กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,679 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,679 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.80 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,600 บาท กับ 23,700 บาท และกลับมาปิดที่ 23,550 บาท กับ 23,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,886 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,898 คู่สัญญา และ Silver Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.3% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.8% และ Silver Futures ปริมาณเท่าเดิม GFG13 ปิด 23,620 บาท และ GFJ13 ปิด 23,750บาท GF10G13 ปิดที่ 23,630 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,760 บาท SVG12 ปิดที่ 949
สัญญา Comex ปิดลดลง 7.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,671.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 47.5 เซ็นต์ ที่ระดับ 31.40 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,329.90 ตัน (ซื้อเข้า 1.81 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 79 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 95.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 42.47 จุด ปิดที่13,944.05 จุด
ข่าวที่สำคัญ
Kitco, TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, MarketWatch
เมื่อคืนนี้ก่อนหน้าการประชุมอีซีบีจะเริ่มต้นขึ้นนั้น สัญญาทองคำตลาด COMEX สามารถดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1,680.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ในที่สุดตอนท้ายตลาดก็มีการปรับตัวลดลงมา 0.2% แตะที่ระดับ 1,674.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับสัญญาทองคำส่งมอบเดือนเมษายนนั้น ปิดตัวที่ระดับ 1,673 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เฉลี่ยปรับตัวลดลง 0.45% ในตลาด COMEX
การที่ทองคำปิดปรับตัวลดลง เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี เตือนว่าการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของยูโซน
นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่ อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 2.5% ในปีนี้
ในขณะเดียวกัน การประกาศตัวเลข Jobless Claims ของสหรัฐ ก็ปรับตัวดีขึ้น โดยมีคนขอสวัสดิการคนว่างงานลดลง 5,000 ตำแหน่ง ที่ระดับ 366,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 371,000 ตำแหน่ง จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ในเชิงเทคนิค นักวิเคราะห์มองว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาลง จากการที่ทองคำไม่สามารถฝ่าแนวต้านแตะระดับ 1,700 เหรียญได้ อีกทั้งทองคำยังได้แตะระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,653 เหรียญในสัปดาห์นี้
วันนี้นักลงทุนและตลาดต่างจับตามองข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจของจีน ประกอบไปด้วยรายงานงบดุลการค้าและค่าเงินเฟ้อที่จะประกาศในวันนี้ ซึ่งคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งภายในประเทศ แม้ว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้จะเป็นเรื่องยากในการคาดเดาปริมาณความต้องการทองคำก็ตาม
ตลาดรับรู้ถึงความเห็นต่างๆ ของนายดรากีเกี่ยวกับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่ยังคงดำเนินอยู่ และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมองว่าเป็นความเห็นที่ใช้ไม้อ่อนมากกว่าความเห็นในเดือนมกราคม ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหลุดระดับ 1.3500 เป็นครั้งแรกในรอบ 8 วัน
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงจากการที่นายดรากีหวนกลับไปสู่การไม่ได้พูดอะไรหวือหวา โดยนายดรากิกล่าวแต่เพียงว่า อีซีบีกำลังจับตาถึงผลกระทบของการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินยูโรได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในยูโรโซน และอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ อาจสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานต่างๆ
นอกจากนี้ดรากิยังกล่าวถึงสภาพเศรษฐกิจว่า ยังเห็นถึงความอ่อนแอในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2012 และช่วงเริ่มต้นปี 2013 ซึ่งการฟื้นตัวของยูโรโซนจะเริ่มขึ้นในปลายปี 2013 ทั้งนี้ อีซีบีคาดการณ์ระดับอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงต่ำกว่า 2% ในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นายอีวาน สมาชิกเฟด กล่าวกับสำนักข่าว CNBC ว่า มาตรการ QE ควรหยุดก่อนที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 7% ถึงแม้ว่าเฟดมีนโยบายที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ แต่เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าอัตราคนว่างงานก็จะยังไม่ตรงตามเป้าหมาย 6.5% ในปีนี้ได้ จนกว่าจะเข้าสู่กลางปี 2015 จึงทำให้เฟดอาจหยุดมาตรการ QE
