กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--วอเนอร์ บราเธอร์ส
สามปีมาแล้วนับแต่ แดนนี่ โอเชียน (จอร์จ คลูนีย์) และลูกทีม — นำโดยผู้ได้รับการคัดสรรอย่าง รัสตี้ ไรอัน (แบรด พิตต์), มือกาวอนาคตไกล ไลนัส คอลด์เวล (แมตต์ เดมอน), ผู้ชำนาญงานระเบิด แบชเชอร์ ทาร์ (ดอน ชีเดล) และมืองัดแงะตู้นิรภัย แฟรงค์ แคตตัน (เบอร์นีย์ แมค) — ได้ร่วมกันปล้นอย่างกล้าได้กล้าเสียและได้รับผลตอบแทนอย่างงามที่สุดในประวัติศาสตร์ ในการโจรกรรมนายทุนไร้หัวใจ เทอรี่ เบเนดิค (แอนดี้ การ์เซีย) จนเงินเกลี้ยงตู้นิรภัยที่ไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปได้ของเขาในลาสเวกัส
หลังจากการแบ่งสรรปันส่วนเงินจำนวน 160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ละคนของกลุ่มโอเชียน อีเลเว่น อันฉาวโฉ่ ได้พยายามที่จะกลับเนื้อกลับตัว ใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำตัวตามกฎหมาย...แต่นั่นได้พิสูจน์ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับเทสส์ (จูเลีย โรเบิร์ตส) ภรรยาผู้คับแค้นของแดนนี่
เมื่อใครบางคนได้ฝ่าฝืนกฎข้อที่หนึ่ง และส่งพวกเขาไปสู่เงื้อมมือเบเนดิค การกลับตัวจึงไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป เขาต้องการเงิน 160 ล้านเหรียญของเขาคืน — รวมดอกเบี้ย — มิเช่นนั้นแล้ว...
และทีมโจรกรรมก็ได้ค้นพบในไม่ช้าว่า เบเนดิคไม่ได้เป็นคนที่มีอำนาจคนเดียวที่กำลังตามหาโอเชียน อีเลเว่น...
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ร่วมกับ วิลเลจ โรดโชว์ พิกเจอร์ส ภูมิใจเสนอผลงานภาพยนตร์ของ Jerry Weintraub/Section Eight Production : จอร์จ คลูนีย์, แบรด พิตต์, แมตต์ เดมอน, แคทเธอรีน ซีต้า-โจนส์, แอนดี้ การ์เซีย, ดอน ชีเดล, เบอร์นีย์ แมค และ จูเลีย โรเบิร์ตส ใน Ocean’s Twelve ร่วมแสดงโดย เคซีย์ แอฟเฟล็ค, สก็อต แคน, วินเซนท์ แคสเซล, เอ็ดดี้ เจมิสัน, กับ คาร์ล ไรเนอร์ และเอลเลียต กูลด์
กำกับการแสดงโดย สตีเวน โซเดอเบิร์ก ภาพยนตร์เรื่องนี้ อำนวยการสร้างโดย เจอรี่ ไวน์โทรบ และเขียนบทภาพยนตร์โดย จอร์จ โนลฟี ผู้อำนวยการบริหาร ได้แก่ จอห์น ฮาร์ดี้, ซูซาน อีคินส์ และ บรูซ เบอร์แมน ผู้อำนวยการสร้างร่วม ได้แก่ เฟรเดอริค ดับบลิว บรอสต์ และ เกรกอรี่ เจคอบส์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ได้แก่ มิเลน่า แคโนเนโร ; ลำดับภาพโดย สตีเฟน เมอริโอเน, A.C.E.; ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ ได้แก่ ฟิลิป เมสสินา; และดนตรีประกอบโดย เดวิด โฮล์มส อัลบั้มซาวนด์แทร็ค มีวางจำหน่ายที่ Warner Sunset Records/ Warner Bros. Records
