กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน “นมแม่แฟร์ 2005 สังคมดีเริ่มที่นมแม่” ซึ่งจัดโดย กลุ่มนมแม่ ณ ห้องรีเจนซี่ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว
เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ที่กลุ่มอาสาสมัครผู้หญิง ในนาม “กลุ่มนมแม่” ที่รณรงค์และส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน และได้รับการตอบรับอย่างดี และในปีนี้กลุ่มนมแม่ได้จัดงานนมแม่แฟร์ 2005 สังคมดีเริ่มที่นมแม่ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นการขยายผลของการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งหลายครอบครัว หลายหน่วยงาน ทั้งสื่อมวลชน สังคมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
แพทย์หญิงสุวิมล ชีวมงคล ประธานคณะกรรมการบริหาร กลุ่มนมแม่ กล่าวย้ำว่า “การวางรากฐานที่ดีแก่ชีวิตเด็กตั้งแต่แรกเกิด เป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ตลอดจนบุคคลรอบข้าง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่เด็กทุกคนควรได้รับ เพื่อโอกาสพัฒนาชีวิตที่ดี ทั้งนี้เพราะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ใช่เป็นเพียงการให้อาหารเพื่อให้ลูกอิ่ม และทำให้เขาเติบโตเท่านั้น แต่การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นเรื่องของกระบวนการส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็กอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยเอื้อโอกาสให้กลายเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดี ความเป็นผู้มีจริยธรรม อดทน อดกลั้น และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น กลายเป็นบุคคลที่ดีของสังคมต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนในครอบครัว และคนรอบข้างจะต้องช่วยกันเพื่อช่วยให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ”
ความคิดเห็นของผู้ร่วมเสวนาในงาน “นมแม่แฟร์ 2005 สังคมดีเริ่มที่นมแม่” ในครั้งนี้ อย่างพิธีกรสาวที่ตอนนี้กลายเป็นคุณแม่ ชญาดา มัสยวณิช กล่าวว่า “ โบให้นมลูกเองมาถึง 18 เดือน โดยเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่เป็นพื้นฐาน มันเริ่มจากเราที่จะเป็นผู้ให้แก่เขา สังคมจะดีได้ นอกจากร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังรวมถึงสภาพจิตใจที่ดีด้วย โบจะเน้นการให้ความรักความอบอุ่นกับลูก เวลาให้นมเราจะกอดเขา ทำให้เขามั่นใจ นอกจากนี้ยังฝึกเขาโดยการพาไปวัด รู้จักธรรมมะ ให้ธรรมมะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเขา เพื่อที่เวลาอยู่ในสังคมเขาจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้” ด้านคุณแม่นักบริหาร กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร คุณแม่คนเก่งเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวทานนมแม่จนถึง 7 เดือน เนื่องจากต้องทำงาน ทำให้ต้องหาวิธีการว่าลูกต้องได้กินนมแม่อย่างไร โดยใช้วิธีปั๊มนมและให้คนขับรถเอานมมาส่งลูกที่บ้านและค่อยๆ ให้นมลูกห่างขึ้น และยังกล่าวอีกว่า “เชื่อว่าธรรมชาติยิ่งใหญ่ที่สุด ถูกต้องและสมบูรณ์ ถ้าเราทำตามระบบที่ธรรมชาติสร้าง ร่างกายก็จะกลับสู่ปกติเร็ว นมแม่สามารถให้ได้ตลอดเวลา และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่ธรรมชาติมอบให้แก่เราที่จะต้องให้แก่ลูก แม่ทุกๆ คนต้องคิดอย่างนั้น คนเป็นแม่ต้องมีความพยายาม เพราะเป็นหน้าที่ เราเคยมีสิ่งนี้เพราะเราได้จากแม่ เราก็มีหน้าที่ที่ต้องส่งต่อให้ลูก ถ้าอยากได้สังคมที่ดี เราก็ต้องทำ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากถ้ามีความพยายามที่จะทำ” ส่วนนางแบบสาวที่ตอนนี้รับบทคุณแม่ไปซะแล้วอย่าง ชลิตา บีดิงเกอร์ ฝากบอกถึงคุณแม่ทุกคนว่า “ไม่ต้องกลัวเรื่องปัญหาของหน้าอก เพราะการให้น้ำนมแก่ลูกนั้นเป็นการรักษาทรงที่ดี” คุณแม่ยังสวยยังกล่าวอีกว่า “สังคมที่ดีต้องเริ่มต้นจากครอบครัวซึ่งเป็นที่ที่เด็กๆ จะมีความสุข ความอบอุ่น สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งถ้าเด็กๆ ได้รับสิ่งดีๆ จากครอบครัวแล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะออกไปทำสิ่งที่ดีให้กับสังคมได้” สำหรับคุณแม่มือใหม่ พิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา กล่าวว่า “ ยอมรับเลยว่า สังคมดีเริ่มที่นมแม่ เพราะเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพแข็งแรงและจิตใจที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่แม่มีให้ลูก ต่อจากนี้ไปต้องเลี้ยงดูให้ความรัก ความอบอุ่น และการศึกษา ความรักความใกล้ชิดที่เกิดจากการให้นมลูก จะเป็นการสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ให้ลูก ”
แม้แต่คุณแม่ ๆ ทั้งหลายที่ลูก ๆ เติบโตกันแล้ว ยังมองเห็นประโยชน์ของนมแม่ ลลิล ล่ำซำ คุณแม่ลูกสองวัย 7 ขวบและ 5 ขวบ กล่าวว่า “ด้วยความที่ตนเองเป็นคนเลี้ยงลูกและให้นมลูกด้วยตนเอง เห็นด้วยกับน้ำนมที่เราให้ลูกทานนั้นมีส่วนในการสร้างให้เขากลายไปเป็นบุคคลที่ดีของสังคม เมื่อเขายังเด็กเราให้ทานนมแม่เขาได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จากเรา พอโตขึ้นถึงขนาดนี้ เขายังได้รับความรักความอบอุ่น การเอาใจใส่จากครอบครัว เชื่อแน่ว่า เขาจะไม่ได้เป็นปัญหาและไม่ได้สร้างปัญหาให้สังคมแน่” หรือแม้แต่คุณพ่อที่รักของลูก ๆ ธีรภาพ โลหิตกุล เผยว่า “ การให้นมแม่ เป็นการให้ความรักที่บริสุทธิ์ การที่เด็กได้กินนมแม่ อยู่ในอ้อมกอดของแม่ ทำให้เขาอบอุ่น มั่นใจ รู้จักเป็นผู้ให้ เหมือนแม่ที่ให้เรามาตลอด ผมสามารถพูดได้เลยว่า ทุกคนที่กินนมแม่ จะจำรสชาติของนมแม่ไม่ได้ มีเหตุการณ์หนึ่งที่ในชีวิตผมต้องจดจำไว้ ภรรยาผมนมคัดแล้วลูกไม่ยอมดูด ผมจึงช่วยดูด รู้สึกแปลก ๆ และได้รู้ว่ารสชาติของน้ำนมมันอุ่น ๆ มัน ๆ ทำให้ผมรับรู้ถึงคำว่าอิ่มอุ่น” ด้านว่าที่คุณแม่ ดร. แคทลีน มาลีนนท์ กล่าวว่า “ สังคมดีเริ่มที่นมแม่ ได้ยินแล้วนึกถึงสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งซึ่งเกิดขึ้นระหว่างแม่กับลูกยาวนานนับแต่วัยเด็ก แม้ลูกโตขึ้นก็ยังจำสัมผัสนั้นได้ และส่งผลให้แม่กับลูกรักและผูกพันกันมากขึ้น ยิ่งตอนนี้กำลังจะเป็นคุณแม่ก็ยิ่งตื่นเต้นและดีใจ เริ่มหาหนังสือมาอ่าน เข้าไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อการปรับตัว เพราะตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่กลัวเสียทรง มั่นใจว่าจะยิ่งทำให้รูปร่างของแม่กลับสู่ปกติเร็วขึ้น เพราะเกลือแร่และสารอาหารต่างๆจะถ่ายทอดไปยังลูกโดยตรง ”
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย อาทิ มุมให้นมแม่, มุมให้คำปรึกษาปัญหานมแม่, คลินิกนมแม่, นิทรรศการความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมถึงนิทรรศการความก้าวหน้าของการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของกลุ่มนมแม่ และหน่วยงานต่าง ๆ , การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และ การพัฒนาเด็ก ไม่เพียงแต่มีมุมของคุณแม่เท่านั้น ยังมีมุมสนุก ๆ ของคุณลูกที่มาร่วมงานด้วยอาทิ มุมศิลปะ, มุม Kids Zone และมุมพักผ่อนของน้อง ๆ
ถึงเวลาแล้ว ที่การเลี้ยงลูกต้องเป็นทีม ทั้งพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ทุกคนในครอบครัว ต้องช่วยกัน เพื่อช่วยให้เด็กไทยทุกคนสามารถเจริญเติบโต อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อโอกาสการสร้างสรรค์สังคมไทยที่ดีและมีคุณภาพต่อไป
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, ชลธิชา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--