ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยผลการดำเนินงาน ปี 55 กำไรกว่า 683 ล้านบาท เติบโต 37.7%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 8, 2013 10:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยผลการดำเนินงาน ปี 55 กำไรกว่า 683 ล้านบาท เติบโต 37.7% สินทรัพย์ 122,427 ล้านบาท เติบโต 50.7% สินเชื่อ86,248 ล้านบาท เติบโต 56.7 % และแผนปี 56 ขยายสินเชื่อเพิ่มไม่น้อยกว่า 25% นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2555 ว่า ปี 2555 นับเป็นปีที่โดดเด่นอีกปีหนึ่งของธนาคาร แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยความท้าทาย ทั้งเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศ แต่ด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน และการปฏิบัติงานด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี ทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีที่ผ่านมา ผลประกอบการ ปี 2555 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกำไรของธนาคารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาจากรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 32.5% มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 22.5% และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มสูงถึง 85.2% สินทรัพย์ของธนาคารเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 ธนาคารมีสินทรัพย์ 122,427 ล้านบาท เติบโต 50.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน ส่งผลให้ Asset Size ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 13 ของระบบธนาคารพาณิชย์ทั้งสิ้น 16 แห่ง เป็นไปตามพันธกิจของธนาคาร ที่มุ่งมั่นเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงและมีอัตราการเติบโตเป็น 1 ใน 3 ของธนาคารพาณิชย์ประเทศไทย เงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 86,248 ล้านบาท เติบโต 56.7% จากสิ้นปีก่อน เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 116% และด้วยนโยบายการให้สินเชื่อที่ให้ความสำคัญต่อคุณภาพของสินเชื่อและการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ ทำให้ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Gross NPL) อยู่ที่ 1.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของระบบที่ 2.4% เงินฝากและเงินกู้ยืมอยู่ที่ 84,993 ล้านบาท เติบโต 46.2% การเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตรงใจต่อความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม สาขาของธนาคารมีทั้งสิ้น 65 สาขา เพิ่มขึ้นจาก 43 สาขาเมื่อปี 2554 หรือเพิ่มขึ้น 22 สาขา แบ่งเป็นสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 48 สาขา และสาขาในภูมิภาคอีก 17 สาขา อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงถึง 15.6% และเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงถึง 16.2% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์ที่มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 11.9% เงินกองทุนที่แข็งแกร่งนี้จะสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และสร้างความหลากหลายทางธุรกิจของธนาคารได้ในอนาคต นางศศิธร กล่าวถึงแผนงานในปี 2556 ว่าธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 25% และจะยังคงรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรให้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% ต่อปี อีกทั้งเร่งเพิ่มรายได้และค่าธรรมเนียม จากธุรกิจ Bank assurance บริการด้านต่าง ๆ ที่ธนาคารได้พัฒนาและเปิดให้บริการแล้ว เช่น ATM, Internet Banking, Mobile Banking, Mobile Branch เป็นต้น รวมทั้งการขยายสาขาเป็น 76 สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินให้แก่ลูกค้า ในปี 2556 ธนาคารได้พัฒนาช่องทางการให้บริการทางอิเล็คทรอนิกส์หลายบริการ และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดตัวบริการ Internet Banking ภายใต้ชื่อ LH Bank Speedy ซึ่งเป็นบริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ต ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้นแบบ Double Security หรือความปลอดภัยแบบใช้รหัส 2 ชั้น พร้อม Display ส่วนตัว ที่สามารถตั้งค่า โปรไฟล์ความเป็นส่วนตัวที่ลูกค้าผู้ใช้เท่านั้นที่รู้ และยังมีบริการทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) ซึ่งจะเปิดให้บริการไตรมาสที่ 1 ปีนี้ สำหรับบริการอื่น ๆ ที่จะตามมาได้แก่ ช่องทางบริการทางการเงินบนรถตู้เคลื่อนที่ (Mobile Branch) ที่เปรียบเสมือนสาขาเคลื่อนที่ของธนาคาร ที่จะให้บริการรับฝาก-ถอนเงิน, บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ และบริการตู้ ATM โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยให้บริการ และยังมีบริการที่อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากขึ้น ได้แก่ บริการฝาก-ถอน-โอน เงินสด โดยไม่ต้องกรอกฟอร์ม และบริการตู้ ATM แบบ 3 in 1 รูปแบบใหม่ของธนาคาร ที่ลูกค้าจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ บริการ ATM บริการรับฝากเงินและบริการปรับสมุดบัญชีเงินฝาก เป็นต้น นอกจากบริการที่กล่าวมาแล้วธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยสูงที่น่าสนใจ ได้แก่เงินฝากไม่ประจำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของธนาคาร ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3% ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความคล่องตัวสูง เพราะสามารถเบิกถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และใช้บริการผ่านบัตร ATM LH Bank ได้ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากอื่น ๆ เช่น เงินฝากประจำ 3 — 5 เดือน ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.85% เงินฝากประจำ 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3.15% นางศศิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการทำหน้าที่เป็นธนาคารทางเลือกเพื่อเข้าไปช่วยเติมเต็มและตอบสนองทุกความต้องการด้านการเงินให้กับลูกค้า โดยจะเน้นการสร้างเครือข่ายเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME รวมถึงการพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ของบุคลากรในการปรับตัวเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบในปี 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