Ocean’s Twelve จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ในกลุ่มบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท และในบางพื้นที่โดย วิลเลจ โรดโชว์ พิกเจอร์ส
แผนการณ์ใหม่
ในตอนที่ภาพยนตร์รีเมคเรื่องดังจากหนังคลาสสิคของ Rat Pack เรื่อง Ocean’s Eleven โดยสตีเวน โซเดอเบิร์ก ออกฉายเมื่อเดือนธันวาคมปี 2001 ความสำเร็จที่ได้รับอย่างท่วมท้นจากทั่วโลกนั้นเกินกว่าความคาดหมายที่ผู้อำนวยการสร้างชื่อดัง เจอรี่ ไวน์โทรบ ได้ตั้งไว้เสียด้วยซ้ำ “ผมตั้งความหวังไว้สูงสำหรับ Ocean’s Eleven เพราะเรามีทีมดาราที่ระดับแนวหน้า ผู้กำกับฝีมือดี สคริปท์ และเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม” ไวน์โทรบทบทวนความจำ เขามีประสบการณ์มากมายกับการสร้างภาพยนตร์เรื่องฮิต และเคยอำนวยการสร้างภาพยนตร์หลายภาคที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง Karate Kid รวมทั้งหนังที่รู้จักกันแพร่หลาย Nashville, Diner และ Oh, God! “ผมคิดว่าเหตุผลอย่างหนึ่งที่คนไปดูหนังก็เพื่อหนีบางอย่าง พวกเขาซื้อข้าวโพดคั่ว โคคา-โคล่า แล้วก็นั่งดูหนังอย่างมีความสุข เห็นได้ชัดในเวลาไม่นานว่าคนดูมีความสุขกับการไปชมเรื่อง Ocean’s Eleven”
ตามที่ไวน์โทรบได้กล่าวว่า ระหว่างการแถลงข่าวในการเดินสายโปรโมตเรื่อง Ocean’s Eleven ในโรมได้มีผู้ตั้งคำถามกับทีมนักแสดงและผู้สร้างถึงการสร้างภาคต่อ แม้จะไม่มีใครคาดหวังกับการรวมดาราครั้งใหญ่ขนาดนั้นสำหรับหนัง Ocean’s อีกเรื่องก็ตาม แต่เหมือนชะตาลิขิต ในเวลาต่อมาของเย็นวันนั้น โซเดอเบิร์กก็ได้เปิดเผยว่าเขามีความคิดที่จะให้เรื่องเกิดขึ้นใน Eternal City
“ผมไม่ได้คิดในแง่ที่ว่าจะสร้างหนัง Ocean’s อีกเรื่องจนกระทั่งเราไปที่โรมเพื่อโปรโมต Ocean’s Eleven และผมตกหลุมรักเมืองนั้นเข้า” โซเดอเบิร์กยืนยัน “ผมเริ่มต้นคิดว่าเนื้อเรื่องและโครงสร้างจะเป็นอย่างไร และความคิดที่จะเดินเรื่องในยุโรปก็เริ่มต้นขึ้น”
“นี่เป็นครั้งแรกที่สตีเวนเคยไปที่โรม และผมก็มองเห็นประกายในตาของเขา” แอนดี้ การ์เซียทวนความทรงจำ “เขาได้รับแรงดลใจจากตัวเมืองและเริ่มพูดถึงภาคต่อ และการเขียนบทตั้งแต่ตอนที่เรายังอยู่ที่นั่น”
หลังจากกลับมายังลอสแอนเจลิส ไวน์โทรบ ก็ได้พบกับแรงบันดาลใจเพิ่มขึ้นอีกสำหรับงานภาคต่อ ในบทภาพยนตร์ของ จอร์จ โนฟลี เรื่อง Honor Among Thieves เรื่องราวผจญภัยของจอมโจรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา ที่ถูกตามรังควานโดยจอมโจรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป “ในตัวของสคริปท์มีแนวคิดที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Ocean’s Twelve ผมจึงส่งมันไปให้จอร์จ แบรด และสตีเวน และขอให้พวกเขาอ่าน” ไวน์โทรบบอก “เราทุกคนชอบมาก เรื่องมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวละครหลักสองตัว ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดค่อการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสำหรับทีมรวมดาราของเรา”
