กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ชี้ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าต่อยอดการผลิต-ตลาด หลังมีสัญญาณการขายรถในสหรัฐฯดีม.ค.โต14%

ข่าวทั่วไป Tuesday February 12, 2013 11:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ชี้ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าต่อยอดการผลิต-ตลาด หลังมีสัญญาณการขายรถในสหรัฐฯดีม.ค.โต14% ชี้ผลพ่วงเศรษฐกิจโลกเริ่มส่อแววสดใส ค่ายยุโรปเร่งผลิต-ลงทุน เล็งจีนตลาดสำคัญ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.)กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์กถึงยอดขายรถในสหรัฐฯว่า มีสัญญาณเริ่มอย่างสดใสตั้งแต่ต้นปี โดยรถยนต์ใหม่ในเดือนมกราคม 56 เพิ่มสูงขึ้น 14% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 55 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมนี้ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้อัตราการว่างงานจะยังไม่ดีขึ้นและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาของประเทศ ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยอุตสาหกรรมชิ้นส่วน อุปกรณ์ยานยนต์ไทย จำเป็นติดตามข้อมูล เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งด้านวัตถุดิบการผลิต เทคโนโลยีการผลิตและการออกแบบ รวมถึงเพิ่มการวิจัยและพัฒนา ค้นคว้าเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกับองค์กรธุรกิจจากประเทศอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ พัฒนาการผลิตสินค้า ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ของไทยให้มีคุณภาพ ทันสมัยและเป็นที่รองรับการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์ได้เป็นอย่างดีในอนาคต “การเพิ่มขึ้นของยอดขายในสหรัฐฯ นับว่าเกินความคาดหมาย ซึ่งยอดขายรถบรรทุกเพิ่มขึ้นมากเป็นสัญญาณว่ากลุ่มธุรกิจก่อสร้างเริ่มจะมองเศรษฐกิจในแง่ดีในปี 2555 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ดีที่สุดใน 5 ปีที่ผ่านมาของการขายรถยนต์ โดยมียอดรวม 14.5 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึง 13% และผู้อยู่ในวงการคาดว่าปี 2556 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15.5 ล้านคัน ส่วนหนึ่ง เพราะผู้บริโภคมีความต้องการซื้อเพื่อทดแทนรถเก่า ซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2555”นางศรีรัตน์ กล่าว อัตราการเพิ่มของยอดขายแบ่งตามค่ายรถยนต์ ดังนี้ จีเอ็มมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดสามารถทำยอด ขายในเดือนมกราคม 2556 ได้ถึง 194,700 คัน หรือ เพิ่มขึ้น16%โดยรถปิกอัฟซึ่งเป็นธุรกิจหลักส่วนอีก 4 ค่ายรถของเอมริกันเซฟโรแลต, คาดิลแลค, GMC และ บิวอิคล้วนมีอัตราการขายเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก ส่วนค่ายฟอร์ดมอเตอร์ค่ายรถใหญ่อันดับสองมียอดขาย166,500 คัน หรือ เพิ่มขึ้น22%และไครสเลอร์ค่ายรถที่เล็กที่สุดของดีทรอยต์ มียอดขาย 117,700 คัน เพิ่มขึ้น 16% โตโยต้าค่ายรถญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา มียอดขาย 157,700 คัน เพิ่มขึ้น 26.6 ฮอนด้ามียอดขาย 93,600 คัน หรือ เพิ่มขึ้น12.8%และนิสสันมียอดขาย 80,900 คัน เพิ่มขึ้น2% ในขณะที่ค่ายรถดังจากเยอรมนี โฟล์คสวาเกนและ ออดิซึ่งทำยอดขายได้ดีในปีที่แล้ว รวมกันแล้วเพิ่มขึ้นถึง 30% กลับแผ่วลงในเดือนมกราคม 2556 โดยยอดขายเพิ่มขึ้นเพียง7.1% สำหรับในยุโรปสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ตประเทศเยอรมัน แจ้งว่า สมาคมยานยนต์เยอรมันเผยแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์นั่งและรถบรรทุกในเยอรมันนีจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 โดยเฉพาะในลาดนอกยุโรป ทั้งในแง่ของการส่งออกและการลงทุนผลิต จากสัญญาณการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจโลกน่าจะดีขึ้น ทั้งนี้การผลิตรถยนต์ในเยอรมนีคาดว่าจะขยายตัวประมาณ2% ส่วนการลงทุนนอกประเทศเยอรมนีมุ่งเน้นไปที่ประเทศจีน เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ มีกำลังซื้อสูง ความต้องการรถยนต์ในตลาดจีนขยายตัวอย่างมาก และได้รับผลตอบแทนสูงสุดกว่าตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะรถยนต์จากเยอรมนีสามารถขายได้ราคาแพง และเป็นที่ต้องการ ประกอบกับกรณีที่จีนต่อต้านสินค้าจากญี่ปุ่นจีนจึงหันมาหารถยนต์เยอรมนีเช่นออดิ, BMW, เมอซิเดสเบนซ์แทน ในปี 55 เป็นครั้งแรกที่ผู้บริโภคจีนซื้อรถยนต์มากกว่าผู้ซื้อในประเทศยุโรปในขณะที่ตลาดรถยนต์ยุโรป เช่น ฟอร์ด,เรโนลต์, โอเปิ้ลประสบกับปัญหาการตลาด เปอร์โยซีตรองต้องปรับลดจำนวนงานลง 10,000 งานมีจำนวนรถยนต์ใหม่จำนวน 13.2 ล้านคันได้รับการขึ้นทะเบียนในจีน ในยุโรปจำนวนรถจดทะเบียนตกลงจากเดิม 13.6 ล้านคัน เป็น 12.5 ล้านคัน เนื่องจากจำนวนคนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อของจีนมีเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อของคนยุโรปเริ่มลดลง คาดการณ์ว่าภายในปี 2573 ตลาดรถยนต์ในประเทศจีนจะโตกว่าตลาดรถยนต์ในยุโรปบวกตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา และจะเข้ามาถือครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์โลกถึง 23.8% สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร.(02) 507-7932-34

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