โฮม ซิตี้ ทุ่ม 5 พันล้านผุด มิราเคิลหัวหิน เปิดอาณาจักรไฮ-เอนด์แห่งใหม่

ข่าวอสังหา Wednesday February 6, 2013 14:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--เดอะบิ๊กพอตเตอร์ โฮม ซิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ ผุดโครงการ มิราเคิล หัวหิน มูลค่า 5,600 ล้าน รับที่อยู่อาศัยแนวสูงบูม เปิดตัวคอนโดและวิลล่าหรูกว่า 1200 ยูนิต สร้างอาณาจักรไฮเอ็นด์แห่งใหม่ในหัวหิน คาดเฟสแรกสร้างเสร็จ 2557 ตั้งเป้ายอดจอง ทะลุ 50% ปีแรก เหตุหัวหินเมืองตากอากาศในฝันของนักท่องเที่ยวอาเซียน นายนิวัติ ลมุนพันธ์ ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร บริษัท โฮม ซิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ มิราเคิล หัวหิน เปิดเผยว่า โฮมซิตี้ ฯถือเป็นบริษัทน้องใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย แต่จากประสบการณ์ของผู้บริหารระดับสูงซึ่งเคยเป็นผู้บริหารงานขายของ Beijing ZhiLi Hang Real Estate Co.,Ltd. ที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูงที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามใน จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ทำให้ โฮม ซิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ มั่นใจที่จะนำเสนอทางเลือกแห่งการอยู่อาศัยและพักผ่อนในบรรยากาศของเมืองพักตากอากาศแบบไฮเอ็นด์ ด้วยอาณาจักรส่วนตัวคุณภาพระดับโลกที่ชื่อว่า มิราเคิลหัวหิน จากแนวโน้มความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูง และบ้านพักตากอากาศในลักษณะบูติคเฮ้าส์ ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มไฮ-เอนด์ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่นิยมเดินทางมาพักผ่อนในชะอำและหัวหิน ที่มีระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพ และสถานที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้กับสนามบิน ทำให้การเดินทางสะดวก ติดกับทะเลด้านหลัง ขนาดพื้นที่ของโครงการจำนวนกว่า 41 ไร่ ได้แบ่งสัดส่วนให้เป็นอาคารชุดที่พักอาศัย จำนวน 8 อาคาร สูง 7,10,14,16 ชั้น และเป็นวิลล่าหรูอีก 18 หลัง ที่ออกแบบให้ทุกอาคารหันหน้าเข้าหากัน มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นทะเลสาบส่วนตัว เพื่อการพักผ่อนเหนือระดับ “ผู้พักอาศัยสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกระดับหรูอย่างอิสระในอาณาจักรของ มิราเคิลได้ตามความฝัน ทีมสถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์ของเราล้วนมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการต่างๆในหลายประเทศที่มีชื่อเสียงด้านที่อยู่อาศัยแนวสูง ทำให้เรามั่นใจในการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้มีประโยชน์สูงสุด ที่สามารถสร้างความเป็นส่วนตัวและสะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี พิเศษด้วยสกายเลาจน์ที่ สามารถเห็นวิวทะเล 360 องศา เน้นการตกแต่งสไตล์ Tropical Modern และครั้งแรกกับเกาะส่วนตัวกลางคอนโดบนพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวกว่า 32,000 ตร.ม. เราเชื่อว่าการออกแบบทุกพื้นที่ในมิราเคิล คือการจัดวางให้ผู้ที่มีรสนิยมใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเป็นส่วนตัวในบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริง” นายนิวัติกล่าว นอกจากนี้มิราเคิล ยังได้ออกแบบให้มี Roof Garden พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าบนอาคารชุด พร้อม Sky Lounge ที่สามารถชมวิวทะเลได้ 360 องศา ซึ่งโดยสารด้วยลิฟท์ส่วนกลางภายนอกอาคารชุดตลอด 24 ชั่วโมง และห้องชุดเพนท์เฮ้าส์ Sky Unit ที่เชื่อมระหว่างอาคาร เพื่อตอบสนองความต้องการแห่งการพักผ่อนส่วนตัวอย่างมีรสนิยม ซึ่งนับเป็นจุดสำคัญของมิราเคิล หัวหินที่แตกต่างจากโครงการอสังหาฯขนาดใหญ่อื่นๆที่เคยมีมา สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นนายวิวัฒน์มองว่าเป็นลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่ชื่นชอบการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวในบรรยากาศรีสอร์ทบูติคส์ ตลอดจนรูปแบบใหม่ของการลงทุนด้วยการซื้อห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมหรู ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า กำลังเป็นที่นิยมของนักลงทุนสังหาริมทรัพย์จากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของธุรกิจ Condotel ระดับสากลที่เข้ามาจัดระบบบริหารสำหรับผู้พักอาศัยที่ใช้ห้องพักไม่นานในตลอดทั้งปี และยินดีเปิดให้เช่าในช่วงเวลาที่ตนไม่ได้พักอาศัย นับเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่มิราเคิลมองไว้ โดยราคาเริ่มต้นของโครงการห้องชุดมิราเคิลอยู่ 1.79 ล้านบาท ต่อห้องขนาด 29 ตร.