กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,673 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,675 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.77 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,550 บาท กับ 23,650 บาท และกลับมาปิดที่ 23,500 บาท กับ 23,600 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 5,036 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,342 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 5 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.5% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 1% GFG13 ปิด 23,750 บาท และ GFJ13 ปิด 23,880บาท GF10G13 ปิดที่ 23,760 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,880 บาท SVG12 ปิดที่ 949
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 5.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,678.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.2เซ็นต์ ที่ระดับ 31.877 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,328.09 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 2 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 96.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 7.22 จุด ปิดที่13,986.52 จุด
ข่าวที่สำคัญ
Kitco, TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, MarketWatch
- เมื่อวานนี้ ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตของเยอรมนีประจำเดือน ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ดีกว่าที่คาดการณ์ และเป็นตัวบอกใบ้ว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่างเยอรมนีได้หวนเข้าสู่การฟื้นตัวแล้ว
- อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีและสเปนขยับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่านักลงทุนยังคงไม่ลดความกังวลในปัญหาของทั้งสองประเทศรวมไปถึงปัญหาทางการเมือง
-ในโซนเอเชีย ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงดำเนินตามทางที่จะเพิ่มการหมุนเวียนเงินในประเทศ ซึ่งนั่นหมายถึงการทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง
- สมาชิกบอร์ดของบีโอเจได้ออกมากล่าวว่า การควบคุมให้เงินเยนอ่อนค่าลงนั้นเป็นวิธีการที่มีเหตุผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น ถือได้ว่าการพิมพ์ธนบัตรจำนวนมากเข้าสู่ระบบการเงินของญี่ปุ่นเป็นส่วนสนับสนุนทิศทางขาขึ้นของราคาทองคำ
- คอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า ปริมาณความต้องการทองคำของจีนที่แข็งแกร่งได้มาช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของอินเดีย ซึ่งประชาชนชาวจีนกำลังมีฐานะดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณความต้องการทองคำยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับจีนไม่สามารถเติมเต็มความต้องการจากปริมาณทรัพยากรที่ตนเองมีอยู่ ธนาคารกลางจีนจึงกำลังเพิ่มการสำรองทองคำ ส่งผลต่อเนื่องให้ปริมาณการนำเข้าทองคำยังคงอยู่ในระดับสูงที่อาจเป็นการสนับสนุนราคาทองคำ
- ธนาคารกลางของอินเดียกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ทางธนาคารกลางอาจจำกัดการนำเข้าทองคำของธนาคารต่างๆ ด้วย "มาตรการขั้นเด็ดขาด"
- ในวันนี้จะมีการประชุมนโบายของอีซีบีและบีโออี รวมไปถึงการแถลงข่าวของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี โดยมีการคาดการณ์ว่าทั้งอีซีบีและบีโออีจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่เป็นที่แน่นอนว่าจะมีการจับตาการแถลงข่าวของนายดรากีในเวลา 20.30 น.อาจส่งสัญญาณบางอย่างในเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการกล่าวแถลงข่าวสั้นๆ
- นักกลยุทธ์ด้านสกุลเงินจากคอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า ในความเป็นจริงแล้ว ในนโยบายของนายดรากีไม่เคยแสดงความเห็นในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเลย หรือเรียกง่ายๆ ว่า เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนไม่ใช่เป้าหมายของนโบายการเงินของนายดรากี
- มีการคาดการณ์ว่า นายดรากีจะโฟกัสในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้นในการประชุม G20 ในวันจันทร์หน้า นอกจากนี้ เขาอาจถูกถามในเรื่องที่ว่า เขารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของ ธนาคารมอนเต้ ปาสชี่ ธนาคารอิตาลีที่เป็นปัญหาขณะนี้
- บัญชีงบดุลของอีซีบีลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เงินที่อีซีบีให้ภาคธนาคารกู้ยืมลดลงเช่นกัน และนี่อาจเป็นประเด็นที่นายดรากีอาจใช้เป็นเหตุผลเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย
- เมื่อมีสภาวะที่เรียกว่า "สงครามสกุลเงิน" (Currency Wars) เกิดขึ้น นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีดูจะอยู่ในบทบาทของผู้คัดค้านโดยอ้างมโนธรรม
- นอกจากการประชุมอีซีบีในวันนี้แล้ว ยังมีการประมูลพันธบัตรของสเปนและฝรั่งเศสอีกเช่นกัน ซึ่งจะเป็นตัวทดสอบความเชื่อมั่นของตลาด หากมีการตอบรับที่แข็งแกร่งจากนักลงทุนอาจส่งผลให้สกุลเงินยูโรยังคงแข็งแกร่งในระยะสั้น
- กลุ่มผู้นำยุโรปจะกลับมาคุยเจรจาเรื่องงบประมาณในการประชุมอียูซัมมิทวันที่ 7 - 8 กุมภาพันธ์นี้ในกรุงบรัสเซลส์ โดยจะเป็นการเจรจาเกี่ยวกับงบประมาณปี 2014 - 2020 ซึ่งการเจรจาเมื่อเดือนพฤศจิกายนยังไม่ได้ข้อตกลง
นายจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกสภาสหรัฐ กล่าวไม่พอใจปธน.บารัค โอบามาที่เลื่อนแผนการตัดลดงบประมาณอัตโนมัติที่เรียกกันในชื่อของ Sequester โดยกล่าวว่า ควรมีการตัดลดงบประมาณอื่นๆ ที่แตกต่างออกไปแทนที่การชะลอแผนดังกล่าว และต้องไม่รวมการเพิ่มภาษีเข้าไป
สมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐสภาและวุฒิสภา รวมถึงคณะกรรมธิการด้านภาคทหาร เร่งกระตุ้นข้อเสนอเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดลดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ โดยตัดลดภาคส่วนแรงงานตลอดจนการลดเงินเดือนและค่าใช้จ่ายทางรัฐสภา
CBO กล่าวว่า การลดยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และนักการเมืองต้องเรียกร้องให้มีมาตรการรัดเข็มขัดมากขึ้น
นายทิมโมธี ไกธเนอร์ เลขาธิการคลังคนก่อนที่เพิ่งลาออก ถูกกำหนดให้กลับเข้าเป็นสมาชิกเลขาธิการด้านต่างประเทศ
อ้างอิงจากโพลสำรวจที่เพิ่งออกมาเช้านี้พบว่า ชาวอเมริกันยังคงมองเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคตเป็นเชิงลบอย่างมาก และเสียงส่วนใหญ่คิดว่าต้องใช้เวลาหลายปีในการจะกลับเข้าสู่สภาพปกติ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 5.9M ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 2.6M
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 368,000 ตำแหน่ง คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ 361,000 ตำแหน่ง
- ECB Press Conference
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำแกว่งตัวกรอบแคบเคลื่อนตัวในกรอบ 1,668 — 1,678 เหรียญ ในลักษณะSideway up ในกราฟระยะสั้นรายชั่วโมง และปิดตลาด Comex ที่ระดับ 1,678 เหรียญ โดยที่ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวที่ระดับ 29.80 บาท/ดอลลาร์ และ ไม่แข็งค่าลงไปมากนัก ทำให้ราคาทองคำสามารถเริ่มจะทรงตัวที่ระดับ 23,550 — 23,660 บาท โดยวันนี้มีตัวเลข Unemployment Claims ที่คาดการณ์ว่าผู้ขอรับสวัสดิการจะลดลงประมาณ 7,000 ราย ตลาดยังรอดูความชัดเจนของภาคยูโรโซนในขณะที่ค่าเงินยูโรเริ่มมีการปรับตัว สวนทางกับราคาทองคำ ขณะนี้การนำเข้าทองคำจากจีนน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งต่อการปรับตัวสูงขึ้นของ ราคาทองคำในช่วง 1 - 2 วันนี้ ทาง MTS GOLD ยังแนะนำให้เก็งกำไรสั้นๆ โดยให้เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวและขายที่บริเวณ 1,685 เหรียญ ซึ่งในระยะกลางยังคงเป็นทิศทางขาลง และให้ทำ Short Position ที่บริเวณ 1,685 เหรียญขึ้นไป
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,680 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,800 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,000 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,668 - 1,685 เหรียญ ถ้าราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,685 เหรียญยังคงแนะนำให้ทำ Short Position
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
แนะนำทำ Short Position ที่บริเวณ 1,685 เหรียญ
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
Wait and See รอความชัดเจนของตลาด ถ้าราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,695 เหรียญได้จึงจะเริ่มซื้อ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง