สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 4, 2013 10:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,662 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,669 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,450 บาท กับ 23,550 บาท และกลับมาปิดที่ 23,450 บาท กับ 23,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 15,935 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 27,690 คู่สัญญา และ Silver Futures 321 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 7% GFG13 ปิด 23,720 บาท และ GFJ13 ปิด 23,840 บาท GF10G13 ปิดที่ 23,710 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,850 บาท SVG12 944 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น8.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,670.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 60.7 เซ็นต์ ที่ระดับ 31.958 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,328.09 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 28 เซ็นต์/บาร์เรลปิดที่ระดับ 97.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 149.21 จุด ปิดที่ 14,009.07 จุด ข่าวที่สำคัญ Kitco, TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, MarketWatch, Business Times Online — World, AFP ราคาทองคำเมื่อคืนวันศุกร์มีความผันผวนอย่างมาก หลังการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ที่ออกมาน้อยกว่าที่คาดและน้อยกว่าครั้งก่อน รวมไปถึงอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้นจาก 7.8% มาอยู่ที่ 7.9% ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไป 20 เหรียญทันที จากระดับ 1,662 เหรียญไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,681 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวลดลงทันที 20 เหรียญเช่นกัน ภายหลังการประกาศตัวเลข Revise UoM Consumer Sentiment และ ISM Maunufacturing PMI ที่ออกมาดีกว่าที่คาดทั้งสองตัว ราคาทองคำจึงกลับมาที่บริเวณตำแหน่งเดิม นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงยังมาจากความเห็นของนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนหลุยส์ที่ระบุว่า เฟดควรชะลอการใช้การผ่อนคลายการเงินหากเศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัว โดยเรียกมาตรการนี้ว่า “slower pace of easing” นักวิเคราะห์จากโนมูระกล่าวว่า การที่อัตราการว่างงานสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นหมายถึง คงต้องกินเวลาอีกนานกว่าเฟดจะยกเลิกการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาทองคำ ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจะจับตาการประชุมอีซีบี โดยนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ที่อาจออกมากล่าวเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของค่าเงินยูโร ทั้งนี้เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้มีไม่มากนัก โดยตัวเลขที่สำคัญมีเพียงตัวเดียวคือการรายงาน Trade Balance ในวันศุกร์ รวมไปถึงตลาดมุ่งเน้นไปที่ประเด็นภาคธนาคารกลางต่างๆ จากญี่ปุ่นสู่สหรัฐ ในความพยายามผลักดันการชะลอตัวทางเศรษฐกิจให้ออกจากประเทศของตน ในผลสำรวจ Kitco News Survey สำรวจนักวิเคราะห์ 26 ราย พบว่า 12 รายมองขึ้นเนื่องจากยังคาดว่าหลายประเทศจะใช้การผ่อนคลายการเงินต่อไป ในขณะที่ 4 รายมองลงเนื่องจากหากราคายังไม่เบรก 1,700 เหรียญยังคงส่งผลให้ราคาอ่อนแออยู่ และ 10 รายมอง Sideways เนื่องจากไม่มีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาออกจากกรอบในสัปดาห์นี้ ที่ปรึกษาจาก MCX กล่าวว่า เมื่อนับเวฟของกราฟราคาทองคำ มีความเป็นไปได้จะเกิดการปรับฐานในเวฟ C ที่อาจลงมาบริเวณ 1,523 เหรียญ รายงานใหม่จากมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุว่า ราคาทองคำจะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 2014 จากการคาดการณ์ที่เฟดจะมีการเข้าซื้อทองคำเพื่อทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ปีหน้า World Gold Council ระบุว่า ตลอดปี 2012 ปริมาณความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น 8.3% และเมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นสัญญาเรื่องเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ซึ่งเป็นตัวสนับสนุนความต้องการในทองคำ ในขณะที่ปริมาณความต้องการของจีนยังคงแข็งแกร่ง อ้างอิงข้อมูลจาก National Bank Financial ระบุว่า เงินไหลเวียนได้ลดลงในกลุ่มผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลกแม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนั่นอาจหมายถึงเรากำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่หน้าผาของการผลิตทองคำ หรือ gold production cliff ในปี 2017 ธนาคารเพื่อการลงทุนต่างๆ ของยุโรป ทำการตัดลดโบนัสที่กำลังจะออกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าลง 20% ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้ช่องว่างการจ่ายเงินต่อคู่แข่งสหรัฐแย่ลงไปอีก ประธานาธิบดี บารัก โอบามา กล่าวว่า สหรัฐสามารถลดงบประมาณขาดดุลได้ โดยการปิดช่องว่างทางภาษี ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐมีการเติบโตที่ดีโดยปราศจากการปรับเพิ่มภาษีขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งการรู้จักใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประเทศ แฮรี่ รีด ผู้นำระดับสูงของวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า ภาษีรายได้ของประเทศต้องเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงด้านงบประมาณต่างๆ เพื่อแทนที่การปรากฎขึ้นของการตัดลดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าทางพรรครีพับลิกันจะเตือนว่า สิ่งที่พวกเขาทำอาจจะไม่รัดกุมมากพอ หลังจากที่มีการยอมรับให้มีการเพิ่มภาษีคนรวยเมื่อไม่กี่เดือนก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 196,000 ราย ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 157,000 ราย - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 7.8% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.9% - Final Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 56.1 ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 55.8 - Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 71.3 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 73.8 - ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 50.7 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 53.1 ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 0.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ 2.3% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — สภาพราคาทองคำมีการแกว่งตัวตามข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เข้ามา โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันศุกร์มาอยู่ที่ระดับ 7.9% ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากตัวเลข ISM Manufacturing PMI ออกมาดีเกินคาด ทำให้ราคาทองคำกลับมาที่เก่า สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสภาพของราคาทางเทคนิคยังอยู่ในแนวโน้มขาลงทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว MTS Gold จึงแนะนำให้นักลงทุนลงทุนแบบระยะสั้น และเก็งกำไรแบบสั้นๆ โดยแนะนำให้ทำการ Short Position ในลักษณะการขายก่อนบริเวณเเนวต้านและซื้อกลับทีหลังเมื่อราคาปรับตัวลดลงมา ค่าเงินบาทเองยังคงแข็งค่าอยู่และเริ่มทรงตัวได้บริเวณ 29.80 บาท/ดอลลาร์ ดังนั้นโดยภาพรวมของราคาทองคำจึงยังคาดว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงได้ โดยที่มีแนวรับสำคัญในระยะสั้นราย 8 ชั่วโมงที่ระดับ 1,660 เหรียญ และแนวต้านแรกที่ระดับ 1,675 เหรียญ Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,620 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,800 บาท Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,900 บาท Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 950 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,660 — 1,675 เหรียญ แนะนำให้หาจังหวะในการขายก่อนเพื่อซื้อกลับเมื่อราคาปรับตัวลดลง นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ถือ Short Position เป็นหลัก 5 — 10% เก็งกำไรในทิศทางขาลง และซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ลดพอร์ทเป็น 0% หาจังหวะในการทำ Short มากกว่า เป็นลักษณะของนักลงทุนระยะยาว บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