กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--MMM Digital
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 บรูซ วิลลิส ได้รับรางวัล Commander of the Arts and Letters ที่กระทรวงวัฒนธรรมและการสื่อสาร ณ กรุงปารีส. ซึ่งรางวัลนี้เพื่อเป็นเกียรติที่เขาได้ให้ความสำคัญของการเผยแพร่ศิลปะและวรรณกรรม โดย Madame Aurelie Filippetti (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการสื่อสาร) เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ บรูซ วิลลิส.
ประวัติ บรูซ วิลลิส
บรูซ วิลลิส เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2498 ปัจจุบันอายุ 57 ปี เค้าพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันน่าทึ่งหลายด้านในการทำงาน ซึ่งรวมถึงการแสดงบทบาทหลากหลาย เช่น นักชกมวยอาชีพในภาพยนตร์ของควินติน ตารานติโน่ เรื่อง Pulp Fiction (คว้ารางวัล Palme D’Or ที่ Cannes ในปี 1994), ผู้รับเหมาจอมเจ้าชู้ในภาพยนตร์ของโรเบิร์ต เบ็นตัน เรื่อง Nobody’s Fool, ผู้เดินทางย้อนเวลาอย่างกล้าหาญในภาพยนตร์ของเทอร์รี่ กิลเลม เรื่อง 12 Monkeys ทหารผ่านศึกชาวเวียดนามในภาพยนตร์ของนอร์แมน เจวิสัน เรื่อง In Country, นักจิตวิทยาเด็กผู้มีความเมตตาในภาพยนตร์ของ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลานที่เข้าชิงรางวัล Oscar เรื่อง The Sixth Sense (ที่เขาได้รับรางวัล People’s Choice Award) และบทบาทนักสืบจอห์น แม็คเคลน ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Die Hard
หลังจากการศึกษาที่ Montclair State College’s อันทรงเกียรติด้านการแสดงละคร ชาวนิวเจอร์ซีย์คนนี้จึงฝึกฝนฝีมือในการแสดงละครเวทีอีกหลายเรื่อง รวมถึงโฆษณาทางทีวีที่มากมายจนนับไม่ได้ ก่อนที่จะมาแสดงละครเวทีแนวดราม่าของแซม เชพาร์ด ปี 1984 เรื่อง “Fool for Love” ซึ่งเป็นการแสดงที่มากกว่า 100 ครั้งของ off-Broadway
ต่อมาวิลลิสมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้รับรางวัลด้านการแสดงมากมาย เช่น Emmy และ Golden Globe สำหรับการรับบทแสดงเป็น เดวิด แอดดิสัน นักสืบเอกชนในซีรี่ส์ทางทีวียอดนิยม เรื่อง Moonlighting เขาได้ครองบทบาทจากคู่แข่งอื่นอีกกว่า 3,000 คน ในเวลาเดียวกันเขาแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกคู่กับคิม บาซิงเกอร์ ในภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ของเบลค เอ็ดเวิร์ด เรื่อง Blind Date
ในปี 1988 เขาเริ่มแสดงบท จอห์น แม็คเคลน ในภาพยนตร์เรื่องดัง Die Hard หนึ่งในภาพยนตร์ที่กวาดรายได้สูงสุดแห่งปี ต่อมาเขากลับมาแสดงบทเดิมในภาพยนตร์ 4 ภาคต่อมา ได้แก่ Die Hard 2 (1990), Die Hard with a Vengeance (แชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกปี 1995), Live Free, Die Hard (หนึ่งในภาพยนตร์ยอดนิยมของบ็อกซ์ออฟฟิศช่วงซัมเมอร์ปี 2007) และเรื่อง A Good Day to Die Hard ในตอนนี้
บทบาทมากมายของเขายังรวมถึงในการร่วมงานกับผู้สร้างภาพยนตร์ที่ได้รับการนับถือ เช่น ไมเคิล เบย์ (Armageddon), เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (The Sixth Sense และ Unbreakable), อลัน รูดอล์ฟ (Mortal Thoughts, Breakfast of Champions), วัลเตอร์ ฮิล (Last Man Standing), โรเบิร์ต เบ็นตัน (Billy Bathgate, Nobodys Fool,), บ็อบ ไรเนอร์ (The Story of Us), เอ็ด ซวิค (The Siege), ลุค เบซอง (The Fifth Element), แบร์รี่ เลวินสัน (Bandits, What Just Happened), โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Death Becomes Her) และโรเบิร์ต โรดริเกซ (Sin City, Grind House)