“โทนเรื่องในสคริปท์ของ จอร์จ โนฟลี มีความคล้ายคลึงกันมากกับเรื่องของ Ocean’s Eleven” โซเดอเบิร์กเล่า “ผมมีแนวคิดพื้นฐานสำหรับเรื่อง Ocean’s Twelve ที่เบเนดิคสามารถตามล่าตัวพวกเขาทุกคน จนทั้งหมดต้องบินไปยุโรปเพื่อทำการโจรกรรมต่อเนื่อง และหาเงินมาใช้คืนให้เขา และไม่เหมือนกับหนังเรื่องแรก ที่เราเคยได้สนุกกับการดูพวกเขาทำได้สำเร็จและแก้ไขทุกอย่างได้ ผมว่ามันคงสนุกขึ้นถ้า Twelve อยู่ในหนังที่ทุกอย่างผิดพลาดต้งแต่เริ่มต้น
“เราเริ่มใส่เชื้อไฟให้กับสคริปท์ของจอร์จ ด้วยการให้แนวคิดที่ผมมี แล้วมันก็ออกมาเหมาะเจาะมาก ความท้าทายนั้นไม่น้อยไปกว่าการทำให้ Honor Among Thieves กลายเป็น Ocean’s Twelve ในความเป็นจริงที่ว่าจอร์จกับผมมีความคิดอีกเป็นจำนวนมหาศาล ที่เราพยายามผนวกเข้ากับสคริปท์และเรียบเรียงออกมา”
“ผมว่ามันยุติธรรมที่จะพูดว่าเราเขียนสคริปท์ไปห้าครั้งจากหลากหลายความคิดที่เรามี” จอร์จ โนฟลี ผู้เขียนบทเรื่อง Ocean’s Twelve กล่าว “การเขียนของผมค่อนข้างเร็วเพราะผมมีโครงเรื่องจำนวนมากเมื่อตอนเริ่มต้นเขียน มีวัตถุดิบมากกว่าโครงเรื่องเกินกว่าเราจะใส่ลงไปในสคริปท์ได้ เราจำเป็นต้องหั่นมันออก — เหมือนการแกะสลักรูปปั้นหินอ่อน”
“เราต้องแน่ใจว่าเรามีบทที่ใช้ได้โดยไม่เป็นการจำเพาะเจาะจงกับนักแสดงคนไหน” จอร์จ คลูนีย์กล่าว เขาเป็นหุ้นส่วนของโซเดอเบิร์กที่ Section Eight บริษัทโปรดักชั่นที่ร่วมสร้างหนัง Ocean’s กับ เจอรี่ ไวน์โทรบ แห่ง Jerry Weintraub Productions “สิ่งที่ยอดเยี่ยมในส่วนของนักแสดงก็คือ ไม่มีการเปรียบเทียบอีโก้ว่าใครได้บทเด่นกว่าใคร และอีกอย่างหนึ่งที่สตีเวนพูดอยู่เสมอๆ คือความร่วมแรงร่วมใจอย่างสูงอย่างดีเยี่ยมของเหล่าดาราทุกคน ไม่มีใครพยายามขโมยซีนกัน”
สิบสองคือสิบเอ็ดครั้งใหม่
หากว่าการนำทีมดาราชั้นนำของโลกจากภาพยนตร์เรื่อง Ocean’s Eleven ดูจะเป็นการท้าทายและยากยิ่ง พอๆกับแผนการของแดนนี่ โอเชียน ที่จะขโมยเงินจำนวน $160 ล้านจากตู้นรภัยของคาสิโนในลาสเวกัสแล้วละก็ การรวมทีมดาราอีกครั้งสำหรับภาคต่อ — และเสริมบรรดานักแสดงชื่อดังอีกเป็นจำนวนมากเข้าไป — ดูเหมือนกับว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ นั่นอาจเป็นสำหรัรบคนอื่น แต่ไม่ใช่เจอรี่ ไวน์โทรบ
