กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน วางเป้าปี 2548 มุ่งเน้นยกระดับมาตรฐานตลาดรับสร้างบ้าน ทั้งการพัฒนาสถาปนิก วิศวกร รวมถึงการจัดการองค์กร เร่งสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค พร้อมเตรียมผนึกกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ลดต้นทุนการก่อสร้าง หวังดันตลาดโต 10,000 ล้านบาทภายในปี 2550 ด้านกิจกรรมปีหน้าจัดต่อเนื่อง ทั้งดูงานต่างประเทศ สัมมนา และงานแสดงสินค้ารับสร้างบ้าน 2005
นายปราโมทย์ ธีรกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า นโยบาย ในปี 2548 ยังคงมุ่งเน้นต่อวัตถุประสงค์การจัดตั้งสมาคมฯ คือการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับต่อผู้บริโภครวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน หลังจากที่มีการสำรวจในตลาดรับสร้างบ้านพบว่ายังมีผู้ประกอบการบางกลุ่ม และกลุ่มผู้รับเหมารายย่อยที่ขาดจรรยาบรรณในการให้บริการ ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน อาทิ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน การละทิ้งงาน รวมถึงขาดการบริการหลังการขาย ฯลฯ
ปัจจุบันสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมีสมาชิกที่เป็นบริษัทรับสร้างบ้านจำนวน 17 บริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มที่เริ่มก่อตั้งสมาคมฯ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก้อสร้าง 2 บริษัท มีความเห็นร่วมกันว่าต้องมีการพัฒนาสมาชิกในสมาคมร่วมกันในหลาย ๆ ด้านเพื่อให้เกิดความเป็นมาตรฐานและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการเพิ่มขีดความสามารถ และทักษะต่าง ๆ ให้กับกลุ่มสมาชิกสมาคม อาทิ การฝึกอบรมเพิ่มพูนทักษะและความรู้ให้กับสถาปนิก วิศวกร เจ้าหน้าที่และพนักงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดระบบการบริหารงานองค์กร โดยการเชิญผู้มีความรู้ในด้านต่าง ๆ มาอบรม หรือจัดในรูปแบบของงานสัมมนา การไปศึกษาดูงานทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานในแต่ละองค์กรมีความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และสามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่สอง เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้จักตลาดรับสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้น ผ่านการจัดงานแสดงสินค้ารับสร้างบ้าน และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ในปี 2548 สมาคมฯ จะร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างคุณภาพ โดยร่วมกันประเมินยอดรวมการใช้วัสดุและการสั่งซื้อของสมาชิกตลอดทั้งปี ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถนำไปวางแผนการผลิต ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเป็นการช่วยประหยัดต้นทุนของทุกฝ่าย ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาบ้านไม่ปรับตัวสูงเกินไป และสมาชิกตลาดรับสร้างบ้านจะสามารถแข่งขันกับโครงจัดสรรขนาดใหญ่ได้ รวมทั้งจะช่วยให้ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านในปีหน้า ไม่ต้องแบกรับภาระจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันในอนาคต โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรหลายกลุ่มที่พร้อมจะให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน และหากตลาดรับสร้างบ้านสามารถพัฒนาในด้านความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค พร้อมทั้งขยายฐานทางด้านการตลาดได้มากขึ้นภายในปี 2550 ตลาดรับสร้างบ้านจะมีมูลค่ารวมเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท จากปี 2547 ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท
“สมาคมฯ เราประกาศชัดเจนเรื่องยกระดับมาตรฐานของตลาดรับสร้างบ้านที่ต้องการพัฒนาตลาดรวมร่วมกัน โดยปัจจุบันนี้บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมต่างจับมือกันเร่งพัฒนาเรื่องของมาตรฐาน บุคลากร การจัดการองค์กร และการให้บริการ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น และเห็นข้อแตกต่างระหว่าง
การสร้างบ้านโดยใช้บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ กับ ผู้รับจ้างรายย่อย และสมาคมเองได้เชิญชวนไปยังบริษัทรับสร้างบ้านอีกหลายรายที่ยังมิได้เป็นสมาชิก และสนใจจะมาร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพขององค์กรและตลาดรับสร้างบ้านให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยการสมัครเป็นสมาชิกนั้นจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมกำหนดไว้ ซึ่งในอนาคตแบรนด์รับสร้างบ้านจะมีความชัดเจนมากขึ้น ผู้บริโภคจะสามารถแยกความแตกต่างได้เอง ขณะที่กลุ่มผู้รับเหมารายย่อยหากยังต้องการแข่งขันในตลาดนี้ก็ต้องเร่งพัฒนาตัวเองให้มีมาตรฐานด้วยเช่นกัน” นายปราโมทย์ กล่าว
นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2548 สมาคมฯ จะมีกิจกรรมหลัก ๆ ประกอบไปด้วย การเดินทางไปดูงานก่อสร้างในประเทศออสเตรเลีย การไปเยี่ยมชมระบบการก่อสร้างของสนามบินสุวรรณภูมิ การจัดสัมมนาทางวิชาการในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการจัดงานแสดงสินค้ารับสร้างบ้าน 2005 ซึ่งจะมีการจัดงาน 2 ครั้งคือ ครั้งแรกในช่วงต้นปีโดยจะจัดในรูปแบบที่ไม่ใหญ่มากนัก มีบริษัทรับสร้างบ้านร่วมออกงานประมาณ 10-15 บริษัท ส่วนสถานที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ ครั้งที่ 2 เป็นงานใหญ่ของสมาคมฯ จะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม 2548 คือ งานแสดงสินค้ารับสร้างบ้าน 2005 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โดยมีการเพิ่มขนาดของพื้นที่จากเดิมอีก 1 เท่าตัว คอนเซ็ปต์ของงานจะเป็นการรวมตัวของทั้งผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสถาบันการเงิน ซึ่งจากความสำเร็จของงานในปี 2547 คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภค และผู้ร่วมออกงานได้เป็นอย่างดี
กรุณาติดต่อ คุณภัทธิรา บุรี หรือ คุณฤดี ธรรมเทียร
บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด
โทร.0-2937-4518-9 โทรสาร.0-2937-4596
Email : patthira@pr-one.com / ruedee@pr-one.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--