กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (mai) 21 บริษัทประกาศผลการดำเนินงาน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2547 กำไรเพิ่มขึ้น 66% นำโดย ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) กำไร
เพิ่มขึ้น 476% อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ICT) กำไรเพิ่มขึ้น 325% และแอล.วี.เทคโนโลยี
(LVT) กำไรเพิ่มขึ้น 250% ด้านผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน กำไรเพิ่ม 33%
นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (mai) กล่าวว่า บริษัทจดทะ
เบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ จำนวน 21 บริษัท นำส่งงบการเงินไตรมาส 3 ประจำปี 2547 สิ้นสุด
วันที่ 30 กันยายน 2547 มีผลกำไรรวม 263 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 66 เมื่อเทียบกับงวด
เดียวกันของปีก่อน โดยในงวดไตรมาสที่ 3 นี้ บริษัทใน mai ล้วนมีผลกำไรทุกบริษัท
“บริษัทจดทะเบียนใน mai ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีศักยภาพใน
การเติบโตสูง ซึ่งจาก ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จะเห็นได้ว่ามีบริษัทที่มีผลประกอบ
การที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีบริษัทที่มีกำไรเกินกว่า 100% ถึง 4 บริษัท ได้แก่
1. บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) กำไรสุทธิ 42.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
งวดเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 476 เนื่องจากมีการขยายตลาดเพิ่มขึ้นมาก โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้า
ขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้น ทำให้ผลกำไรขั้นต้นสูงขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”ผู้จัดการ mai กล่าว
2. บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ICT) กำไรสุทธิ 9.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
งวดเดียวกันของปีก่อนถึง ร้อยละ 325 เนื่องจากบริษัทมีรายได้เพิ่มจากธุรกิจจัดจำหน่าย
กว่าร้อยละ 30และมีรายได้จากการรับเหมาติดตั้งระบบข่ายสายสัญญาณในสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้ง
การจัดทำบัตรสมาร์ตการ์ดที่ใช้ในการผ่านพิธีการศุลกากร
3. บมจ. แอล.วี.เทคโนโลยี (LVT) กำไรสุทธิ 12.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด
เดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 250 เนื่องจากบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นจากการขยายการให้บริการใน
โครงการใหญ่ได้มากขึ้น เช่น ในอิหร่านและ ปากีสถาน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร
ไม่ได้ผันแปรตามยอดขาย โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวลดลงจากร้อยละ 31 ของยอดขายเหลือเพียงร้อยละ
5 ในปีนี้
4. บมจ. พรพรหมเม็ททอล (PPM) มีกำไรสุทธิ 11.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด
เดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 117 เนื่องจากบริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งลูกค้า
เดิมก็ยังสั่งซื้อในปริมาณที่สูงขึ้นตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมของลูกค้า ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการ
ขายและบริหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าโดยมีสัดส่วนที่ลดลงเมื่อเทียบกับยอดขาย
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก ปี 2547 บริษัทจดทะเบียนใน mai มีกำไร
สุทธิรวมทั้งสิ้น 628 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 33 โดยมีบริษัทที่สามารถ
ทำกำไรสูงสุด 3 อันดับแรกนี้ ได้แก่ 1. บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) มีผลกำไรทั้งสิ้น
91.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 187 2. บมจ. ไทยมิตซูวา (TMW) มีกำไรทั้งสิ้น 91.76
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และ 3. บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) มีผลกำไรทั้งสิ้น 64.71
ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28
นายวิเชฐ กล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ ในงวดไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทที่มีผลการดำเนินงาน
กลับจากขาดทุนเป็นกำไร ถึง 3 บริษัท ได้แก่ 1. บมจ. ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO) 2. บมจ.
ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) (CHUO) และ 3. บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK)
ในขณะที่บริษัทที่มีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนกลับจากขาดทุนเป็นกำไรถึง 6 บริษัท
ได้แก่ บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น (IRCP) บมจ.แม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH)
บมจ.เชอร์วู๊ด เคมิคอล (SWC) บมจ.แพค เดลต้า (PD) บมจ.ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA)
บมจ.โฟคัส เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น (FOCUS)
นายวิเชฐกล่าวเสริมว่า “ ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนใน mai มีจำนวน 21 บริษัท และมี
บริษัทที่อยู่ระหว่างการเสนอขายหุ้นและขออนุญาตเสนอขายหุ้นในปีนี้อีกประมาณ 10 บริษัท จึงเชื่อว่า
บริษัทจดทะเบียนใน mai จะมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ”
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน mai สามารถศึกษาข้อมูลจากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือ
เข้าดูข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนใน mai ได้ ทาง www.settrade.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ได้ที่ S-E-T Call center โทร. 0 2229 —2222 เอกสารประกอบข่าวตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ฉบับที่
22 /2547 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2547
ตารางแสดงผลการดำเนินงานของบจ. ใน mai
สำหรับงวดไตรมาสที่ 3 และ 9 เดือน ปี 2547
หน่วย : ล้านบาท
ชื่อบริษัท ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
2547 2546 %เปลี่ยนแปลง 2547 2546 %เปลี่ยนแปลง
1. บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) 42.06 7.3 476.16 91.82 32.01 186.85
2. บมจ.อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น (ICT) 9.57 2.25 325.33 30.74 4.47 587.7
3. บมจ.แอล.วี.เทคโนโลยี (LVT) 12.39 3.54 250 30.82 21.14 45.79
4. บมจ.พรพรหมเม็ททอล (PPM) 11.26 5.19 116.96 34.89 21.12 65.2
5. บมจ.ธนมิตร แฟคตอริ่ง (DM) 5 2.66 87.97 13.47 8.5 58.47
6. บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อิควิปเมนท์ (L&E) 14.49 7.95 82.26 23.52 13.05 80.23
7. บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) 3.29 2.41 36.51 7.28 1.62 349.38
8. บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช 23.54 20.39 15.45 26.15 31.51 -17.01
คอร์ปอเรชั่น (IRCP)
9. บมจ.ไทยมิตซูวา (TMW)* 40.72 38.53 5.68 91.76 62.86 45.98
10. บมจ.ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO) 29.73 -2.8 N.A. 39.15 11.76 232.91
11. บมจ.ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) (CHUO) 8.09 -7.33 N.A. 10.23 -6.64 N.A.
12. บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) 4.83 -10.82 N.A. -10.37 -22.42 N.A.
13. บมจ.ปิโก้ (ไทยแลนด์) (PICO) 4.87 5.64 -13.65 25.95 17.14 51.4
14. บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) 15.19 19.24 -21.05 64.71 50.37 28.47
15. บมจ.แม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH) 7.18 9.37 -23.37 31.21 45.97 -32.11
16. บมจ.เชอร์วู๊ด เคมิคอล (SWC) 12.94 17.29 -25.16 36.39 51.8 -29.75
17. บมจ.อาร์ เค มีเดีย โฮลดิ้ง (RK) 6.25 8.32 -24.88 30.34 21.4 41.78
18. บมจ.แพค เดลต้า (PD) 8.84 16.7 -47.07 33.01 50.47 -34.59
19. บมจ.ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA) 2.62 5.95 -55.97 -2.41 28.93 -108.33
20. บมจ.บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) 0.44 0.86 -48.84 5.15 0.61 744.26
21. บมจ.โฟคัส เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น (FOCUS) 0.18 5.67 -96.83 14.05 25.52 -45.02
รวม 263.48 158.31 66.43 627.84 471.19 33.25
* เป็นงวดไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 47 และปรับเป็นงวดสะสม 9 เดือน
เพื่อการเปรียบเทียบ เนื่องจากงวดบัญชีประจำปีของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.--จบ--