“ไม่มีใครคิดว่าเราจะสามารถทำหนังเรื่องนี้ได้” ไวน์โทรบทบทวน “เพราะในแง่ของการเคลื่อนย้าย มันเป็นเรื่องที่แสนจะท้าทายในการประสานงานกับทีมดาราที่เก่งกาจในจำนวนมากขนาดนี้ ในช่วงเวลา 77 วันของตารางการถ่ายทำ สิ่งที่ทำให้ง่ายขึ้นคือ พวกเขาทุกคนอยากกลับมา”
“นี่เป็นกลุ่มคนที่มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการทำงานร่วมกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้” จอร์จ คลูนีย์ขยายความ “เราทุกคนมีปรัชญาเดียวกันในสิ่งที่เราทำเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง ซึ่งถ้าเราไม่สนุกกับสิ่งที่เราทำ เราต้องโง่เง่าที่สุด เพราะเราทุกคนโชคดีอย่างมหาศาล
“แต่ก็ยังมีเรื่องที่เหลือเชื่อที่ต้องชใช้ความพยายามและกำหนดตารางสำหรับการทำงานร่วมกับนักแสดงหลายๆ คน และเจอรี่สามารถรับมือได้” คลูนีย์พูดต่อ “มันไม่น่าน้อยใจที่เราทุกคนรักเขาและชื่นชมการร่วมงานกับเขา พูดตรงๆ เขาทำให้เราไปที่นั่นที่นี่ได้เพียงแค่เขาเอ่ยปาก เขาเป็นคนในวงการบันเทิงที่รู้แน่ชัดว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ และเหนืออื่นใด เชสาเป็นคนที่สนุกสนานมาก”
“ผมเคยบอกว่าเจอรี่เป็นโป๊พแห่งลาสเวกัส” แบรด พิตต์บอก “ผมคิดว่าเขาได้ขยายขอบเขตของเขานับแต่นั้นมา”
เบอร์นีย์ แมค เห็นด้วย “ผมไม่มีอะไรอื่นนอกจากความนับถือต่อเจอรี่ เขาทำทุกอย่างๆ ดีที่สุด และเขาจะได้เราทุกคนกลับมาเสมอ”
“สำหรับผู้กำกับฯ ทุกคน การทำงานกับเจอรี่เป็นเหมือนความฝัน” สตีเวน โซเดอเบิร์ก รายงาน “เรื่องของเขาสมเหตุสมผล การเลือกตัวแสดงของเขาสมเหตุสมผล และสัญชาติญาณของเขายอดเยี่ยมมากๆ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างหนังสองเรื่องนี้โดยไม่มีเขา ความกว้างขวางของเจอรี่ทำให้เราเข้าถึงโลเคชั่นหลายแห่งในยุโรป ที่เข้าไปได้ยากมาก และนี่คือสิ่งที่นอกเหนือจากความสามารถของเขาในทุกๆ เรื่องและทำให้ทุกคนมีความสุข
“อย่างที่ผมบอกกับทุกคนที่ขอให้ผมอธิบายถึงเจอรี่ ‘ไม่มีใครต้องคิดว่าเคยพบกับเขาหรือไม่ ไม่มีที่ใครเคยถามว่า คุณเคยเจอกับเจอรี่ ไวน์โทรบไหม? แล้วได้คำตอบว่า ไม่แน่ใจ เขาเป็นคนประเภทนั้นแหละ’ เขาเป็นคนที่สนุกที่ได้อยู่ใกล้ๆ และเขาเป็นผู้สร้างที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยเจอมา”
เช่นเดียวกับความชื่นชมที่มีต่อผู้สร้างซึ่งไม่ธรรมดาอย่างไวน์โทรบ ความกระตือรือล้นที่ทีมนักแสดงและทีมงานมีต่อการทำงานของผู้กำกับฯ โซเดอเบิร์ก ก็เป็นสิ่งทงี่ไม่อาจมองข้ามอีกด้วย “สตีเวนเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์” แมตต์ เดมอนกล่าวชื่นชม “หลักการทำงานของเขาไม่เหมือนใครที่ผมเคยเห็นมาก่อน“