การดำรงตำแหน่งเป็นประธานธนาคารกลางอังกฤษคนใหม่ของนายคาร์นี่ ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอังกฤษจะหลีกเลี่ยงการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ธนาคารกลางอังกฤษยังตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดิมที่ระดับ 0.5%
การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวในประเทศอินเดีย ซึ่งหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของอินเดีย ชี้แจงว่า แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปีของอินเดีย น่าจะออกมาเพียง 5% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวที่หนักที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในรอบทศวรรษของอินเดีย
มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า ขณะที่หลายประเทศพยายามจะให้สกุลเงินของพวกเขาอ่อนค่าลง กลับทำให้สงครามทางสกุลเงิน (Currency War) มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น คล้ายเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในยุค 1930 และกลุ่มผู้วางนโยบายองค์กรต่างกำลังสร้างความมั่นใจว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชนะจากเหตุการณ์นี้
จากรายงานของภาคธนาคาร แสดงให้เห็น ความสมดุลทางอำนาจของญี่ปุ่น ซึ่งผู้วางนโยบายองค์กรของญี่ปุ่นค่อยๆนำนโยบายลักษณะ Dovish มาใช้เพื่อกำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวส่งผลให้เข้าใกล้สงครามทางสกุลเงิน
โรเบิร์ต รูบิน อดีตเลขานุการกระทรวงการคลังของคลินตัน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า ข้อเสนอการตัดลดค่าใช้จ่ายทุกภาคส่วนอัตโนมัติที่ยื่นเสนอต่อสภาคองเกรส เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมากทางด้านกฎหมาย
นอกจากนี้ โรเบิร์ต รูบิน กล่าวว่า สิ่งที่เรียกกันว่า Sequester กำหนดขึ้นให้ส่งผลกระทบในเดือนหน้า และจะกลายเป็นประเด็นในการต่อสู้เพื่อควบคุมสภาวะ Red Ink ของสหรัฐโดยสภาคองเกรสและทำเนียบขาว ซึ่งจะเป็นการอนุมัติมาตรการสำหรับกฎหมายที่อาจก่อให้เกิดการตัดลดค่าใช้จ่ายโดยปราศจากการปฏิบัติให้เกิดผล
เอนด้า เคนนี่ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวว่า ข้อตกลงระดับหนี้สินของธนาคารไอร์แลนด์กับทางอีซีบีนั้น อาจช่วยลดความจำเป็นในการกู้ยืมลง 2 หมื่นล้านยูโรในงวดหน้า และการตัดลดยอดขาดดุลทางการเงินบางส่วนเป็นจำนวน 1 พันล้านยูโรต่อปี
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว 371,000 ตำแหน่ง ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 366,000 ตำแหน่ง
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Trade Balance ตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว -48.7B คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ -45.7B
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในกรอบ 1,665 — 1,675 เหรียญ ในขณะที่เมื่อวานนี้มีการแกว่งตัวขึ้นไปและก็มีการแกว่งตัวปรับหลุดลงมาด้านล่าง จากการที่นายดรากีให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับค่าเงินยูโรที่แข็งค่าเกินไปมีผลทำให้ค่าเงินยูโรและราคาทองคำปรับตัวลดลงตาม โดยเมื่อคืนไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,662 เหรียญ และดีดกลับมาที่ระดับ 1,680 เหรียญอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดีราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงในปลายตลาด Comex และเช้านี้ตลาดฮ่องกงเองเปิดมาที่ระดับ 1,668 เหรียญ มีปริมาณการซื้อขายอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,665 — 1,678 เหรียญ ในลักษณะ Sideway ในกรอบแคบๆดังกล่าว โดยแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะขายก่อนโดยการทำ Short Position ที่ระดับ 1,677 — 1,680 เหรียญ ถ้าราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,675 เหรียญได้ น่าจะปรับตัวลดลงมา โดยในคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจ Trade Balance คาดการณ์ว่าจะออกมาดีขึ้น ประมาณ 3B ซึ่งถ้าดีตามที่คาดการณ์อาจมีผลกดดันราคาทองคำให้ลดลง ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาทองคำเริ่มตามข่าวค่อนข้างมากมีการแกว่งตัวแรงในช่วงตลาด Comex และมีแรงซื้ออย่างกลับอย่างหนาแน่นบริเวณ 1,662 เหรียญ
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,680 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,620 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,800 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบแคบ 1,665 - 1,675 เหรียญ แนะนำให้ทำ Short Position บริเวณแนวต้าน
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
แนะนำถือครอง Short Position ประมาณ 10% หาโอกาสทำ Short Position เมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
Wait and See รอความชัดเจนของตลาด
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง