กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,671 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,671 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.79 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,550 บาท กับ 23,650 บาท และกลับมาปิดที่ 23,500 บาท กับ 23,600 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 4,430 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,655 คู่สัญญา และ Silver Futures 5 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.1% และ Silver Futures เพิ่มขึ้น 1 % GFG13 ปิด 23,710 บาท และ GFJ13 ปิด 23,830บาท GF10G13 ปิดที่ 23,700 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,820 บาท SVG12 ไม่มีปริมาณการซื้อขาย
สัญญา Comex ปิดลดลง 4.40 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,666.90 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ ที่ระดับ 31.44 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,326.89 ตัน (ขายออก 3.01 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 11 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 48.92 จุด ปิดที่ 13,992.97 จุด
ข่าวที่สำคัญ
Kitco, TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, MarketWatch
- ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways เนื่องจากตลาดรอช่วงตรุษจีน โดยราคาเมื่อวันศุกร์ได้ปรับลดลง จากตัวเลขสหรัฐ Trade Balance ออกมาดีขึ้น และตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตัวเลข Trade Balance สหรัฐที่ดีขึ้น แสดงถึงสหรัฐน่าจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยในไตรมาสที่ 4ยอดขายปลีกของสหรัฐอาจจะเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. เนื่องจากตัวเลขภาคแรงงานที่ออกมาดีขึ้น
- ตัวเลขจากสภาทองคำโลกที่เผยมา ยืนยันว่า ธนาคารกลางต่างๆ เป็นผู้เข้าซื้อทองคำในเดือน ธ.ค. ร่วมกับตัวเลขของไอเอ็มเอฟที่ออกมาในเดือน ม.ค. แสดงว่า ธนาคารกลางรัสเซีย ตุรกี และคาซัคสถานเพิ่มการถือครองทองคำ
- กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำ 0.23% หรือ 3.01 ตัน ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,326.89 ตัน และถ้าคิดทั้งหมดในปีนี้ SPDR ได้ถือครองลดลงเกือบ 21 ตัน
- CME Group ได้ลด Initial Margin และลด Maintenance Margin มีผลวันที่ 12 ก.พ.
- สมาคมทองคำของจีน หรือ CGA เผยว่าจีนมีการผลิตแตะระดับสูงสุด 403 ตันในปี 2012
- Reuters กล่าวว่า ตัวเลขงบดุลการค้าของจีนที่ดีขึ้น สื่อว่าจีนกำลังฟื้นตัว และไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้กดดันราคาทองคำ
- Kitco กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจีนที่ออกมาซบเซา ทำให้จีนไม่ต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัด เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าตัวเลขงบการค้าจะแข็งแกร่ง
- สัปดาห์นี้ตลาดจีนจะปิดทำการในวันตรุษจีน อาจมีการซื้อสถานะอย่างเบาบาง เนื่องจากความต้องการจากจีนชะลอลงระหว่างเทศกาลตรุษจีน อาจจะทำให้ราคาลงไปทดสอบแนวรับได้
- จีนได้แซงหน้าสหรัฐกลายเป็นประเทศที่มีขนาดการซื้อขายใหญ่ที่สุดในปีที่แล้ว เมื่อวัดจากยอดรวมการส่งออกและนำเข้าสินค้า
- นายโอบามากดดันให้รัฐสภาสร้างสมดุลในการปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายและการปฏิรูปภาษี ในการเจรจาเพื่อปรับลดยอดงบประมาณขาดดุลลง
- ค่าเงินยูโรได้อ่อนค่าอีกครั้ง ต่ำกว่าระดับสำคัญ 1.34 ดอลลาร์ต่อยูโร แต่ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงมาเช่นกัน
- รัฐมนตรีคลังยุโรปจะร่วมกันหาแนวทางการจัดการในการเอาชนะวิกฤต โดยจะหารือพรุ่งนี้เกี่ยวกับเงินช่วยเหลือแก่ไซปรัสและกรีซ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองในอิตาลีและสเปน
ส่วนการประชุม G20 ที่จะมีรัฐมนตรีคลัง และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง จะประชุมในปลายสัปดาห์นี้
- ความไม่สงบทางการเมืองในอิตาลีและสเปน เป็นสิ่งทดสอบในยุโรปใน 2-3 สัปดาห์ถัดไป
โดยผลสำรวจของอิตาลี คาดว่าพรรคฝ่ายซ้ายที่มีนายเบอลุสโคนี่จะชนะการเลือกตั้ง ที่มีบทบาทต่างจากนายมอนติ ติ อย่างไรก็ตามผลสำรวจล่าสุดบอกว่า นายเบอซานี่ ผู้นำพรรคประชาธิปไตย อาจจะชนะนายเบอลุสโคนี่ได้ หากร่วมมือเป็นพรรคร่วมกับนายมอนติ
- ส่วนสเปนเตรียมที่จะเผยตัวเลขงบขาดดุล ซึ่งตลาดจับตาเพื่อดูการฟื้นตัวจากภาวะหดตัว รวมถึงการประท้วงการคอรัปชั่นของนายราฮอย
- นายกรัฐมนตรีราฮอย ของสเปนเปิดเผยข้อมูลรายได้และการเสียภาษีของตัวเองบนเว็บไซต์ของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาข่าวอื้อฉาวเรื่องการทุจริต แต่ช่วยลดความสงสัยในตัวเขาได้เล็กน้อยเท่านั้น
- ขณะที่ธนาคารต่างๆ ในยูโรโซนเริ่มที่จะชำระเงินคืนช่วยเหลือฉุกเฉินจากอีซีบีในเดือน ก.พ. ปี 2012 รอบ 2 ทำให้ตลาดจับตาเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัด และการที่ค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าในการประชุมอีซีบีครั้งถัดไป
