ผถห.KBS เปิดไฟเขียวรับ "กลุ่มมิตซุย" เสริมทัพ ลุยธุรกิจน้ำตาลตลาดโลก สร้างฐานความแข็งแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 5, 2013 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--IR network ผู้ถือหุ้น บมจ.น้ำตาลครบุรี( KBS) พร้อมใจโหวตรับ"กลุ่มมิตซุย" เข้าถือหุ้น สร้างฐานตลาดน้ำตาลสู่ต่างประเทศ เบื้องต้นเข้าถือหุ้นส่วนแรก 9.1% และจะเพิ่มเป็น 16.7% เมื่อแปลงสภาพวอร์แรนต์ "ถกล ถวิลเติมทรัพย์" มั่นใจการร่วมทุนครั้งนี้ผลักดันผลงานในอนาคตขยายแข็งแกร่ง เหตุหนุนทั้งด้านเทคนิคการผลิต และการตลาด ระบุหลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติ จะเดินหน้าเร่งดำเนินการพัฒนาธุรกิจร่วมกันทันทีเพื่อเพิ่มมูลค่าให้บริษัท นายถกล ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทน้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้บริษัทร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในธุรกิจน้ำตาลกับกลุ่มมิตซุยจากประเทศญี่ปุ่น โดยทางบริษัทจะเพิ่มทุนจำนวน 100 ล้านบาทเป็น 600 ล้านบาท (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท) และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บริษัทในกลุ่มมิตซุย 2 บริษัท คือ บริษัท มิตซุย จำกัด และบริษัทมิตซุยชูการ์ จำกัด โดย 50 ล้านหุ้นแรกจะจัดสรรให้กลุ่มมิตซุยทันทีในราคาหุ้นละ 10.25 บาท และกลุ่มบริษัทมิตซุยจะได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 50 ล้านหน่วย เพื่อแปลงเป็นหุ้นสามัญใหม่อีก 50 ล้านหุ้นภายใน 2 ปี (1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่) ราคาของใบแสดงสิทธิเท่ากับ 0.05 บาทต่อหน่วยโดยมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 12.70 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทจะได้รับเงินเพิ่มทุนจากการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนส่วนแรกรวมมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นจำนวนเงินรวม 515 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้รองรับการขยายงาน การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ผลจากการเข้ามาถือหุ้นในส่วนแรกนี้กลุ่มมิตซุยจะเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 9.1ก่อนจะเพิ่มเป็นร้อยละ 16.7 ภายหลังจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์ทั้งหมด “การร่วมทุนกับกลุ่มมิตซุยในครั้งนี้ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจเพิ่มขึ้นมาก กลุ่มมิตซุยมีความพร้อมที่จะสนับสนุนบริษัทด้านเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ นอกจากนั้น ยังมีการช่วยเหลือกันทางเทคนิคทั้งด้านการผลิตและการดำเนินงาน การซื้อขายน้ำตาลระหว่างกัน การร่วมมือด้านการตลาดในการจำหน่ายน้ำตาลคุณภาพสูงในตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้บริษัท ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับสองของโลก โดยมีความได้เปรียบประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลกอย่างบราซิลและออสเตรเลีย ในเรื่องค่าข่นส่ง เพราะประเทศไทยอยู่ในเอเซีย ซึ่งมีอัตราการเติบโตของการบริโภคน้ำตาลสูง อีกทั้งระบบในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทยที่ช่วยให้การแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างโรงงานกับชาวไร่มีความยุติธรรม ปัจจัยเหล่านี้ทำให้กำลังการผลิตน้ำตาลของประเทศไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 10 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผมใคร่ขอขอบพระคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือและการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มมิตซุยในครั้งนี้ นับจากนี้เป็นต้นไปบริษัทจะเร่งดำเนินการประสานงานสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ทันที เพื่อพัฒนาธุรกิจร่วมกันอันจะเป็นการเสริมสร้างมูลค่าให้แก่บริษัทต่อไป ”นายถกล กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