กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--แสนสิริ
แสนสิริ โชว์ศักยภาพผู้นำการพัฒนาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองอย่างแท้จริงประกาศ ปิดการขาย ‘EDGE Sukhumvit 23’ คอนโดใจกลางสุขุมวิท 100%โกยยอดขายอีก 2,900 ล้านบาทในไตรมาสแรก
แสนสิริโชว์ศักยภาพผู้นำด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองอย่างแท้จริง ประกาศปิดการขายคอนโดมิเนียมซีรีย์ใหม่ ‘EDGE Sukhumvit 23’ (เอดจ์ สุขุมวิท 23) บนทำเลใจกลางสุขุมวิท เพียง 150 เมตร จาก BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท มูลค่าโครงการรวม 2,900 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ครองความเป็นเจ้าตลาด ผู้นำด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะในทำเลติดเส้นทางรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง หลังปลายปีที่ผ่านมาสร้างกระแส talk of the town ในการทุบสถิติปิดการขาย ‘The XXXIX’ (เดอะ เทอร์ทีไนน์) ระดับราคาเกิน 2 แสนบาทต่อตรม.ในโซนสุขุมวิทลงอย่างรวดเร็วในวันพรีเซลล์ ~เผยที่มาความสำเร็จจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าด้านความเป็นที่สุดของทำเลที่ตั้ง รวมทั้งคอนเซ็ปต์โครงการที่ตอบโจทย์ของคนที่ใช้ชีวิตอย่างสุดขั้ว หรือ (Young & Restless Generation) ได้เป็นอย่างดี
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปิดการขายคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุด ‘EDGE Sukhumvit 23’ (เอดจ์ สุขุมวิท23) สร้างยอดขายรวมถึงประมาณ 2,900 ล้านบาท โดยบริษัทประสบความสำเร็จตามแผนการพัฒนาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองเพื่อตอบรับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องในฐานะที่แสนสิริเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะในทำเลติดเส้นทางรถไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมในทุกโครงการของแสนสิริที่พัฒนาและเปิดการขายโดยเฉพาะในทำเลติดเส้นทางรถไฟฟ้าล้วนได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจนส่งผลให้สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
“สำหรับความสำเร็จของโครงการ EDGE Sukhumvit 23 มาจากความเป็นที่สุดทั้งในด้านทำเลที่ตั้งซึ่งติดรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย (เพียง 150 เมตรจาก BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท) ใกล้ออฟฟิศต่างๆ มากมาย รายล้อมด้วยร้าน อาหารหลากรูปแบบ และอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิปยามค่ำคืนอย่างทองหล่อเพียง 10 นาที รวมทั้งยังนับคอนโดมิเนียมซีรีส์ใหม่จากแสนสิริ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่ใช้ชีวิตอย่างสุดขั้ว (Young & Restless Generation) ได้เป็นอย่างดีซึ่งนับเป็นการสร้างปรากฎการณ์การปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมติดเส้นทางแนวรถไฟฟ้าลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง หลังจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทสร้างกระแส talk of the town ในการปิดการขายคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในซอยสุขุมวิท 39 โครงการ ‘The XXXIX’ (เดอะ เทอร์ทีไนน์) จากการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะห้องขนาด 3 ห้องนอนและเพนท์เฮาส์ราคาสูงสุดถึง 80 ล้านบาท ที่ได้รับการตอบรับเข้าจองตั้งแต่การเปิดขายในรอบเอ็กซ์คลูซีฟ พรีวิวจากกระแสความต้องการที่เรียกร้องให้เปิดการขาย จนส่งผลให้สามารถปิดการขายโครงการได้ 100% อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน” นายเศรษฐา กล่าว
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา แสนสิริมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมมาแล้วประมาณกว่า 20 โครงการ มีจำนวนยูนิตการอยู่อาศัยเกือบ 3,700 ยูนิต มูลค่าโครงการขายรวมเกือบ 32,000 ล้านบาท โดยมากกว่าร้อยละ 90 เป็นโครงการระดับพรีเมี่ยมที่อยู่ในพื้นที่ใจกลางย่านธุรกิจ (CBD) อาทิ ย่านสีลม สาทร ราชดำริ ร่วมฤดี รวมถึงย่านคอนโดมิเนียมสุดฮิตอย่างสุขุมวิทและทองหล่อ ตัวอย่างโครงการระดับพรีเมี่ยมที่มีการสร้างเสร็จในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา อาทิ โครงการ Prive’ by Sansiri, Quattro by Sansiri เป็นต้น
“สำหรับความสำเร็จในการปิดการขายโครงการ EDGE Sukhumvit 23 มูลค่าโครงการขายประมาณ 2,900 ล้านบาทนี้ เมื่อรวมกับความสำเร็จจากการปิดการขาย ดีคอนโด เนินพระ คอนโดมิเนียมโครงการแรกในจังหวัดระยอง มูลค่าโครงการรวม 600 ล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จปิดการขายอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน (1 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ 2556) บริษัทมียอดขายรวมแล้ว 7,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับความสำเร็จ จากเป้าหมายยอดขายที่อยู่อาศัยในงาน แสนสิริ ไลฟ์คัมส์โฮม 2013 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์นี้ จากเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้คิดเป็นมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท จึงคาดว่าจะเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญที่ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมในช่วงไตรมาสแรกได้ถึง 20,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งหากสามารถทำได้ตามเป้าหมายจะนับเป็นการบันทึกประวัติการณ์ การทุบสถิติสร้างยอดขายรายไตรมาสที่สูงที่สุดของแสนสิริอีกครั้งในปี 2556 ” นายเศรษฐา กล่าว