“สำหรับสตีเวน ทุกๆ วันคือการถ่ายทำ ตัดต่อ และทำงานกับการจัดการทุกเรื่อง” คลูนีย์บอก บทบาทของเขาเรื่อง Ocean’s Twelve นับเป็นเรื่องที่สี่ในการทำงานร่วมกับ โซเดอเบิร์ก “สำหรับเรา ในตอนจบงานแต่ละวันนั้น ‘เราก็เก็บของ ไปกินไวน์กันสักแก้ว’”
“แรงกระตุ้นเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสร้างสรรค์ของฉัน ฉันจึงชอบฉากที่มีประสิทธิภาพของสตีเวน” จูเลีย โรเบิร์ตสกล่าว เธอได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขา Best Actress จากผลงานแสดงของเธอในหนังของโซเดอเบิร์ก เรื่อง Erin Brockovich “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สี่ของฉันกับเขา และไม่เคยมีวันไหนที่ซังกะตายทำ อย่างเวลาที่เหนื่อยหรือความกระตือรือล้นจางหาย สตีเวนเป็นคนที่ตรงเป๊ะและทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไป ทำให้ทุกคนตื่นเต้น และเขาทำให้เราอยากบรรลุเป้าหมายโดยมีเขาเฝ้ามองอยู่ ประสิทธิภาพบางส่วนของเขามาจากการที่คนมีความสุขในการทำงานกับเขา เราทุกคนอยู่ทีมเดียวกัน”
เมื่อโรเบิร์ตสได้รู้ไม่นานก่อนหน้าเริ่มการถ่ายทำ ว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกแฝด โซเดอเบิร์กและจอร์จ โนฟลี ผู้เขียนบทได้ปรับปรุงบทใหม่อย่างชาญฉลาดเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงนี้ในเรื่องราว “สตีเวนเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อให้มันยิ่งสนุกขึ้นไปอีกสำหรับฉัน” นักแสดงสาวกล่าว
นอกเหนือจากพรสวรรค์อย่างสูง และความหลงไหลในการสร้างภาพยนตร์ของโซเดอเบิร์กแล้ว เขายังสามารถทำงานหลากหลายหน้าที่ให้กับภาพยนตร์ของเขา ตั้งแต่สร้างสรรค์สคริปท์ไปจนถึงควบคุมกล้อง
“สตีเวนเป็นผู้กำกับฯ คนเขียนบท ผู้กำกับภาพ และลำดับภาพ ที่ไม่ธรรมดา” ไวน์โทรบกล่าว “ซึ่งหมายความว่า เขามาถึงกองถ่ายในตอนเช้า ไม่ต้องคุยยาวๆ กับคนอีกห้าคน เขามาถึงแล้วก็ทำงานเสร็จ เขามีสมาธิอย่างเต็มที่ เตรียมพร้อม และไม่กลัวที่จะทดลองอะไรมหใหม่ๆ เขาทำให้ผมประหลาดใจได้ทุกวัน”
“ในการที่สตีเวนทำงานหลายหน้าที่แบบนี้ จึงทำให้เขามีมุมมองที่ไม่เหทือนใคร และทำให้ขั้นตอนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น” ดอน ชีเดลกล่าว เขาทำงานเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สี่กับผูก้ำกับฯ ผู้นี้ และกับคลูนีย์ด้วย “เขานำสิ่งเปลกใหม่มาผสมผสานและท้าทายตัวเองและพวกเราอยู่เสมอ”
“มีตากล้องที่มีฝีมือและทักษะมากกว่าผมอีกมากมาย แต่สำหรับผม ความคิดที่เป็นตากล้องด้วยตนเองนั้นคือวิธีที่จะได้สิ่งที่ผมมีอยู่ในหัวและในแบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โซเดอเบิร์กอธิบาย “ผมไม่เห็นว่าการจัดไฟและการคุมหล้องจะแยกออกไปจากงานกำกับฯ การที่เราสามารถมองผ่านเลนส์และเห็นในสิ่งที่เราได้มานับเป็นประโยชน์มากสำหรับผม และน่าตื่นเต้นด้วย”
