กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--สนพ.
คณะอนุกรรมการเอฟทีมีมติให้ค่าเอฟทีประจำเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2548 นี้ ยังคงเท่าเดิมที่ระดับ 43.28 สตางค์/หน่วย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา กฟผ. สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการเอฟทีวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548 ที่ประชุมได้มีการพิจารณาค่าเอฟทีประจำเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2548 และมีมติเห็นชอบไม่ปรับขึ้นค่าเอฟที ทำให้ค่าเอฟทีสำหรับเรียกเก็บในงวดนี้ยังคงอยู่ในระดับ 43.28 สตางค์ต่อหน่วย โดยค่าไฟที่ประชาชนต้องจ่ายอยู่ที่ระดับ 2.69 บาทต่อหน่วยเท่าเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้บริหาร ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าได้ผลระดับหนึ่ง จึงสามารถบรรเทาผลกระทบค่าเอฟทีลงได้ และ คณะอนุกรรมการฯ ก็ได้ให้ กฟผ. และ ปตท.ร่วมกันบริหารต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าอย่าง ต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ สาเหตุหลักของการไม่ปรับขึ้นค่าเอฟที เนื่องจากการดำเนินงานที่ผ่านมาของ กฟผ. ได้มีการบริหารการผลิตไฟฟ้าและการใช้เชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี โดยเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำ และลดการใช้เชื้อเพลิงที่มีต้นทุนสูงลง ซึ่งได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ ก๊าซธรรมชาติ และลิกไนต์ ได้มากขึ้น ทดแทนการต้องใช้น้ำมันเตาผลิตไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สามารถลดภาระค่าไฟลงได้
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการดูแลประชาชนในการพิจารณาค่าเอฟทีรอบต่อๆ ไป กระทรวงพลังงาน ยังได้มอบหมายให้ กฟผ. และ ปตท. ไปดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของ กฟผ. ให้มีการบริหารการผลิตไฟฟ้าและการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่นเดียวกับ ปตท. ผู้ดูแลการจัดหาก๊าซธรรมชาติเพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้า ก็ได้มอบหมายให้ไปดูแลการจัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบัน และอนาคตที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลนขึ้นได้ และเป็นการรักษาเสถียรภาพให้กับราคาค่าไฟฟ้า--จบ--