- การประชุม EU Summit ได้บรรลุข้อตกลงในการตัดลดงบประมาณยูโรโซนสำหรับ 7 ปี โดยได้ตัดลดงบประมาณลง 3% (1.2 หมื่นล้านยูโร) จากงบประมาณก่อนหน้า ในส่วนโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน งบบริหาร และงบวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จาก เหลือ 9.6 แสนล้านยูโร
- ปัจจัยที่ต้องจับตามากที่สุด คือ ความเป็นไปได้ในการถูกปรับลดเครดิตของยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งทองคำจะได้ประโยชน์จากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง เนื่องจากความกังวลของค่าเงินที่อ่อนค่า โดยงบดุลการค้ารายเดือนของญี่ปุ่นขาดดุลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1981
- ค่าเงินเยนแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่เดือนมี.ค. 2011 เนื่องจากรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น นายอาโสะกล่าวว่า อัตราการอ่อนค่าของเงินเยนเร็วมากกว่าที่คาดการณ์
- นายคิคูโอะ อิตาวา หนึ่งในตัวเต็งที่คาดว่าจะได้รับคัดเลือกเป็นผู้ว่าการบีโอเจแทนนายชิรากาวา เรียกร้องให้บีโอเจเปลี่ยนกฎระเบียบด้านนโยบายการเงินเพื่อให้เกิดการผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น
- ขณะที่ธนาคารต่างๆในยูโรโซนเริ่มที่จะชำระเงินคืนช่วยเหลือฉุกเฉินจากอีซีบีในเดือน ก.พ. ปี 2012 รอบ 2 ทำให้ตลาดจับตาเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัด และการที่ค่าเงินยูโรกลับมาแข็งค่าในการประชุมอีซีบีครั้งถัดไป
- กลุ่มเฮดจ์ฟันด์และผู้จัดการฝ่ายการเงินเพิ่มขนาดการถือครองสถานะ Long Position ในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สและสัญญาออพชั่นของทองคำ รวมไปถึงซิลเวอร์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้กระตุ้นความต้องการในกลุ่มโลหะมีค่า
- และวันนี้มีประชุมยูโรกรุ๊ป ประชุมเรื่องแผนการช่วยเหลือสเปน กรีซ และไซปรัสของอียูและไอเอ็มเอฟ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Trade Balance ออกมาที่ -38.5B จากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้ว -48.7B
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบแคบ อยู่ในกรอบประมาณ 1,665 — 1,675 เหรียญ โดยที่ข่าวเศรษฐกิจทางสหรัฐตัวเลข Trade Balance ออกมาดีขึ้นอย่างมากก็มีส่วนทำให้ราคาทองคำถูกกดต่ำลงมาบ้าง ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับยูโร โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาประมาณ 100 pips มาอยู่ที่ระดับ 1.3385 ดอลลาร์/ยูโรโดยประมาณ ในขณะที่ SPDR เริ่มมีการขายทองคำออกมาอีกครั้งหนึ่งประมาณ 3.01 ตัน จึงมาเหลือในขณะนี้ที่ระดับ 1,326.89 ตัน ซึ่งก็เป็นจุดที่น่าสนใจในการจับตาเช่นเดียวกัน โดยภาพรวมในสัปดาห์นี้ตลาดคงให้ความสนใจสำหรับ 2 ประเด็น คือเรื่องของความวุ่นวายในอียูที่เริ่มกลับมากดดันในค่าเงินยูโร รวมทั้งคำพูดของประธานอีซีบี และอีกประเด็นในประเทศไทยก็คือการที่รัฐมนตรีคลังเริ่มมีความเห็นเข้ามาในแบงค์ชาติในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ในเชิงเทคนิคโดยภาพรวมจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำดูจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และไม่สามารถทะลุ 1,680 เหรียญไปได้ ด้านบนดูจะมีแนวต้านค่อนข้างมาก ในขณะที่แนวรับด้านล่างมีเพียงสองระดับ ได้แก่ 1,660 เหรียญและ 1,650 เหรียญ แนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังให้นักลงทุนในกรณีที่มีสถานะ Long Position อยู่เยอะ เหตุว่าถ้าราคาหลุดระดับ 1,660 เหรียญลงมา น่าจะมี stop selling ลงมาหนาแน่น หมายถึงจะทำให้ราคาทองคำตกลงมาอย่างรวดเร็ว MTS Gold ยังแนะนำให้นักลงทุนโดยหลักการบริหารสถานะพอร์ทให้สมดุลกับสภาพรวม margin หรือสภาวะตลาด แนะนำให้ทำ short มากกว่าที่จะถือ long หรือท่านที่ถือ long มากๆ ควรลดการถือครองในสถานะ long ลง ในเชิงเทคนิคจะเห็นได้ว่า กราฟรายวันจะมีลักษณะเหมือนสามเหลี่ยมชายธงที่มีโอกาสจะเบรกขึ้นและเบรกลง ซึ่งมองว่าโอกาสแล้วมีโอกาสที่จะดีดลงมีมากกว่า
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,680 บาท
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,900 บาท
Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,660 — 1,675 เหรียญ ยังแนะนำให้เก็งกำไรในทิศทางขาลง หาจังหวะขายบริเวณ 1,672 เหรียญ โดยมีจุด Stop Buy Back ที่ระดับ 1,682 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ถือครองเป็น Short Position 5 — 10% ไม่มากนัก
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เป็นลักษณะรอจังหวะความชัดเจน และเป็นฝ่ายรอการลงทุนเมื่อลงหรือขึ้นมากกว่า อย่าลืมว่า นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่งอาจเป็นได้ทั้ง Long Position หรือ Short Position
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง