1 ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 56.1 - Revised UoM Consumer Sentiment คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 71.4 ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 71.3 - ISM Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 50.8 ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 50.7 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำดูจะเคลื่อนไหวไปไม่ได้ไกลหลังจากที่ขยับตัวสูงขึ้นรับข่าวตัวเลข GDP ที่แย่ลง แต่กลับปรับตกลงมาที่เดิมท่ามกลางข่าวเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ทั้งที่ตัวเลขการรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐสูงขึ้น 38,000 ตำแหน่ง จะเห็นได้ว่าทองคำยังอยู่ในสภาวะแรงกดดันของแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง และยังอยู่ในทิศทางแนวโน้มขาลงตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ในเชิงเทคนิคกราฟรายวันยังเป็นแนวโน้มขาลงจนกว่าราคาจะทะลุ 1,695 เหรียญได้เท่านั้น ในระยะสั้นภาพรวมจึงกลับปรับลงเป็นแนวโน้มขาลงหมดทุกตัว หลังจากที่ราคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,680 เหรียญได้ คำแนะนำยังเป็นลักษณะการลงทุนในทิศทางขาลง ซึ่งกลับกับเมื่อวานที่ให้ทำการซื้อในระยะสั้น แต่เมื่อราคาหลุด Stop Loss ลงมาที่ระดับ 1,670 เหรียญ ก็แนะนำให้ขายและกลับทำเป็น Short Position หรือให้เก็งกำไรในทิศทางขาลงต่อเนื่อง จึงย้ำในกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น ซึ่งจะต้องปรับตามทิศทางของราคาและตลาด โดยที่ในวันนี้ยังมองแนวรับระยะสั้นรายวันอยู่ที่ 1,650 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,670 เหรียญ และคาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบรอข่าวการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ในคืนนี้เป็นสำคัญ ราคาทองคำดูจะเคลื่อนตัวไปได้ไม่มากนัก และไม่ติดตามค่าเงินยูโรเลยในช่วงนี้ แม้เงินยูโรจะปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ยูโรกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.3610 ดอลลาร์/ยูโร แต่ทองคำก็ยังไม่สามารถกลับตัวขึ้นมาได้ Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,740 บาท Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,930 บาท Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 910 บาท และแนวต้านที่ระดับ 940 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,655 เหรียญเป็นแนวรับด้านล่าง และระดับ 1,665 เหรียญเป็นแนวต้านด้านบน นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ปรับพอร์ทกลับมาเป็น 0% และเริ่มเปิดสถานะ Short เพื่อเริ่มเก็งกำไรในทิศทางขาลงมากกว่า หรือ Short ทำพอร์ทติดลบ นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ปรับพอร์ทการลงทุนเป็น 0% เช่นเดียวกัน บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