กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--วธ.
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 ณ เวทีกลางแจ้ง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในการเป็นประธานเปิดการจัดงานวันมวยไทยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "มวยไทย" เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เมื่อปี2553 และครม.มีมติเมื่อปี 2554 เห็นชอบให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันมวยไทย โดยถือเป็นวันที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือสมเด็จพระเจ้าเสือเสด็จขึ้นครองราชย์ ด้วยพระองค์ทรงมีพระปรีชาสมสามารถด้านมวยไทยสูงยิ่ง จึงได้จัดกิจกรรมเนื่องใน "วันมวยไทย" ประจำปี 2556 ขึ้น ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้านศิลปะแม่ไม้มวยไทย ที่เป็นศิลปะประจำชาติให้เกิดความภูมิใจกับประชาชนทั้งประเทศและเผยแพร่เกียรติภูมิของประเทศที่มีมรดกวัฒนธรรมสู่สากล นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีกิจกรรมทั้งหมด 2 ส่วน ได้แก่ 1.พิธีบวงสรวง "สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8" (สมเด็จพระเจ้าเสือ) เพื่อน้อมนำลึกพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อวงการมวยไทย อีกทั้งจัด"พิธีไหว้ครูมวยไทย" โดยครูมวย 5 สาย ได้แก่ มวยโคราช มวยลพบุรี มวยไทย มวยท่าเสาและพระยาพิชัยดาบหัก มวยพลศึกษา การรำไหว้ครูจากนักมวยที่มีชื่อเสียง กิจกรรมเสวนา "มาตรฐานกระบวนท่าศิลปะแม่ไม้มวยไทย" โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการมวยไทย และ2.ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 จะจัดการแข่งขันชกมวยไทย "Thai Fight" และกิจกรรมเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อาทิ การจัดนิทรรศการ การสาธิตและการแสดงทางวัฒนธรรม ณ บริเวณวัดมหาธาตุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยังมีการจัดทัวร์อารยธรรม "ตามรอยพระเจ้าเสือ" โดยพาไปสักการะและชมตำหนักพระเจ้าเสือ ณ วัดตึก ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังมวยไทย ณ วัดประดู่ธรรม
ดร.สมพร แสงชัย ครูมวยไทยสายพระยาพิชัยดาบหัก กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ครูมวยแต่สายอยากให้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการทำให้เยาวชนได้เห็นถึงความสำคัญของศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยเฉพาะการไหว้ครูมวย ซึ่งแต่ละสายมวยมีความแตกต่างกัน รวมถึงมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ชัดเจน สามารถเต็มเติมซึ่งกันและกันได้ อย่างไรก็ตาม ตนกังวลว่าในอนาคตข้างหน้าศิลปะแม้ไม้มวยไทยจะเริ่มสูญหายไป เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันบนเวทีต่างๆมีการจำกัดการออกอาวุธกันมาก เช่นการใช้หัว ซึ่งปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว อีกทั้งในขณะนี้การแข่งขันมวยไทยได้รับอิทธิพลจากนักพนันเป็นอย่างมาก ซึ่งจะมองเห็นการแข่งขันชกมวยมุ่งไปที่ผลประโยชน์ในทางธุรกิจมากขึ้น จนทำให้มองเห็นมองคุณค่าทางศิลปะน้อยลง
สุดสาคร ส.กลิ่นมี นักมวยThai Fight กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดงานในวันนี้ขึ้น เพราะทำให้คนไทยทั้งประเทศเห็นความสำคัญของมวยไทย ศิลปะที่คนไทยสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังเกิดความประทับใจที่ตนได้มีโอกาสพบปะครูมวยหลายท่าน ซึ่งนักมวยทุกคนต้องเคารพ เพราะทุกครั้งที่ขึ้นชกจะรำลึกถึงครูบาอาจารย์เสมอ และในฐานะที่ตนเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ก็รู้สึกภาคภูมิใจที่เห็นมวยไทยพัฒนาไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีชาวต่างชาติจำนวนมากเข้ามาเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งตนอยากให้คนรุ่นหลังอนุรักษ์ศิลปะนี้ไว้ต่อไป