สำหรับแอนดี้ การ์เซีย แรงดึงดูดส่วนหนึ่งของการทำงานกับโซเดอเบิร์ก คือสมดุลย์ของการเตรียมงานอย่างพิถีพิถัน และความเต็มใจที่จะแสดงออก “เช่นเดียวกันกับนักกีฬาเก่งๆ สตีเวนมีสัญชาติญาณและวางแผนการเล่น โดยยอมให้สิ่งแปลกใหม่เกิดขึ้น” นักแสดงหนุ่มกล่าว “เขารู้ว่าสัญชาติญาณเหล่านั้นคือเพชรน้ำเอกของภาพยนตร์”
นอกจากบรรดานักแสดงทั้งหลายที่หวนคืนมาร่วมงานกันอีกครั้ง เรื่อง Ocean’s Twelve ยังได้ต้อนรับอีกสองดาราใหม่ที่เข้าร่วมทีม แคทเธอรีน ซีต้า-โจนส์มาร่วมแถวนักแสดงฝ่ายหญิงกับจูเลีย โรเบิร์ตส เธอผู้นี้เคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ดราม่าที่ได้รับรางวัลออสการ์ของโซเดอเบิร์ก เรื่อง Traffic และเจ้าของรางวัลตุ๊กตาทองจากผลงานของเธอในเรื่อง Chicago
“ผมมีผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกสองคนในหนังของผม” ไวน์โทรบเน้น “จูเลียเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง และเธอเป็นคนที่ตลกมากในหนังเรื่องนี้ และแคทเธอรีน ซึ่งผมเคยใช้เวลากับเธอเมื่อปีกลายที่ Venice Film Festival เป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่มากเช่นกัน ตอนที่สตีเวนกับผมคุยกันอยู่ว่าใครควรจะเล่นเป็นอิซาเบล เธอเป็นคนแรกและคนเดียวที่เราเลือก”
“เจอรี่ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังมองหาเรา” แคทเธอรีน ซีต้า-โจนส์บอก “มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำงานสร้างได้สง่างามและไม่มีที่ติแบบที่เจอรี่ทำ เขาเป็นนักการทูตที่เก่งก่าจ และทุกประเทศที่เราไปยินดีที่เราไปเยือน
“หลังจากที่เคยทำงานเรื่อง Traffic กับสตีเวน ฉันอยากจะหวนกลับมาสู่ประสบการณ์ทำงานร่วมกับเขาอีกในหนังเรื่องอื่น เพราะมันเป็นเวลาที่น่าทึ่งมากสำหรับฉัน” เธอกล่าวต่อ “ขั้นตอนของเขา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายหนังดราม่าอย่าง Traffic หรือหนังอย่าง Ocean’s Twelve คือการสร้างพื้นที่ให้กับทุกคนในเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอน ทุกคนเข้ามาอย่างเต็มไปด้วยพลังงาน เป็นบรรยากาศที่มหัศจรรย์ในการทำงาน”
อย่างที่โซเดอเบิร์กกล่าวไว้ว่า “อิซาเบลเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการคัดตัว เพราะในภาคต่อนี้เนื้อเรื่องมีศูนย์กลางส่วนหนึ่งอยู่ที่ตัวละครซึ่งไม่เคยปรากฎในหนังเรื่องแรก เราจึงต้องมีคนที่สามารถตรึงความสนใจในฉากได้ ผมรู้ว่าบทที่แคทเธอรีนแสดงนั้นออกมาดีมาก เธอเป็นวายร้ายที่ยอดเยี่ยม
“ผมทำงานกับแคทเธอรีนในเรื่องนี้อย่างดุเดือด” ผู้กำกับฯ กล่าวต่อ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สามารถใช้เธอในแบบที่เน้นถึงความสง่างามและความสวยของเธอ เพราะในเรื่อง Traffic เธอกำลังตั้งท้องได้หกเดือน และผมชื่นชมความกล้าหาญของเธอที่ยอมทำทุกอย่างขนาดนั้น มันเป็นเรื่องที่สนุกมากที่ได้เห็นเธอใน Ocean’s Twelve ตอนที่เธอเอาพวกผู้ชายใส่ไปในน้ำร้อน เพราะอิซาเบลฉลาดและเซ็กซี่และทำงานของเธอได้ดีมากๆ”
สำหรับบทของฟรังซัว ทูลู เศรษฐีเพลย์บอยชาวยุโรป ซึ่งเป็นโจรชั้นครูที่ไวเหมือนปรอท รู้จักกันในชื่อ The Night Fox โซเดอเบิร์กได้เลือกนักแสดงชาวฝรั่งเศสชื่อดังระดับชาติ วินเซนท์ แคสเซล เคยรับบทใน La Haine (Hate), Elizabeth และ Shrek. ผู้กำกับฯ ได้ถามแคสเซลว่าเขาสนใจหรือไม่ที่จะร่วมทีมดาราของเรื่อง Ocean’s Twelve เมื่อพวกเขาได้พบกันในงานเทศกาลปี 2003 Cannes Film Festival; แคสเซล ตอบตกลงทั้งที่ยังไม่ได้อ่านสคริปท์ด้วยซ้ำ
“ถ้าผู้กำกับฯ อย่างสตีเวนขอให้คอยเขา เรารู้ว่าเราเชื่อเขาได้” แคสเซลกล่าว “ตั้งแต่วันแรก ทีมนักแสดงให้การต้อนรับและชวนผมเข้ากลุ่ม พวกเขารู้วิธีที่จะสนุกในการอยู่ในกองถ่ายร่วมกัน!”
“วินเซนต์ แคสเซล เป็นคนที่ผมเคยดูผลงานของเขามาสักระยะแล้ว และผมคิดอยู่เสมอว่าเขามีพลังที่ต้านไม่อยู่” โซเดอเบิร์กกล่าว “ทันทีที่เราเริ่มทำงานเขียนสคริปท์ ผมบอกกับทุกคนว่านี่คือคนที่ผมอยากให้เป็นทูลู ผมรู้สึกว่าเขาจะต้องเหมาะที่สุดกับกลุ่มนี้ และเขาจะต้องรู้สึกว่าง่ายที่ได้เล่นกับเรา และเขาก็เป็นอย่างนั้น ทุกคนรับเขาโดยทันใด เขาสนุกสนาน ฉลาดมาก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของเกมได้ทันที และนั่นเป็นเรื่องที่น่าพอใจมาก”
ผู้ที่เติมเต็มให้กับทีมนักแสดงของ Ocean’s Twelve ได้แก่ นักแสดงชาวอังกฤษ ร็อบบี้ โคลเทรน ซึ่งเข้าฉากในอัมสเตอร์ดัม และนักแสดงตลก เอ็ดดี้ อิซซาร์ด ซึ่งได้รับเลือกเป็นนักประดิษฐ์ที่ทำตัวประหลาด ในหลายๆ ฉากที่โรม; รวมทั้งเพื่อนร่วมรุ่นของโซเดอเบิร์ก เชอรี่ โจนส์ ซึ่งเคยแสดงร่วมกับจูเลีย โรเบิร์ตสใน Erin Brockovich, และเจอโรน แครบบ์ ผู้เคยแสดงใน King of the Hill และ Kafka
“เวลามีคนถามผมถึงการทำงานร่วมกับทีมนักแสดงนี้” คาร์ล ไรเนอร์กล่าว “ผมจะตอบง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นเหมือนนาก เวลากล้องหยุดเดิน พวกเขาก็จะร้องเพลง เต้นรำ หรือนั่งคุยความหลังกัน พวกเขาสนุกกันมากจนแทบคลื่นไส้เลยละ”
“มันยากที่จะแสร้งทำตัวตามสบายและแสดงความเป็นสหายอย่างที่ตัวละครเหล่านี้มีให้กัน” โซเดอเบิร์กกล่าว “และข่าวดีก็คือ ทีมนี้ไม่ต้องแสร้งทำ”--จบ--