ม. ซึ่งมีห้องใหญ่ที่สุดขนาด 4 ห้องนอน พี้นที่ 420 ตร.ม. ที่มีราคาสูงสุดราว 20 กว่าล้านบาท เพื่อตอบสนองสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่รองรับการพักผ่อนแบบครอบครัวได้เป็นอย่างดี ส่วนวิลล่านั้นราคาเริ่มต้นที่10 ล้านต้นๆ โดยgalcid-v’โครงการจะเปิดให้จองตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556 และจะแล้วเสร็จภายในปี 2557 ตั้งเป้าว่าจะสามารถเปิดจองได้เกิน 50% ภายในปี 2556 เพราะเชื่อว่าเป็นมิติใหม่ของสร้างฝันให้เป็นจริงสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการพักตากอากาศอย่างมีรสนิยม ซึ่งขณะนี้สำนักงานขายและห้องตัวอย่างเปิดให้บริการแล้วสถานที่ก่อสร้าง โทร. 032-890-888 และที่สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02-1006-888 และหากเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โฮมซิตี้ฯได้เตรียมโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูงริมน้ำขนาดใหญ่ไว้ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา เชื่อว่าจะมีการเปิดตัวที่สร้างมิติใหม่ของการพักอาศัยอีกครั้งหนึ่งในเมืองใหญ่อย่างแน่นอน นายนิวัติกล่าวทิ้งท้าย ทางด้าน นายเถา หยาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารผู้มีประสบการณ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แนวสูงในต่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในฮ่องกง ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีการแข่งขันของอสังหาริมทรัพย์แนวสูง ที่สูงที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เชื่อว่ามิราเคิล คือคำตอบของการใช้ชีวิตที่หรูหรา บนพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบมาให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบายในสังคมที่สามารถเลือกหาที่ว่างส่วนตัวได้อย่างพอเหมาะพอดี บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 250 ล้านบาท และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หัวหินแห่งนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ทะเลหัวหินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในตลาดนักท่องเที่ยวเอเชีย จะเห็นได้จากการเปิดตัวโครงการคอนโดมีเนียมระดับไฮเอนด์หลายโครงการในพื้นที่ หัวหิน ชะอำที่ผ่านมา และเมื่อเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีขึ้นในปี 2558 นี้ เชื่อว่าตลาดความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูง จะเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น โดยนายเถาได้พูดถึงปัจจัยเสริมเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2554 ที่เมืองพักตากอากาศที่เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครกลายเป็นสถานที่พักพิง สำหรับผู้ประสบภัย ประกอบกับ การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของโลกจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจาก หลายส่วนปรับตัวได้กับความไม่แน่นอนของของวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรปและอเมริกา โดยเงินทุนของโลกไหลเข้าเอเชียมากยิ่งขึ้น จะเป็นผลบวกต่อตลาดอสังหาในเมืองไทยอย่างแน่นอน โดยคาดว่า มูลค่าอสังหาฯที่จะเปิดตัวใหม่และเปิดขายในปี 2556 นี้จะมีมูลค่าสูงถึง 7 แสนล้าน จากการขยับตัวของผู้เล่นรายใหญ่ของไทย สอดคล้องกับรายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกล่าสุดของ บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่านักลงทุนชาวเอเชียยังคงมีทัศนคติที่เป็นบวกเกี่ยวกับความกังวลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2556 นี้ ผลสำรวจส่วนใหญ่ หรือ 79% ยังคงแสดงความพึงพอใจอย่างสูงที่จะลงทุนในเอเชีย ซึ่งนักลงทุนชาวเอเชียส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจอยู่กับโอกาสในเป้าหมายการลงทุนแบบดั้งเดิม ตามเมืองหลักๆของประเทศจีน โดยที่มีประเทศสิงคโปร์เป็นเป้าหมายสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาในปี 2558 นักลงทุนในภูมิภาคคาดการณ์ว่าจะมีนักลงทุนข้ามชาติเพิ่มมากขึ้น เพราะประชาคมอาเซียนจะถูกรวมเข้าเป็นตลาดเดียวกันด้วยจำนวนประชากรทั้งหมดมากกว่า 600 ล้านคน นอกจากนี้บางประเทศในภูมิภาคนี้ได้เปิดประตูให้กับนักลงทุนต่างชาติ จึงทำให้มีโอกาสในการลงทุนมากมาย และยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนชาวเอเชียส่วนใหญ่ หรือ 70% มีความเป็นไปได้ที่จะขยายฐานการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