ภาพยนตร์เรื่องอื่นที่มีชื่อเสียง ได้แก่ The Jackal, Mercury Rising, Harts War, The Whole Nine Yards (และภาคต่อ The Whole Ten Yards), The Kid, Tears of the Sun, Hostage, 16 Blocks, Alpha Dog, Lucky Number Slevin และ Perfect Stranger เขายังให้เสียงพากย์เป็นตัวละคร มิคกี้ ทารกอัจฉริยะในเรื่อง Look Who’s Talking และ Look Who’s Talking Too รวมถึงตัวละครนำอาร์เจและสไปค์ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดนิยม เรื่อง Over the Hedge และ Rugrats Go Wild! ตามลำดับ
ในปีก่อนวิลลิสเพิ่มความสำเร็จให้ตัวเองด้วยภาพยนตร์ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อีก 2 เรื่อง ได้แก่ ภาพยนตร์ของผู้กำกับฯ เวส แอนเดอร์สัน เรื่อง Moonrise Kingdom ที่วิลลิสและภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Independent Film Award และภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญของผู้กำกับฯ เรียน จอห์นสัน เรื่อง Looper ซึ่งแสดงร่วมกับโจเซฟ กอร์ดอน เลวิตต์ วิลลิสจะกลับมาร่วมงานกับเฮเลน เมอร์เรน, จอห์น มัลโควิช และ แมรี่ หลุยส์ ปาร์คเกอร์ ในภาพยนตร์เรื่อง Red 2 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ภาคต่อจาก Red ที่เข้าชิงรางวัล Golden Globe
นอกจากผลงานของเขาเบื้องหน้าแล้ว วิลลิสยังอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Hostage และ The Whole Nine Yards รวมถึงอำนวยการสร้างเรื่อง Breakfast of Champions ที่ดัดแปลงจากนิยายขายดีของเคิร์ต วอนนีกัต เขากับเดวิส วิลลิส พี่ชายของเขาและหุ้นส่วนทางธุรกิจ สตีเฟ่น เอดส์ ได้ร่วมกันก่อตั้ง Willis Brothers Films บริษัทผลิตภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส
วิลลิสยังให้ความช่วยเหลือด้านละครเวทีอีกด้วย ในปี 1997 เขาร่วมก่อตั้ง A Company of Fools ซึ่งมีคณะนักแสดงโรงละครที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อพัฒนาและอนุรักษ์การแสดงละครเวทีเอาไว้ใน Wood River Valley of Idaho และทั่วสหรัฐฯ เขาแสดงและกำกับละครเวทีแนวดาร์กคอมเมดี้ของแซม เชพาร์ด เรื่อง True West ที่ Liberty Theater ใน Hailey, Idaho การแสดงเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันระหว่างสองพี่น้อง มีการออกอากาศทางช่อง Showtime และเป็นการอุทิศแด่ โรเบิร์ต พี่ชายของวิลลิสผู้ล่วงลับไปแล้ว
วิลลิสเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง เขาเคยอัดเสียง 1986 Motown album The Return of Bruno, ซึ่งได้รับแผ่นเสียงแพลทินัมและครองอันดับ 5 ของ Billboard “Respect Yourself” สามปีต่อมา เขาบันทึกเสียงอัลบั้มที่ 2 If It Don’t Kill You, It Just Makes You Stronger ในปี 2002 เขาได้จัดทำ U.S. club tour ร่วมกับกลุ่มนักดนตรีของเขาที่ชื่อ Bruce Willis and the Blues Band และเขาเดินทางไปที่อิรักเพื่อแสดงให้เหล่าทหารอเมริกันรับชมด้วย
ติดตามชมผลงานล่าสุดของ บรูซ วิลลิส ในบทบาท จอห์น แม็คเคลน จากภาพยนตร์เรื่อง A Good Day to Die Hard — วันดีมหาวินาศ คนอึดตายยาก 14 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น