กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในการขยายตลาดใหม่ ภายใต้นโยบายรัฐบาล โดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่เน้นให้กระจายสินค้าและบริการของไทยอย่างมีประสิทธิภาพว่า สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศที่มีความได้เปรียบทางด้านศักยภาพการผลิตและทำเลที่ตั้งที่ล้อมรอบด้วยเยอรมัน โปแลนด์ ออสเตรียและสโลวัก จึงมีบริษัทข้ามชาติและการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาใช้เป็นศูนย์กลางเพื่อผลิตและส่งออกในหลากหลายอุตสาหกรรม
“นโยบายการลงทุนของเช็กนักลงทุนและชาวต่างชาติจะได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกันกับนักลงทุนในประเทศ ภายใต้กฎหมายปกป้องและคุ้มครองนักลงทุน เช็กได้ลงทุนในสนธิสัญญาว่าด้วยการป้องกันภาษีซ้ำซ้อนกับหลายประเทศ รวมถึงไทยด้วย อีกทั้งการส่งกลับผลกำไรสามารถทำได้ ไม่จำกัดจำนวน ทั้งธุรกิจข้ามชาติและธุรกิจร่วมทุน สามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับเงินทุนสำรองได้”
ทั้งนี้รัฐบาลเช็กมีนโยบายสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในเช็ก ซึ่งเป็นโอกาสแก่นักลงทุนไทยต่อการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงโอกาสการขยายช่องทางการกระจายสินค้าจากเช็กสู่ประเทศฝรั่งยุโรปตะวันตกและตะวันออก ดังนั้นเพื่อเชื่อมต่อและพัฒนาความร่วมมือมือทางการค้าให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากรายได้หลักมาจากการส่งออกถึง 68% และในปี 2555 เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 81% ของการส่งออก โดยมีตลาดหลักคือกลุ่มอียู 27 ประเทศ
“การท่องเที่ยวสร้างรายได้หลักเป็นอันดับ 2 แต่เช็กเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญในภูมิภาคยุโรปที่ชัดเจน โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในเช็กประมาณปีละกว่า 100 ล้านคน การบริการรองรับนักท่องเที่ยวยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยว รวมทั้งการบริการที่ยังมีคุณภาพด้อยกว่าไทย ดังนั้นธุรกิจภาคบริการ จึงมีโอกาสสูง โดยเฉพาะธุรกิจสปาและอาหารไทยได้รับความนิยมอย่างมากจากประชากรของเช็กเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องด้วยกิจการของไทยมีลักษณะของขนบธรรมเนียมความเป็นไทยอย่างโดดเด่น ซึ่งขณะนี้มีธุรกิจอาหารไทยจำนวน 12 ร้านในกรุงปราก และ สปาแผนไทย 40 ร้าน ซึ่งธุรกิจทั้ง 2 ประเภทเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง”นางศรีรัตน์ กล่าว
สำหรับโอกาสการค้าการลงทุนของไทย ซึ่งเช็กเป็นฝ่ายเสียดุลการค้าต่อไทย โดยไทยส่งออกไปยังเช็คคิดเป็น 4 เท่าตัว หรือราว 764 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 183 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการนำเข้าสินค้าจากไทยไปเช็ก ไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ในกลุ่มอาเซียน และอยู่อันดับ 4 จากเอเชีย รองจากจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ อุปกรณ์ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และเครื่องรับวิทยุ เป็นต้น และอุตสาหกรรมสินค้าที่สามารถสร้างโอกาสการลงทุนให้แก่ไทยในเช็ก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ ผลิตภัณฑ์อาหาร ธุรกิจบริการและโลจิสติกส์
ปัจจุบันการลงทุนทางการค้าระหว่างประเทศถือว่าสำคัญ โดยเฉพาะการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ที่ทุกภาคส่วนร่วมกันสนับสนุน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ไทย หากแต่ตลาดการค้ายุโรปยังถือเป็นตลาดการค้าหลักที่สำคัญที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ เนื่องจากสาธารณรัฐเช็กเป็นสมาชิกกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจยุโรป ที่มีประชากรรวมกันกว่า 500 ล้านคน ยิ่งเมื่อรวมกับความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมและทักษะแรงงาน
สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร.(02) 507-7932-34