สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 6, 2013 10:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,674 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,670 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.74 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,500 บาท กับ 23,600 บาท และกลับมาปิดที่ 23,550 บาท กับ 23,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,308 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,506 คู่สัญญา และ Silver Futures 2 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท ลดลง 0.09% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.3% GFG13 ปิด 23,690 บาท และ GFJ13 ปิด 23,810บาท GF10G13 ปิดที่ 23,690 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,810 บาท SVG12 ปิดที่ 949 สัญญา Comex ปิดลดลง 2.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,673.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 15.9เซ็นต์ ที่ระดับ 31.87 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,328.09 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 47 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 96.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 99.22 จุด ปิดที่13,979.30 จุด ข่าวที่สำคัญ Kitco, TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, MarketWatch - ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ช่วงประมาณ 2 ทุ่มเศษ ไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,684 เหรียญ หลังจากนายมาซากิ ชิราคาว่า ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียวว่า เขาจะออกจากตำแหน่งในวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการปูทางให้นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เพิ่มนโยบายผ่อนคลายการเงินได้มากขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นานนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรอย่างหนาแน่น ส่งผลให้ราคาร่วงลงกลับอย่างรวดเร็วไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,666 เหรียญ - นักลงทุนต่างมองว่า การผ่อนคลายการเงินมากขึ้นจะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และหากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางญี่ปุ่นอาจขับเคลื่อนให้เทรดเดอร์จำนวนมากหวนเข้ามาสู่ตลาดทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันภาวะเงินเฟ้อ - ปริมาณการนำเข้าทองคำของจีนที่ถูกส่งมาจากฮ่องกงพุ่งขึ้น 47% ในปี 2012 ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 557.478 ตัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปริมาณความต้องการทองคำที่เพิ่มมากขึ้นในจีน นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำเมื่อวาน - นักลงทุนจะจับตาผลการรายงานวิจัยของ World Gold Council ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าจีนจะสามารถไล่ตามทันอินเดียในฐานะเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่งของโลกได้หรือไม่ ปริมาณการซื้อทองคำแท่งของจีนตั้งแต่เริ่มต้นปี 2013 มีความแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนที่จะตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อลดลงเนื่องจากราคาได้ปรับตัวสูงขึ้น และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ ซึ่งเทรดเดอร์ต่างกล่าวว่า ความต้องการในช่วงก่อนเทศกาลไม่แข็งแกร่งเท่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศและทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้บั่นทอนความน่าสนใจในทองคำลงไป - สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของยูโรโซน จึงช่วยฟื้นความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในค่าเงินยูโรได้ - ผลสำรวจของ Markit เผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิต และภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมกราคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 48.6 จากเดิม 47.2 ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นวันหลังจากที่พรรคโซเชียลลิสต์ ปาร์ตี้ พรรคฝ่ายค้านของสเปนได้เรียกร้องให้นายมาเรียโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง และเหตุการณ์การเมืองในอิตาลีที่นายแบร์ลุสโคนี่อาจกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง - ค่าเงินยูโรไม่ได้รับผลกระทบแต่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นด้วยซ้ำ แม้ว่าประธานาธิบดีฟรังซวร ออลลองด์จะออกมากล่าวตำหนิเกี่ยวกับการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร และเรียกร้องให้ประเทศในยูโรโซนตกลงกันให้ได้ถึงแผนในระยะกลางสำหรับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินยูโร - นักลงทุนทองคำกำลังวิเคราะห์ถึงข่าวที่ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐปี 2013 จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 8.45 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่มีการขาดดุลติดต่อกัน 4 ปีที่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ - สำนักงานงบประมาณทางสภาคองเกรสประมาณการณ์เมื่อวานนี้ว่า การเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.4% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการณ์ครั้งก่อนที่จะหดตัวลง 0.5% จากแรงกดดันเรื่อง Fiscal Cliff และ CBO คาดการณ์อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8% ในปี 2013 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 9% ในครึ่งปีหลังของปีนี้หากการตัดลดงบประมาณและการเพิ่มภาษีมีผลเกิดขึ้น - นายจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกสภาได้กล่าวกระตุ้นประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้เสนอความคิดเรื่องแผนการตัดลดงบประมาณแบบอัตโนมัติ ที่รู้จักกันในชื่อ Sequester ซึ่งทางสภาได้ผ่านกฎหมายดังกล่าวโดยจะมีผลเริ่มต้นตัดลดงบประมาณ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 มีนาคม ที่ปราศจากการดำเนินการทางสภาคองเกรสใดๆ ทั้งนี้ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้อนุมัติ sequester ซึ่งจะถูกนำมารวมสรุปใน Budget Control Act ของปี 2011 ที่ได้ผ่านทั้งสภาและวุฒิสภาแล้ว - เจ้าหน้าที่ด้านงบประมาณกล่าวว่า แผนงานของนายโอบามาที่จะส่งมอบงบประมาณการคลังปี 2014 ต่อสภาคองเกรสจะถูกชะลอออกไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการทำให้พิมพ์เขียวทางการคลังช้าลง เนื่องจากคณะบริหารและสมาชิกพรรครีพับลิกันมีปัญหาถกเถียงกันเกี่ยวกับภาษีและการใช้จ่าย ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสกำลังเผชิญ 2 กำหนดเส้นตายในเดือนหน้า โดย 1 มีนาคม จะเป็นการตัดลดงบประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการภายใต้งบประมาณเพื่อหยุดรอยรั่ว โดยจะหมดอายในวันที่ 27 มีนาคม และหากสิทธิ์การใช้จ่ายไม่ได้รับการขยายด้วย และบริษัทตัวแทนของรัฐบาลอาจประสบกับภาวะปิดกิจการ - ในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการประชุมอีซีบี รวมไปถึงการแถลงข่าวโดยนายมาริโอ ดรากีประธานอีซีบี และในวันศุกร์ที่จะมีตัวเลขเศรษฐกิจออกมาจากทางจีน เช่น อัตราเงินเฟ้อและ Trade balance ซึ่งตลาดจะจับตาทั้งผลการประชุมอีซีบีและตัวเลขเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 56.1 ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 55.2 ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 5.9M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ 2.7M วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำโดยภาพรวม MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideways และมีการแกว่งตัวค่อนข้างมาก ณ ขณะนี้กลับมายืนบริเวณ 1,670 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ในช่วงนี้ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทางสหรัฐอเมริกาไม่มีอะไรมากนัก และคาดว่าราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวในกรอบดังกล่าวจนถึงช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อรอข่าวเรื่องของ Fiscal Cliff หรือ Sequester ในช่วง 1 มีนาคม และข่าวการขยาย Debt Ceiling ในช่วงวันที่ 19 มีนาคม ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเริ่มเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,660 — 1,680 เหรียญ โดยเป็นการเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ ยังแนะนำให้นักลงทุนทำการ Short Position เมื่อราคาขึ้นมาชนกรอบด้านบนบริเวณ 1,675 — 1,680 เหรียญโดยประมาณ Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,620 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,800 บาท Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,810 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,900 บาท Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,660 - 1,680 เหรียญ แนะนำให้ Short Position เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นและซื้อปิดบริเวณ 1,662 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) เก็งกำไรในทิศทางขาลง ถือ Position เป็น Short ประมาณ 10% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง เป็นลักษณะ Wait and See รอสภาพของตลาดให้ชัดเจนกว่านี้ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