กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ไอเดียเวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจเมล็ดพันธุ์อันดับหนึ่งของประเทศไทย เดินหน้าดำเนินแผนธุรกิจครองตำแหน่งผู้นำตลาดในเอเชีย จัดงานแสดงผลผลิตพืชผักบนพื้นที่กว่า 10 ไร่ เพื่อผู้ค้าเมล็ดพันธุ์ชาวต่างชาติในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอวิธีการปลูกและการให้ผลผลิตจากเมล็ดพันธุ์ อาทิ แตงกวา เมล่อน แตงโม ฟักทอง มะเขือเทศ พริก มะระ มะเขือ ที่ทางเจียไต๋พัฒนาขึ้นให้มีรูปทรง สีสันให้ตรงกับความต้องการของแต่ละตลาด พืชมีความคงทนต่อโรคและให้ผลผลิตเยี่ยม ตอบโจทย์ความต้องการผู้ค้าเมล็ดพันธุ์ในต่างประเทศ ณ ไร่ชนม์เจริญฟาร์ม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
คุณบุญมี ออกแมน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธุรกิจเมล็ดพันธุ์ บริษัท เจียไต๋ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชของเจียไต๋ใหญ่ติดอันดับผู้นำในเอเชีย มีสินค้าส่งไปขายในกว่า 35 ประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และจีนตอนใต้ ซึ่งในกลุ่มประเทศเหล่านี้ คู่แข่งรายใหญ่ในตลาดมาจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งยังไม่มีความชำนาญด้านพืชเขตร้อนเ ท่ากับเรา ภูมิภาคนี้จึงเต็มไปด้วยโอกาสที่เจียไต๋จะวางรากฐานขยายธุรกิจ
“เราให้ความสำคัญมากกับการลงทุนวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ซื้อและสภาพภูมิอากาศที่ต่างกันของแต่ละประเทศ ทำให้เมล็ดพันธุ์ของเราเป็นที่นิยมของเกษตรกรทั่วเอเชีย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เจียไต๋เน้นการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ด้วยเงินลงทุนที่สูง ให้ความสำคัญในเรื่องของ "นวัตกรรม" การพัฒนาพันธุ์ใหม่ๆ ที่สามารถแก้ปัญหาและขจัดอุปสรรคการปลูกให้เกษตรกร และตอบโจทย์ความต้องการบริโภคของผู้บริโภคได้ดีที่สุด จึงทำให้เราสามารถขยายธุรกิจไปได้ในเขตร้อนทั่วโลก ทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง จนทำให้วันนี้การค้าต่างประเทศใหญ่กว่าในประเทศ”
สำหรับเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจากเกษตรกรในต่างประเทศ และถือเป็นจุดแข็งของเจียไต๋ที่พัฒนาและส่งออกไปสู่ประเทศในเขตร้อน ได้แก่ แตงกวา ฟักทอง มะระ บวบ มะเขือเทศ พริก เมล่อน และแตงโม ทั้งนี้ เมล็ดพันธุ์ที่ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นการจำหน่ายภายในประเทศ
“ด้วยประสบการณ์กว่า 90 ปี ทำให้เราเรียนรู้ว่าการลงทุนทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทำให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์คุณภาพ จึงส่งผลให้เมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋ได้รับการยอมรับจากเกษตรกรและผู้บริโภคทั่วโลก และในปีนี้เราจึงตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในต่างประเทศที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้เรามีความภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเมล็ดพันธุ์คุณภาพของเราได้ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ขายได้ราคาดี ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพอีกด้วย” นายบุญมี กล่าวทิ้งท้าย